ข่าว

หึ่ง 9 ส.ส.อนค. ซบ ภท. รัฐจ่อฟ้อง "ช่อ" ปูดข้อมูลเท็จ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หึ่ง 9 ส.ส.อนาคตใหม่ ซบ "ภูมิใจไทย" ปลื้มงานดี ไม่แบ่งชั้น รัฐจ่อฟ้อง "ช่อ" ปูดข้อมูลเท็จ

 

               “นายกฯ” อัดช่อจับแพะชนแกะกล่าวหารัฐบาลพันทุจริตกองทุน 1 เอ็มดีบี สั่งทุกหน่วยงานเก็บทุกประเด็นก่อนดำเนินคดีฟ้องร้อง ขณะที่ สตช.-ตม.เอาด้วยสั่งถอดเทปก่อนดำเนินคดี "ช่อ" ลั่นไม่หวั่น เดินหน้าลุยต่อ ด้าน กกต.สั่งคัดคำวินิจฉัยก่อนฟันอาญาธนาธร เล็งเชือด 32 พรรคการเมืองกู้เงิน ขณะที่ 36 คณาจารย์-นิสิต-นักศึกษามหาวิทยาลัยดังออกแถลงการณ์เห็นแย้งยุบ อนค.

 

อ่านข่าว "ดอน"ซัดกลับ"ช่อ"ข้อมูลมั่วมาก เจอฟ้องกลับแน่-รับคิดลาออก

 

               ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ทำให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค พร้อมแกนนำประกาศตั้งคณะอนาคตใหม่เพื่อทำงานตรวจสอบนอกสภา

 

               โดยหลังจากนั้น น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ออกมากล่าวหารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจมีส่วนปกปิดซ่อนเร้นคดีอาชญากรรมทางการเงิน 1 เอ็มดีบี (1 Malaysia Development Berhad) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของมาเลเซีย โดยทางการไทยมีส่วนร่วมในการจับกุมคนบริสุทธิ์เข้าคุก บิดผันกระบวนการยุติธรรมและทำลายความสัมพันธ์กับหลายประเทศ

 

“บิ๊กตู่”สั่งเก็บทุกประเด็นจ่อฟ้องช่อ

 

               ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องการกล่าวหารัฐบาลมีส่วนร่วมคดีทุจริต คิดว่าต้องระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ การนำเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงไปมาในลักษณะเรียกง่ายๆ จับแพะชนแกะ

 

               ซึ่งข้อเท็จจริงคิดว่าหน่วยงานต่างๆ มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่เขายังไม่โต้ตอบอะไรในตอนนี้ เพียงแต่กำลังเก็บทุกประเด็น นำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมาย เพราะหลายเรื่องหลายคนกล่าวอ้างเองตรงนั้นและเรื่องเหล่านี้มีคำชี้แจงทั้งหมด และได้รับคำชี้แจงมาหมดแล้ว คิดว่าเก็บไว้เป็นประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรมจะดีกว่า

 

รัฐบาลโต้ไม่จริง-ลั่นฟ้องช่อแน่

 

               ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “กรณีที่มีการแถลง ระบุรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องคดีทุจริต 1 เอ็มดีบี ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นการกล่าวหาให้ร้ายทำให้สังคมสับสน และขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาจะดำเนินคดีทางกฎหมาย และหลังจากนี้จะประสานกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงอย่างเป็นทางการต่อไป”

 

บิ๊กป้อมลั่นใครทำผิดสั่งจับตา

 

               ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.พรรณิการ์ ออกมากล่าวหารัฐบาลเกี่ยวข้องคดีทุจริตกองทุน 1 เอ็มดีบี ว่า ไม่มี โฆษกรัฐบาลก็บอกแล้วว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี ส่วนจะต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวคณะอนาคตใหม่เป็นพิเศษหรือไม่นั้น จับตาทุกฝ่ายถ้าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ก็ว่ากันไป ทำตามกฎหมายทุกอย่าง ใครที่ดีทำถูกกฎหมายก็ไม่ต้องกลัว

 

               เมื่อถามว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวรุนแรงหรือไม่ เพราะอาจจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินคดี จะไปห้ามไม่ให้เขาพูดก็ไม่ได้ และไม่ทราบว่าเขาได้ข้อมูลมาอย่างไร ส่วนที่ตั้งสังเกตว่าได้ข้อมูลมาจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)นั้น ไม่ทราบ ส่วนจะต้องตรวจสอบแหล่งที่มาข้อมูลของ น.ส.พรรณิการ์ หรือไม่ว่าใครปล่อยข้อมูลนั้น ทางโฆษกรัฐบาลก็บอกแล้วว่าจะดำเนินคดี

 

‘ช่อ’ ลั่นไม่หวั่นรัฐบาลฟ้องกลับ

 

               ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมฟ้องกลับภายหลังแถลงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนอกสภาผู้แทนราษฎรว่า เรื่องนี้น่าผิดหวังสำหรับรัฐบาล เพราะต้องการให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบและแสดงความจริงใจกับประชาชน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการถูกฟ้องร้อง หากจะกล่าวหาว่าพูดลอยๆ ก็ขอให้นำหลักฐานออกมาชี้แจง พร้อมย้ำว่า ประชาชนมีสิทธิรับรู้ความจริง จึงต้องมีคำตอบจากรัฐบาล อีกทั้งมั่นใจในหลักฐานที่นำมาเปิดเผย เพราะอะไรที่ไม่มีหลักฐาน จะไม่พูด อะไรที่เป็นความจริงว่ารัฐบาลทำก็จะแถลงว่ารัฐบาลทำ

 

               น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการฟ้องร้องนั้นพร้อมเข้าสู่กระบวนการ แต่ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ฟ้องมาคนเดียว ไม่จำเป็นต้องรบกวนหน่วยงานอื่นมาฟ้องร้อง เพราะทราบว่าจะให้หน่วยงานที่ถูกพาดพิงมาฟ้องร้องด้วย จะเป็นภาระของหน่วยงานราชการที่ดูแลประชาชน เพราะมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นต้น ที่สำคัญไม่กลัวการฟ้องกลับ ไม่เช่นนั้นคงไม่เดินมาถึงขั้นนี้ และไม่ใช่การแก้แค้นที่ถูกยุบพรรคอนาคตใหม่


ตร.เด้งรับสั่งสอบช่อให้สัมภาษณ์

 

               พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตรวจสอบถ้อยคำที่แถลงทั้งหมดว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร เพราะเป็นการกล่าวหา พาดพิง ให้ร้าย รัฐบาล หน่วยงานรัฐ และเจ้าหน้าที่หลายราย ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรและเกิดความสับสนแก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าประการใดจะชี้แจงให้ทราบอย่างเป็นระยะต่อไป

 

ตม.จ่อฟ้องกลับ“ช่อ พรรณิการ์”

 

               พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบช.สตม. กล่าวว่า มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐาน หากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเสียหาย ประชาชนเกิดความสับสน โดยมีความผิดชัดเจนกรณีระบุว่า ลบข้อมูลเดินทางเข้าออกของจัสมินลู 22 รายการ ซึ่งความจริงไม่มีการลบข้อมูล แต่กลับตรวจพบข้อมูลมากกว่าข้อมูลของ น.ส.พรรณิการ์ ซึ่งจะฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมมองว่า น.ส.พรรณิการ์อาจถูกต้ม จึงได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน สตม.ก็จะต้องตรวจสอบว่ามีคนใน หรือเกลือเป็นหนอน ส่งข้อมูลให้ น.ส.พรรณิการ์ หรือไม่ด้วย

 

สมช.จับตา‘คณะอนาคตใหม่’เคลื่อนไหว

 

               ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ น.ส.พรรณิการ์อภิปรายนอกสภากรณี 1 เอ็มดีบี เชื่อมโยงกับรัฐบาลไทย จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ต้องไปดูหลักฐาน รัฐบาลกำลังดูอยู่ว่าจริงหรือไม่ และไปพาดพิงในลักษณะที่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดหรือไม่ ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนการดูแลความเรียบร้อยในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีนั้น ยังไม่น่ามีอะไร

 

‘กกต.’ถก ฟันอาญา‘ธนาธร-กก.บห.’

 

               วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำนักงานรายงานให้ กกต.ทราบ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่จากเหตุกู้เงินจำนวน 191.2 ล้านบาทจาก นายธนาธร หัวหน้าพรรค รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ที่ กกต.จะต้องแจ้งให้พรรคอนาคตใหม่ปฏิบัติ โดยในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ที่ประชุม กกต.ได้ให้สำนักงานไปขอคัดคำวินิจฉัย รวมถึงคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการทุกคนมาเพื่อพิจารณาว่า มีกี่ประเด็นที่เข้าข่าย กกต.ต้องดำเนินคดีอาญา เนื่องจากการดำเนินคดีอาญาจะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ

 

เล็งเชือด32 พรรคการเมืองกู้เงิน

 

               รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ 32 พรรคการเมือง ที่มีการกู้เงินในลักษณะเดียวกันกับพรรคอนาคตใหม่ก่อนหน้านี้ นายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีหนังสือไปยังทั้ง 32 พรรค เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่ผ่านมา ให้ชี้แจงว่า รายการกู้ยืม เงินทดรองจ่าย เงินยืม ที่แสดงในรายการงบการเงินของพรรคปี 2561 ที่ยื่นต่อ กกต.นั้น เป็นการกู้แบบใด ยอดเงินที่มีการแจ้งนั้น เป็นการกู้จากบุคคลเดียว หรือเป็นยอดรวมที่กู้จากหลายบุคคล และกู้ในช่วงเวลาใด ก่อนหรือหลังการบังคับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

 

36 อาจารย์มธ.เห็นแย้ง‘ศาลรธน.’

 

               วันเดียวกัน คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 36 คน ร่วมออกแถลงการณ์เห็นแย้งต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ที่มีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยตั้งข้อสังเกตประการสำคัญต่ออำนาจในการออกคำสั่งยุบพรรคการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ ศาลรัฐธรรมนูญอาจยุบพรรคการเมืองได้เฉพาะกรณีที่พรรคการเมืองนั้นกระทำความผิดอย่างร้ายแรงจนถึงขนาดที่ไม่สามารถอ้างความคุ้มครองจากเรื่องเสรีภาพของพรรคการเมืองได้เท่านั้น 

 

               การยุบพรรคการเมืองจึงต้องเป็นมาตรการสุดท้ายของบรรดามาตรการอื่นๆ เมื่อไม่มีมาตรการอื่นที่มีประสิทธิภาพและได้สัดส่วนแล้วเท่านั้น และในกรณีที่ไม่ได้ความชัดแจ้งว่าพรรคการเมืองใดกระทำการในลักษณะดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญพึงต้องจำกัดอำนาจตนเอง

 

มหิดล-สภานิสิตจุฬาฯออกแถลงการณ์

 

               ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล กรณียุบพรรคอนาคตใหม่ โดยมีการออกแถลงการณ์และจัดตั้งภาคีนักศึกษาศาลายา (Coalition of Salaya Students) เพื่อเดินหน้าสังคมประชาธิปไตย โดยมีการนัดหมายรวมตัวในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 18.30 น. เพื่อแสดงพลัง

 

               ด้านสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ความคิดเห็นต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ย่อมสร้างประเด็นปัญหาในเรื่องการตีความกฎหมาย และทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงเรื่องความยุติธรรมในการวินิจฉัยคดี รวมถึงย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อศาลรัฐธรรมนูญ

 

ผึ้งแตกรัง 9 ส.ส.อนาคตใหม่ ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” 

 

               เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมรัฐสภา ระหว่างที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ปรากฏว่ามี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่จำนวน 9 คน ไปนั่งอยู่ฝั่งเดียวกับที่นั่ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย รวมถึงมี ส.ส.บางคนยังไปร่วมรับประทานอาหารที่ห้องรับรอง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย

 

               โดย ส.ส.ทุกคนได้ติดบัตรที่หน้าอก แต่ได้คว่ำบัตรปิดชื่อของตัวเองไว้ ได้แก่ นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. เขต 23 ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต 10 นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21 นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

               ทั้งนี้ หนึ่งใน ส.ส.อนาคตใหม่กล่าวถึงสาเหตุที่ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นพรรคที่เน้นการทำงาน ประกอบกับสภาพแวดล้อมของพรรคอยู่กันแบบพี่แบบน้อง ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นหรือยศถาบรรดาศักดิ์ จึงทำให้ส.ส.เหล่านี้เกิดความสบายใจ

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ