ข่าว

บิ๊กป๊อก ยันไม่มีใครอยากมีคดี ครม.ไม่ใช่นายกฯสั่งการ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อนุพงษ์" แจงรถไฟสายสีทอง เอกชนออกเงินค่าก่อสร้างรัฐได้รถไฟฟ้าโดยไม่ต้องลงทุน ประชาชนได้ประโยชน์ ติงอย่าอ้างเอื้อคนรวย ขัดขวางการพัฒนา ครม.ไม่ใช่นายกฯสั่งการคนเดียว

 

 

 

          รัฐสภา -25 ก.พ.2563-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองว่า เป็นโครงการที่บรรจุในแผนพัฒนาขนส่งมวลชนระดับรอง โดยโครงการสายสีทองเป็น 1 ใน 8 สาย ที่คณะกรรมการจัดระบบการจราจร(คจร.) เห็นชอบให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการ ซึ่งกทม.มอบให้

 

 

 

 

บิ๊กป๊อก ยันไม่มีใครอยากมีคดี ครม.ไม่ใช่นายกฯสั่งการ

 

 

               บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที เป็นผู้ดำเนินการหาแนวทางการลงทุนโดยไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐ จึงมีการตกลงกับภาคเอกชนที่จะซื้อโฆษณาล่วงหน้า 30 ปี วงเงิน 2,000 ล้านบาท ขอชี้แจงว่าระบบรางในสายหลักและสายรอง ปัญหาคือทำได้ช้า การลงทุนกว่าจะคุ้มทุนต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี  ในอดีตเอกชนลงทุนเองมีเพียงรายเดียวคือบีทีเอส ซึ่งบริษัทธนายงก็ประสบปัญหาขาดทุน 

 

 

           จากนั้นไม่มีการสร้างโดยเอกชนเลย รัฐต้องสร้างแล้วจ้างเอกชนเดินรถตนอยากเสนอให้สังคมได้พิจารณาการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง หากเอกชนหรือผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างงานโยธาของเอกชนไปในพื้นที่ของตัวเอง โดยขอลงทุนเองทั้งหมดก็น่าจะพิจารณา บนเงื่อนไขที่ประเทศและประชาชนได้ผลประโยชน์ และต้องเป็นไปตามกฎหมายและเป็นธรรม มิเช่นนั้นก็ต้องรอใหรัฐลงทุน ซึ่งไปเป็นได้ช้าโครงการสายสีทองเหมือนเอกชนเอาเงินให้เคทีก่อสร้าง รัฐได้รถไฟฟ้าสายสีทองโดยไม่ต้องเสียเงินลงทุน ประชาชนได้รถไฟสายสีทองเดินทางจากสายรองไปสู่สายหลัก เอกชนก็ได้ประโยชน์จากการประกอบธุรกิจ โดยจะต้องจ้างบีทีเอสเดินรถแน่นอน เพราะเขาเดินรถสายสีเขียวอยู่ การจ้างเจ้าอื่นเป็นไปได้ยาก

 

 

             "สำหรับคำว่า เอื้อ" อยากชี้แจงว่า การลงทุนในประเทศมีทั้งนักลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศ สังคมกำลังคิดว่าเอกชนรวยมาก แต่ตนอยากให้คิดว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าคนรวยลงทุนถูกกฎหมายแล้วเราจะหาข้อห้ามมาขัดขวาง จะให้ต่างชาติมาลงทุน ทั้งที่เรามีความสามารถทำได้ มติครม. นายกฯสั่งไม่ได้ ไม่มีใครยอมเป็นคดี ในครม.หลายเรื่องหน่วยงานไม่เห็นด้วยก็ถอนกลับไป มีเป็นประจำ มติครม.คือครม.ไม่ใช่นายกฯ ถ้าเอกชนทำงานได้ เขาควรได้แค่ไหน สังคมน่าจะรับไปพิจารณา ถ้าไม่ถูกต้องไม่ได้ ถ้าอยากลดช่องว่างคนรวยถือมูลค่าทรัพย์สินสูง หรือต้องการลดความเหลื่อมล้ำก็ต้องแก้ด้วยวิธีอื่น ซึ่งส.ส.ทั้งหมดรู้ดี และทำได้  100%  แต่ ไม่ใช่มากล่าวหาว่าเอื้อ "  พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ