ข่าว

ครม. อนุมัติเงินกู้ปลอด ดบ.กว่า 500 ล้าน สร้างแหล่งเก็บน้ำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ครม. อนุมัติ เงินกู้ปลอดดอกเบี้ยกว่า 500 ล้านบาท หนุนเกษตรกร สร้างแหล่งเก็บน้ำ ลดพึ่งพิงน้ำจากธรรมชาติและระบบชลประทาน

 

 

          เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2563 - ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิกสถาบันเกษตรกร ระยะที่ 2 วงเงิน 508.2 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร 

 

          โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิกสถาบันเกษตรกร มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.จัดสรรเงินทุนให้สมาชิกกู้ยืม นำไปพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่เกษตรของตนโดยไม่คิดดอกเบี้ย 2.ส่งเสริมการจัดระบบพื้นที่เกษตรให้มีแหล่งน้ำเป็นของตนเองลดการพึ่งพาน้ำจากธรรมชาติและระบบชลประทาน 3.สนับสนุนให้เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพได้ต่อเนื่องทั้งในและนอกฤดูกาล ปลูกพืชหลากหลายชนิด เลี้ยงสัตว์และประมง เป็นระบบเกษตรแบบผสมผสานตามทฤษฎีใหม่

 

          ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการโครงการระยะที่ 1 (ปี2559 - 2564) ไปแล้ว วงเงิน 302.9 ล้านบาท โดยมีสมาชิกสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 28,000 ราย แต่สามารถจัดสรรเงินให้กู้ยืมได้เพียง 6,014 ราย ซึ่งเกษตรกรที่เขาร่วมโครงการสามารถประกอบชีพเกษตรกรรมได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้มีรายได้เพียงพอสามารถชำระหนี้ได้ตามเป้าหมายในเวลาที่กำหนด

 

          ส่วนโครงการระยะที่ 2 นี้ ตั้งเป้าหมายจะมีสมาชิกเข้าร่วม 10,000 ราย เป็นสถาบันเกษตรกร 350 แห่ง ใน 51 จังหวัด ซึ่งต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 1.สมาชิกต้องไม่เคยรับการสนุบสนันจากโครงการอื่นของรัฐในลักษณะเดียวกัน 2.มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ทำกินในพื้นที่อย่างถูกกฎหมาย หากเป็นที่เช่าทำกิน ต้องมีระยะเวลาเช่าครอบคลุมระยะเวลาโครงการและต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ 3.พื้นที่ทำกินรายละ 10 ไร่ หรือรวมกับสมาชิกทุกรายในสหกรณ์นั้นๆแล้วเฉลี่ยได้รายละ 10 ไร่  โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ รวม 6 ปี (พ.ศ.2563 – 2568) วงเงินโครงการรวม 508.2 ล้านบาท

 

          โดยใช้งบประมาณจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร แบ่งเป็น 1.เงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย วงเงิน 500 ล้านบาท ระยะเวลา 6 ปี จัดสรรให้สมาชิกกู้ยืมรายละไม่เกิน 50,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการขุดสระเก็บน้ำในพื้นที่ 1 ไร่ ความลึก 2 เมตร หรือขุดเจาะบ่อบาดาล เจาะจนถึงระดับที่มีน้ำ พร้อมจัดซื้ออุปรกรณ์ที่เกี่ยวข้อง หากมีค่าใช้จ่ายเกิน 50,000 บาท สมาชิกต้องสมทบเอง 2.เงินจ่ายขาด วงเงิน 8.2 ล้านบาท เป็นค่าบริหารจัดการโครงการของหน่วยงานราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
 

          การชำระเงินกู้ของสมาชิก ใน 2 ปีแรก (ปี 2563 -2564) เป็นระยะเวลาปลอดหนี้ เพื่อให้สมาชิกได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ โดยจะเริ่มชำระเงินงวดที่ 1 ในปี 2565 ไปจนถึงปี 2568  รวม 4 ปี ปีละอย่างน้อยร้อยละ 25 ของเงินกู้ยืมที่ได้รับอนุมัติ หากสมาชิก/สถาบันเกษตรกรผิดนัดชำระหนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์คิดอัตราดอกเบี้ยปรับร้อยละ 3 ต่อปี จนกว่าจะชำระหนี้หมด และกรมส่งเสริมสหกรณ์ผิดนัดชำระหนี้ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรคิดอัตราดอกเบี้ยปรับร้อยละ 3 ต่อปี จนกว่าจะชำระหนี้หมด

 

          ทั้งนี้ การสร้างแหล่งน้ำในพื้นที่การเกษตร นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรแล้ว ยังสามารถใช้เป็นฐานข้อมูล Big Data ในการจัดทำแผนที่พิกัดจุดแหล่งน้ำสำรองของเกษตรกรแต่รายละ เพื่อใช้ประโยชน์ในการติดตามประเมินผลและต่อยอดโครงการอื่นๆ ของรัฐบาลในอนาคต

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ