ข่าว

"บิ๊กตู่"เล็งถกพรรคร่วมปรับ ครม. "พปชร."ติว 6 รมต.สู้ซักฟอก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" เล็งถกพรรคร่วมปรับ ครม. "ดอน" ไขก๊อกหลังซักฟอก พปชร. ติว 6 รมต. สู้ฝ่ายค้าน วิปรัฐผุด "วอร์รูม" ตอบโต้ "ชวน" ยันสภาพร้อมรับมือ "เพชรภูมิ" ชนะเลือกตั้งซ่อม

 

               สะพัด “ดอน” ไขก๊อก รมว.ต่างประเทศหลังจบศึกซักฟอก “บิ๊กตู่” ปรับครม.ใหญ่รวมทีมเศรษฐกิจด้วย “บิ๊กป้อม” กำชับโหวตซักฟอกให้รมต.คะแนนเท่ากันทุกคน พร้อมขอคำยืนยันจากตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล “วิรัช” แย้มรอดูลุคใหม่นายกฯ ในสภา “สุชาติ" สั่งส.ส.พปชร.ห้าม “เจ็บ-ป่วย-ลา” วาง 30 ส.ส.ทำหน้าที่ประท้วง เช็กโหวตซีกรัฐบาล 263 ฝ่ายค้าน 244 ด้านปชป.แทงกั๊กขอฟังข้อมูลก่อนลงมติพรรค ด้านฝ่ายค้านมั่นใจข้อมูลกระชากหน้ากาก แฉรัฐบาลกลัวอภิปรายขนาด “แบล็กเมล์” ข่มขู่กันเอง

 

อ่านข่าว ประหารชีวิต "ธนาธร" และ "อนาคตใหม่"
 

 

               เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ได้แจ้งความจำนงต่อนายกรัฐมนตรีว่าจะขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ หลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งนายกฯ ได้รับทราบแล้ว

 

               ก่อนหน้านี้ นายดอนได้แจ้งแก่นายกฯ ว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีอีก แต่เนื่องจากยังมีภารกิจที่ต่อเนื่องของกระทรวงการต่างประเทศ นายกฯ จึงขอให้ นายดอนรับตำแหน่งเพื่อสานงานให้ลุล่วง

 

               แหล่งข่าวระบุว่า เมื่อนายดอนเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกอภิปราย จึงได้แจ้งแก่นายกฯ ว่าจะขออยู่ในตำแหน่งจนการอภิปรายเสร็จสิ้นแล้วจะขอลาออกเพื่อไปพักผ่อน

 

               “หลังการอภิปราย นายกฯ จะปรับครม. เชื่อว่าจะปรับใหญ่ โดยส่วนหนึ่งจะดูจากหลักฐานการอภิปรายของฝ่ายค้าน และอีกส่วนจะหารือกับพรรคร่วมเพื่อปรับทีมเศรษฐกิจให้ทำงานอย่างเป็นเอกภาพมากกว่านี้” แหล่งข่าวกล่าว และว่า ยังไม่แน่ใจว่านายกฯ จะกล้าแตะกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ในพรรคพลังประชารัฐจะมีการปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่งแน่นอน

 

บิ๊กป้อมสั่งโหวตคะแนนเท่ากัน

 

               ด้านวิปรัฐบาลจัดสัมมนารับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่โรงแรมเวย์ โฮเทล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การประชุมวิปรัฐบาลที่มีตัวแทนจากทุกพรรคร่วมรัฐบาลตลอดทั้งสองวันเป็นการเตรียมรูปแบบและความพร้อมก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้

 

               โดยเชิญรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ที่ถูกอภิปรายมาร่วมรับฟังด้วย และได้ข้อสรุปหลายเรื่อง แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรคที่ร่วมประชุม ซักถามในประเด็นที่คาดการณ์ว่ารัฐมนตรีแต่ละคนจะถูกอภิปรายถือว่าได้สาระสำคัญ แต่บางอย่างยังไม่ขอชี้แจงเนื่องจากเป็นการคาดการณ์ เพียงแต่เตรียมการเอาไว้

 

               ทั้งนี้ตามข้อบังคับ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตอบชี้แจง เว้นแต่จะมีการพาดพิงไปถึงรัฐมนตรีคนอื่นที่รับผิดชอบก็จะลุกขึ้นชี้แจงได้ และการประชุมครั้งนี้จะสรุปขั้นตอนและวิธีการก่อนที่จะประชุมร่วมกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งกรอบเวลา การกำหนดเวลาอภิปรายในแต่ละวัน การตอบคำชี้แจงจะเป็นไปในลักษณะใด

 

               เช่น อาจจะรวมผู้อภิปราย 2-3 คน แล้วตอบคนเดียว หรืออภิปรายให้จบหนึ่งคน แล้วชี้แจงทันที ซึ่งก็ต้องพิจารณาในแต่ละหัวข้อ หารือกับวิปรัฐบาล เมื่อได้ข้อสรุปจะประชุมวิปรัฐบาลเพื่อเป็นมติแจ้งไปทุกพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด 18 พรรค ให้ดำเนินการตามมติวิปรัฐบาล

 

               อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าต้องสนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย หากฝ่ายค้านจะอภิปรายย้อนหลังไป 20 เปอร์เซ็นต์ ก็พอจะรับได้ แต่ถ้าย้อนไปถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์ อาจต้องปรึกษาประธานสภาว่าถ้าอภิปรายย้อนอดีตจะต้องทำอย่างไร หากรัฐบาลจะขออธิบายย้อนหลังกลับไปบ้างก็จะกลายเป็นปัญหาขึ้นอีก ขอให้พูดเรื่องปัจจุบันจะดีกว่า

 

               ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงโหวตสนับสนุนผู้ถูกอภิปราย นายวิรัชกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับมติวิป แต่ส่วนมากจะเป็นห่วงเรื่องข้อบังคับการประชุม การดำเนินการประชุม ซึ่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์กำชับให้ทุกพรรคต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และขอให้คะแนนออกมาเท่ากันทุกคน

 

               และดูตามข้อกล่าวหาคนที่ถูกอภิปรายจะเป็นข้อความที่ซ้ำกันและอาจไปเกี่ยวข้องกับเรื่องในอดีตมากกว่าปัจจุบัน ยกเว้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ตั้ง ครม. ในส่วนพรรคเล็กระบุว่าจะขอฟังข้อมูลฝ่ายค้านก่อนก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีเวลาปรับความเข้าใจกันกว่าจะถึงวันโหวต

 

               “เราจะไม่ประมาท เป็นห่วงรัฐมนตรีทุกคนเท่ากัน ไม่มีใครเป็นพิเศษ เพราะตอนที่คาดการณ์ว่าคนนี้จะโดนหนักแต่พอถึงเวลาอาจจะไม่มีอะไร ประเด็นคือต้องเตรียมการข้อมูลเอาไว้ แต่อาจจะดูนายกฯมากกว่า เนื่องจากข้อกล่าวหามีมากถึง 28 บรรทัด 40 ข้อ ในขณะที่รัฐมนตรี 5 คนร่วมกันมี 28 บรรทัด

 

               ถึงแม้นายกฯ จะไม่ได้มา แต่ก็ทราบและเตรียมการในข้อที่ถูกกล่าวหาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และให้รอดูลุคใหม่ของนายกฯ ในการตอบคำถาม ถ้าเรื่องใดตอบได้เองและมีหลักฐานครบก็คงตอบเอง ถ้าคาบเกี่ยวกับกระทรวงการคลังก็ต้องมอบรัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจงแทน” นายวิรัชกล่าว

 

กำชับห้ามส.ส.“เจ็บ-ป่วย-ลา”

 

               ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการควบคุมเสียงส.ส.ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์นี้ว่า ได้กำชับส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามลา มั่นใจว่า ส.ส.ทั้งหมดของพรรคอยู่ครบแน่นอน เพราะทุกคนรู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว ทั้งนี้ขอความร่วมมือฝ่ายค้านไปแล้วให้อภิปรายอยู่ภายใต้กรอบถ้าเลยเถิดไปมากก็ต้องใช้ข้อบังคับ ซึ่งแกนนำฝ่ายค้านได้รับปากและกำชับต่อไปยังผู้ที่จะอภิปรายแล้ว

 

               สำหรับเสียงโหวตในการลงมตินั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ระบุไว้ชัดเจนแล้ว เราเป็นพรรคร่วมด้วยกัน ฉะนั้นจะไม่มีการแบ่งแยกเป็นพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ก็ยอมรับว่าการที่รัฐมนตรีแต่ละคนจะได้เสียงโหวตเท่ากันนั้นเป็นไปได้ยาก คะแนนเสียงอาจจะห่างกันเล็กน้อยไม่เกิน 5-6 เสียง ไม่ถึงขั้นเป็นหลักสิบ ถือเป็นเรื่องปกติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจว่าจะได้คะแนนครบทุกเสียง เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร

 

               เมื่อถามว่า ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทางฝ่ายค้านห้ามแตะเลยใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แตะได้บ้างในการโยงประเด็น แต่ถ้าพูดลึกมาก ผู้ที่ถูกอภิปรายบางคนอาจตอบไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของอดีต และส.ส.รัฐบาลก็ต้องใช้ข้อบังคับเพราะถือเป็นเรื่องเก่าวนเวียนซ้ำซาก

 

               อย่างไรก็ตามได้ซักซ้อมและเตรียมการไว้แล้ว หากวันอภิปรายเจอเหตุการณ์รูปแบบต่างๆ จะให้ใครรับมือหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้มีความอาวุโส

 

เชื่อข้อมูลฝ่ายค้านไม่น่าตื่นเต้น

 

               ขณะที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคจะดูว่าการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะเป็นไปในทางสร้างสรรค์หรือไม่ หรือจะเป็นการอภิปรายแบบแถๆ แล้วนำข้อมูลอันเป็นเท็จมาอภิปรายแบบในอดีตหรือไม่ ต้องคอยติดตาม

 

               ส่วนการแต่งตั้งให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. และตนช่วยนายกฯ ในการชี้แจงนั้น ไม่ต้องช่วยนายกฯ ในการชี้แจง เพราะนายกฯ สามารถชี้แจงได้อย่างดีอยู่แล้ว ในส่วนของการประท้วงตนอาจจะไม่ค่อยได้ประท้วงเพราะต้องดูความเหมาะสมและพรรคร่วมรัฐบาลก็จะมาช่วยด้วย

 

               ด้านนายสิระ กล่าวว่า มีส.ส.ฝ่ายค้านบางคนที่คิดว่าจะมาอภิปรายเท็จ ขอเตือนไว้ก่อนว่าบางเรื่องที่ขู่อภิปรายที่ผ่านมามีคนให้อภัยโดยไม่ต้องติดคุกมาแล้ว เพราะได้ขอขมาอดีตรัฐมนตรีมาหลายครั้งหลายคราว ทราบมาว่าครั้งนี้บอกว่าจะไม่ให้อภัยแล้วและจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด คิดว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะนำมาอภิปรายประชาชนคงผิดหวังแน่เพราะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น คิดว่าประชาชนไปเปิดดูละครดีกว่า

 

               นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มั่นใจในคำตอบของนายกฯ และรัฐมนตรีทุกคน ว่าจะให้คำตอบและชี้แจงต่อประชาชนด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและแท้จริง ยืนยันว่ามั่นใจ เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดี

 

จัดส.ส.แนวหน้าคอยประท้วง 

 

               มีรายงานแจ้งว่า ในการประชุมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจได้กำหนดกลยุทธ์และวางตัวแบ่งประเด็นโดยกลยุทธ์ในการรับมือได้จัดให้มี ส.ส.ทำหน้าที่คอยประท้วง 30 คน จากตัวแทนแต่ละพรรคที่ร่วมรัฐบาล จัดให้นั่งอยู่ด้านหน้า แต่จะประท้วงได้ต้องได้รับอนุญาตจากนายวิรัช, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล

 

               นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย รองประธานวิปรัฐบาล พร้อมสั่งเตรียมเครื่องมือสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ไอแพด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เพื่อสื่อสารระหว่างวิปรัฐบาลกับ ครม.

 

               เบื้องต้นรายชื่อ ส.ส.ที่จะทำหน้าที่ประท้วงในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ อาทิ นายไพบูลย์, น.ส.ปารีณา, นายสิระ, นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม., นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายนิโรธ สุนธรเลขา ส.ส.นครสวรรค์

 

               ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายชินวรณ์, นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ส่วนพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายชาดา, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่, นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ รวมถึงตัวแทนพรรคเล็กอย่างนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นต้น

 

               นอกจากนี้ การสัมมนายังมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตรได้กำชับเรื่องการประท้วง ไม่อยากให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไปประท้วงผู้อภิปรายแต่ให้ประท้วงประธานที่ประชุม เพื่อขอให้เคร่งครัดข้อบังคับการประชุม เพราะไม่อยากให้ประชาชนมองว่าเล่นลิเกกัน

 

               นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังสอบถามเพื่อขอคำยืนยันจากตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลในที่ประชุมถึงการโหวตซักฟอก โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าทั้งหมดโหวตตามมติพรรคไม่มีใครแตกแถว

 

               ขณะที่ นายชาดา จากพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคฝากมายืนยันว่าภูมิใจไทยโหวตให้เหมือนกันหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท และพรรคเล็กต่างยืนยันโหวตเหมือนกันหมด

 

เช็กเสียงของรัฐบาล-ฝ่ายค้าน

 

               รายงานแจ้งด้วยว่า ภายหลังยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส. 11 คน ทำให้ล่าสุดเสียง ส.ส.ในสภาลดลงเหลือ 487 เสียง จากเดิมที่มีอยู่ 498 เสียง โดยเป็นเสียง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 263 เสียง ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 117 เสียง ประชาธิปัตย์ 52 เสียง ภูมิใจไทย 52 เสียง ชาติไทยพัฒนา 11 เสียง รวมพลังประชาชาติไทย 5 พลังท้องถิ่นไท 5 ชาติพัฒนา 3 รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง

 

               ขณะที่มีพรรคเล็ก อีก 11 เสียง รวมถึงพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ประกาศถอนตัวจากฝ่ายค้านก่อนหน้านี้อีก 5 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านจะเหลือ 224 เสียง คือพรรคเพื่อไทย 135 เสียง และส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบ 65 เสียง เสรีรวมไทย 10 เสียง ประชาชาติ 7 เสียง เพื่อชาติ 5 เสียง พลังปวงชนชาวไทย 1 เสียง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 1 เสียง

 

               อย่างไรก็ตาม ในส่วนของส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่แม้พรรคถูกยุบ แต่เอกสิทธิ์ความเป็นส.ส.ยังคงอยู่ และมีเวลา 60 วันหาพรรคใหม่สังกัด ดังนั้น การโหวตในครั้งนี้จึงไม่ต้องยึดมติพรรค และมีรายงานข่าวว่า อาจมี ส.ส.บางส่วนยกมือสนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายด้วย

 

ปชป.แทงกั๊กขอฟังข้อมูลก่อน

 

               นายชินวรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการสัมมนาเตรียมรับมือการอภิปรายของวิปรัฐบาลว่า แนวทางที่ได้จะนำไปแจ้งที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และในส่วนการลงมติเมื่อเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องร่วมสนับสนุนเป็นปกติอยู่แล้วเพื่อเสียงที่มีเอกภาพ เมื่อถามว่าจะคุมเสียงโหวตของพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเสียงเท่ากัน

 

               นายชินวรณ์ กล่าวว่า เรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสำคัญที่สุดในสภา ถ้าไม่ลงเท่ากับประหารชีวิตคนอื่น ถ้าไม่ลงต้องถือว่าต้องเป็นความรับผิดชอบของแต่ละคนแต่ละพรรคไป ส่วนบทลงโทษก็เป็นกฎทั่วไปอยู่แล้ว ทางพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีวินัย เชื่อว่าทุกคนก็ต้องทำตามมติพรรค

 

               เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะกำหนดให้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.หรือกำหนดให้เป็นมติพรรค นายชินวรณ์กล่าวว่า โดยหลักต้องเป็นมติพรรคอยู่แล้ว แม้แต่การโหวตในญัตติปกติก็ต้องมีมติของพรรคอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่าแต่มีบางคนเคยแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก่อนหน้านี้และยังโหวตสวนมติพรรคจะมีมาตรการอย่างไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า ญัตตินี้เป็นญัตติที่สำคัญ ใครจะไม่ลงต้องมีเหตุผลพิเศษหรือต้องรับผิดชอบ

 

               ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ได้นัด ส.ส.ประชุมในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเพื่อพิจารณาญัตติ ทั้งนี้ถึงแม้รัฐมนตรีของพรรคจะไม่ถูกอภิปราย แต่รัฐมนตรีทุกคนก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะชี้แจงกรณีที่ถูกอภิปรายพาดพิงถึงงานที่รับผิดชอบ แต่เชื่อว่าฝ่ายค้านคงเตรียมข้อมูลพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมากกว่า

 

               สำหรับการลงมติว่าจะไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจโดยทั่วไปในฐานะที่เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ทั้งงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติอยู่แล้ว แต่การลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เราคงจะนำข้อมูลเนื้อหาสาระการอภิปรายของฝ่ายค้านและคำชี้แจงของรัฐมนตรีมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจว่าจะลงมติอย่างไร โดยจะนัดประชุม ส.ส.พรรคก่อนการลงมติเพื่อพิจารณาร่วมกันว่าจะลงมติอย่างไรต่อไป

 

“เทพไท”ชี้เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง

 

               ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากที่ประชุม ส.ส.ของพรรคให้ดูแลการอภิปรายให้เป็นไปตามข้อบังคับ ซึ่งนายชวนสามารถทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.มาช่วยดูแลการอภิปราย ส่วนพี่เลี้ยงหรือองครักษ์ทั้ง 2 ฝ่าย ที่เป็นอดีต ส.ส. หรือ ส.ส.สอบตก ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นเพียงการสร้างสีสันทางการเมือง เพื่อให้ปรากฏชื่อตามสื่อต่างๆ ไม่ให้คนลืมเท่านั้น

 

               การเปิดวอร์รูมนอกสภาไม่สามารถช่วยเหลือแก้เกมในสภาได้มากนัก เพราะการอภิปรายเป็นการต่อสู้ด้วยข้อมูลและเหตุผล พี่เลี้ยงทั้ง 2 ฝ่ายแทบจะไม่มีโอกาสช่วยอะไรได้เลย ที่ออกมาก็เป็นลักษณะโฆษณาชวนเชื่อหรือเกทับบลัฟแหลกกันไปมาทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้หากมีการพาดพิงก็เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้ถูกพาดพิงเป็นผู้ชี้แจงเอง ส่วน ส.ส.คนอื่นๆ ไม่ควรไปก้าวก่าย เพราะเป็นการพิสูจน์ความสามารถของรัฐมนตรีของแต่ละคน เป็นเวทีที่ไม่ต้องมีพี่เลี้ยง

 

เย้ยองครักษ์ปากกล้าขาสั่น

 

               วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพรรคพลังประชารัฐตั้งคณะทำงานตอบโต้พรรคร่วมฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การตั้งคณะทำงานของฝ่ายรัฐบาลเพื่อหมายแก้ต่างให้ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ซึ่งการกระทำดังกล่าวของ ส.ส.รัฐบาล เป็นเรื่องน่าละอาย และไม่ควรเกิดขึ้นในการตรวจสอบการทำงานรัฐบาลที่เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภา

 

               ทั้งนี้จากการเห็นรายชื่อคณะทำงานแล้วไม่น่าจะมีอะไรใหม่เป็นเพียงการใช้สำนวนโวหารหรือปั้นน้ำเป็นตัว แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมปากกล้าขาสั่น และต้องการปกปิดความผิดพลาดในการบริหารประเทศ ถ้าเชื่อมั่นว่าทำงานจริงและทำดีจริงแล้วก็ไม่ต้องกลัวสิ่งที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย

 

               “อยากให้ประชาชนติดตามการอภิปราย จะรับรู้ความจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าไม่เคยทำอะไรผิดและไม่หวังผลประโยชน์อื่นจะเป็นจริงตามที่พูดหรือไม่ ฝ่ายค้านจะเปิดเผยความจริงที่ปกปิดไว้ทั้งหมด” นพ.ชลน่านกล่าว

 

พท.แฉข่มขู่แบล็กเมล์กันเอง

 

               ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง แม้รัฐบาลจะตั้งวอร์รูมนอกสภาไว้คอยกดดัน หรือมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ตัดหน้าการอภิปราย แต่พรรคอนาคตใหม่ก็สามารถจัดผู้อภิปรายมาทำหน้าที่ได้ ซึ่งฝ่ายค้านมีข้อมูลทีเด็ดหลายเรื่อง แม้รัฐบาลอาจเก็งข้อสอบถูกบ้างแต่ด้วยข้อหาความผิดมากมาย จึงเชื่อว่าคนที่ถูกอภิปรายเองก็คงคาดไม่ถึงว่าฝ่ายค้านสามารถนำข้อมูลลับออกมาได้อย่างไร

 

               "ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรก็ไม่ผิด เพราะไม่มีใครกล้าตรวจสอบ แต่วันนี้ฝ่ายค้านจะไม่ยอมให้รัฐบาลทำอะไรตามอำเภอใจอีกต่อไป เชื่อว่ารัฐบาลเองก็คงจะรู้ดีว่ารัฐมนตรีของตัวเองไม่สามารถตอบได้ทุกเรื่อง จึงต้องคิดเกมปั่นป่วนทั้งในและนอกสภาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น

 

               ตอนนี้รัฐบาลกลัวถึงขนาดที่มีกระแสข่าวเรื่องการข่มขู่กันเองว่าหากได้รับเสียงโหวตไม่เท่าคนอื่นก็จะนำเรื่องทุจริตของรัฐมนตรีอีกฝ่ายมาแฉ หรือจะจัดการเรื่องครอบครองที่ดินโดยไม่ถูกต้องหากไม่โหวตให้ ซึ่งเข้าข่ายแบล็กเมล์อย่างชัดเจน จึงหวังว่ากระแสข่าวเหล่านี้คงจะไม่เกิดขึ้นหากรัฐบาลชุดนี้โปร่งใสไร้เรื่องทุจริตอย่างที่โฆษณามาตลอด 6 ปี” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว 

 

               เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า จากโพลล์ของสวนดุสิตสะท้อนว่า ตอนนี้คนไทยมาถึงจุดที่ต้องพึ่งตัวเอง เพราะไม่สามารถพึ่งหวังรัฐบาลได้ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ถือเป็นสัญญาณอันตรายของรัฐบาล และยิ่งมีการยุบพรรคการเมืองด้วยเหตุผลที่ค้านกับความรู้สึกของคนทั่วไปก็ยิ่งจะทำให้คนส่วนใหญ่จะไม่ทนกับรัฐบาลนี้อีกต่อไป เมื่อมาประกอบกับการอภิปรายที่เปรียบเสมือนการกระชากหน้ากากของวิญญูชนจอมปลอมให้สังคมได้เห็น ก็เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่นานอย่างแน่นอน

 

“ชวน”ติวจนท.รับมือศึกอภิปราย

 

               ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นัดผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ โดยนายชวน เปิดเผยว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมการทั้งเรื่องสถานที่และเครื่องมือ

 

               โดยวันนี้เป็นการหารืออีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรไม่พร้อมบ้าง ส่วนปัญหาเครื่องลงมติความจริงไม่มีปัญหา แต่ที่มีปัญหาเฉพาะกรณีการลงคะแนนแทนกัน ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีการทดสอบเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าใช้งานได้ตามปกติ แม้จำนวนส.ส.จะลดลงแต่เครื่องลงมติก็ยังไม่พออยู่ดีจึงต้องเผื่อเวลาให้ผลัดกันใช้เครื่องลงมติ 

 

               ส่วนส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ได้คุยกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึงจำนวนองค์ประชุมแล้ว โดยสัดส่วนก็จะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในส่วนของกรรมการบริหารพรรคที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อคงไม่สามารถเลื่อนขึ้นมาทดแทนได้ และการจัดสรรตำแหน่งในกรรมาธิการก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่คงไม่ทัน อาจจะต้องเป็นสมัยประชุมครั้งต่อไป

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ