'ปิยบุตร' พร้อมอภิปรายนอกสภา23 ก.พ.

        เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวปราศรัยในช่วงหนึ่งว่า เราเคยรู้สึกหรือไม่ว่ากี่ยุคประเทศเราก็ยังกำลังพัฒนา หากตนไม่เคยเห็นประเทศเกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน หรือเอสโตเนีย ตนคงคิดว่าการพัฒนาประเทศเป็นเรื่องยาก การเมืองใหม่ที่จัดตั้งโดยคนกลุ่มหนึ่ง เพื่ออยากเห็นการเมืองใหม่ และต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม พรรคการเมืองที่ทำอย่างนี้คือพรรคอะไร ก็คือ อดีตพรรคอนาคตใหม่ของเรา ที่ผ่านมาพรรคที่ถูกยุบจะต้องเป็นพรรคที่เป็นรัฐบาลมาก่อน แต่พรรคอนาคตใหม่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ถูกยุบเสียแล้ว 

    " วันนี้อย่าเพิ่งถามว่าพรรคใหม่ชื่ออะไร แต่ช่วยดูการอภิปรายที่จะถึงนี้ก่อนดีกว่า แต่เดิมตนเตรียมอภิปรายไว้ 1 ชั่วโมง แต่ตอนนี้เวลาเหลือแล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคยบอกตนว่าให้อภิปรายด้วยเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้นายธนาธร ไม่ใช่หัวหน้าของตนแล้ว ตนจึงไม่ขอฟังเขา ดังนั้นในการอภิปรายครั้งนี้ตนจะอภิปรายให้เต็มที่ที่สุด อยากพูดอะไรก็จะพูด และอยากฝากบอกทุกคนว่าหลังการอภิปรายให้เก็บผ้าคาดจมูกไว้ เพราะกลิ่นเหม็นเน่าจะออกมา และขอบอกว่า พรรคใหม่ของเราจะแสบเจ็บจี๊ดเหมือนเดิม  สุดท้ายตนอยากจะมอบสามคำให้พล.อ.ประยุทธ์ว่า อย่าป่วยนะก็แล้วกัน "

      น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ขึ้นปราศรัยในตอนหนึ่งว่า ในวันที่ 23 ก.พ. จะมีการอภิปรายนอกสภา ถึงเวลาเอาขยะที่เน่าเหม็นขึ้นมาคัดแยกให้ประชาชนรู้ว่าถูกผู้นำเอาภาษีประชาชนไปย่ำยีอย่างไร ดังนั้นวันนี้ไม่ใช่วันที่เราต้องกลัว คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องกลัว

       จากนั้นนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า จากนี้จะมีการหารือในที่ประชุมพรรคว่า จะมีการอภิปรายนอกสถานที่ในวันที่ 23 ก.พ. นี้ ว่าเป็นที่ไหน และเวลาใด ซึ่งจะแจ้งให้ประชาชนทราบอีกครั้ง

     “รังสิมันต์ โรม” ย้ำจับตาดู ส.ส.อดีตพรรค อนค. อภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่ารัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่

    เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 ก.พ. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวปราศรัยในช่วงหนึ่งว่า คำว่าอนาคตใหม่จะกลายเป็นตำนานและจะเป็นผีหลอกหลอนคนเก่าแก่ที่ก้าวไม่ทัน ตนเดินหน้าต้านระบบคสช.มาโดยตลอด และจะไม่หยุดเคลื่อนไหว ตนเริ่มตั้งแต่เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ไม่ได้ประสงค์อยากจะเป็นส.ส. แค่อยากให้ประเทศชาติเห็นหัวประชาชนเท่านั้น ตนแค่เริ่มพูดความจริงในสังคม และพูดต่อๆกัน จนกลายเป็นกลุ่มต่อต้านคสช. และเรามองว่ามันไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง เพราะมันยังมีการรัฐประหารอยู่ วิกฤตมักสร้างวีรบุรุษและวีรสตรีเสมอ และไม่ว่าต่อไปจะเป็นพรรรคใด แต่พรรคอนาคตใหม่จะเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ต่อไป 

   “ขอให้พวกเราผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปก่อน ให้ดูส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่พูดเสียก่อน ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้หรือไม่ ขอให้ประชาชนสัญญาว่าไม่ทอดทิ้งกัน แล้วเราสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ดีกว่าเดิม”