ข่าว

"ปิยบุตร - ช่อ" เก้อตกขบวนซักฟอก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยุบพรรค - ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่พ่นพิษ "ปิยบุตร - ช่อ" ตกขบวนชวดซักฟอกรัฐบาลหลังถูกตัดสิทธิ์ 10 ปี

 

              ความสิ้นสลายของพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค 11 คน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่พร้อมตัดสิทธิ์ 10 ปี กรรมการบริหารพรรค กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ศึกซักฟอกของฝ่ายค้านต้องเปลี่ยนแผนกันใหม่อีกครั้ง เนื่องจากผลคำวินิจฉัยของศาลทำให้ ส.ส. ของพรรคที่เป็นกรรมการบริหารไม่สามารถอภิปรายได้

 

 

 

“ช่อ - ปิยบุตร” อดซักฟอกรัฐบาล

              เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นเหตุให้ ส.ส. ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคหมดสิทธิ์จากการเป็น ส.ส. และไม่ได้เข้าร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 - 28 กุมภาพันธ์ นี้ โดย ส.ส. พรรคอนาคตใหม่มีทั้งหมด 76 คน โดยแบ่งเป็นแบบแบ่งเขต 26 คน บัญชีรายชื่อ 50 คน และมี 11 คนที่เป็นกรรมการบริหารพรรค ณ วันที่มีการกู้เงินและตอนนี้ยังมีสมาชิกสภาพเป็นผู้แทนราษฎรอยู่ ประกอบด้วย 1. ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 2. กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 3. ชำนาญ จันทร์เรือง (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 4. พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 5. พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 6. ไกลก้อง ไวทยการ (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 7. นิรามาน สุไลมาน (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 8. เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 9. สุรชัย ศรีสารคาม (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 10. เจนวิทย์ ไกรสินธุ์ (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) 11. จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ (ส.ส. บัญชีรายชื่อ)

 

 

 

“ช่อ” ชี้ สรุปข้อมูลซักฟอกแทบไม่ทัน

              ก่อนหน้านี้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวก่อนทราบผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่า เมื่อเช้าได้พบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมตัวอภิปรายไม่ไว้วางใจกันอยู่ ตอนนี้มีปัญหาคือข้อมูลหลั่งไหลเข้ามามาก เพราะประชาชนอยากใช้เราเป็นกระบอกเสียง เปิดเผยข้อมูล อย่าให้สิ่งที่รัฐบาลทำไว้ปรากฏต่อสาธารณชน ว่าที่ทำไว้และสั่งสมมามีอะไรบ้าง ไม่สามารถสรุปวาระที่จะอภิปรายได้ในตอนนี้ แต่ก็ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในแวดวงการเมืองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งสำหรับพรรคอนาคตใหม่ ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประสบการณ์ก็ยังน้อยแรงกดดันก็ค่อนข้างมาก เพราะประชาชนคาดหวังกับเรา ทีเซอร์ออกไปวันเดียวมีคนดู 1 ล้านวิว ก็ประทับใจมาก

 

 

 

              “วันนี้เป็นเพียงแค่คำตัดสินของพรรคแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของประเทศชาติ เราจึงต้องโฟกัสไปที่เรื่องประเทศชาติมากกว่า เพราะประชาชนคาดหวังให้เราทำงานอย่างเต็มที่ไม่ว่าวันนี้คำตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจยังคงมีอยู่ และยืนยันว่าข้อมูลที่เตรียมมาหลายเดือนไม่เสียเปล่าแน่นอน” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
วาง ส.ส. อภิปรายแทนคนโดนตัดสิทธิ์

              นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการวางแผนการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ว่า ก็ไม่ปรับอะไรมาก เนื้อหายังคงเดิม จำนวนผู้อภิปรายก็ยังคงเดิม เพียงแต่เปลี่ยนตัวผู้อภิปรายมาแทนที่คนที่เป็นกรรมการบริหารพรรค เพียงแต่น้ำหนักและสีสันที่จะเกิดจากตัวผู้อภิปรายคนนั้นๆ เช่น นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิชย์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ จะหายไปจากส่วนนี้บ้างเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พวกเราพรรคฝ่ายค้านกำลังใจยังดีที่จะทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพราะพวกเราเตรียมใจไว้แต่แรกแล้วและไม่ได้เหนือความคาดหมาย ซึ่งเราวางแผนรองรับเผื่อเอาไว้อยู่แล้ว

 

 

 

ระอุ ! พปชร. เปิดยุทธการ ‘ดับสุริยา’

              ด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับการรับมือฝ่ายค้านในศึกซักฟอกวันที่ 21 กุมภาพันธ์ คณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทั้ง 6 ทีม ประชุมเพื่อเริ่มซักซ้อมและรวบรวมข้อมูลเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจำลอง ครุฑขุนทด ประธานที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงาน ระบุว่า การทำงานได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้เนื้อหาที่เหมาะสม ลึกและแน่น โดยคาดหวังผลสำเร็จตามเป้าหมาย 2 ประการ คือ 1. ประชาชนอยากเห็นเนื้อหาที่มีสาระ 2. สงบเรียบร้อย เป็นไปตามกติกา ซึ่งหากมีการอภิปรายซ้ำซากวนเวียนแผ่นเสียงตกร่อง พูดย้อนไปถึงการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจก็จะมีการสวนกลับด้วยข้อมูลย้อนไปถึงสาเหตุการทำรัฐประหารเช่นเดียวกัน

 

 

 

              ส่วน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมเปิดตัวยุทธการดับสุริยา เพื่อตอบโต้ยุทธการอรุณรุ่งของฝ่ายค้าน โดยประเมินว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านคงไม่มีอะไรมากนอกจากการอภิปรายแผ่นเสียงตกร่อง ย้อนไปถึงการรัฐประหาร สืบทอดอำนาจเผด็จการ และประเด็นหากินตบทรัพย์ทางการเมือง อย่างกรณีที่มีข่าวว่า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็นเจ้าสัว หรือการอภิปรายน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง เรื่องเศรษฐกิจ ฝนแล้ง น้ำท่วม ซึ่งทีมงานสามารถจับประเด็นหัวข้อรายละเอียดและเตรียมข้อมูลให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเรียบร้อยแล้ว

 

เตือนฝ่ายค้านขุด คสช. เจอโต้กลับแน่

              นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ฝ่ายรัฐบาลก็เตรียมสวนกลับด้วยประเด็นที่เป็นไฮไลท์ ว่า ก่อนเกิดการรัฐประหารมีใครทำอะไรไว้อย่างไร เพราะอะไรจึงมีการรัฐประหาร โดยเฉพาะความพยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยเอื้อประโยชน์ให้คนบางคน โดยการกำกับของ “เจ๊ ด.” ดังนั้นหากฝ่ายค้านอภิปรายย้อนถึงอดีตก็จะสวนกลับย้อนถึงอดีตด้วยเช่นกัน

 

 

 

              ด้าน นายฉลอง เรี่ยวแรง กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เป็นองครักษ์พิทักษ์ใคร ซึ่งอายุรัฐบาลตลอด 7 เดือน หากมีใบเสร็จว่าใครโกงบ้านโกงเมืองยินดีให้ดำเนินการและสนับสนุน แต่กรณีกล่าวหาเอื้อนายทุนเจ้าสัว อยากฝากบอก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะทำงานอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า อย่าเดินหลทาง เพราะเห็นอยู่ว่าแต่ละคนที่รับใช้นายสุดท้ายก็เดินเข้าคุกหมด พร้อมย้ำว่าหากฝ่ายค้านอภิปรายถอยหลัง ฝ่ายรัฐบาลก็จะย้อนถอยหลังไปด้วย

              นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล กล่าวว่า เรามีเรื่องในอดีตที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายค้านในปัจจุบันหลายเรื่องและอาจเข้าทำนองว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองและจะเปิดใน 2 ประเด็น คือ 1. เรื่องปุ๋ยอินทรีย์ที่รัฐมนตรีว่าการและเลขาฯ ติดคุกไปแล้ว 6 ปี และพ้นโทษออกมาแล้ว 2. เรื่องทุจริตโครงการรับจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ทำให้เสียหายอย่างใหญ่หลวงของประเทศไทยต่อการค้าข้าวของประเทศไทย ซึ่งตอนนี้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แก้ไขไปแล้วทั้งที่ก่อนหน้านั้น ร.ต.อ.เฉลิม ก็ได้ติดตามเรื่องนี้ แต่สุดท้ายไม่มีการแก้ไข

 

 

 

“ดอน” ยืนยันไม่ห่วงข่าวปรับ ครม.

              ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมชี้แจงต่อกรณีที่เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ว่าไม่รู้สึกหนักใจ ทุกคนที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายดังกล่าวต้องเตรียมตัวอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ โดยได้เตรียมข้อมูลต่างๆ ทั้งเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าฝ่ายค้านจะนำมาอภิปรายตน และสิ่งที่ยังไม่เป็นข่าวจึงต้องอ่านใจฝ่ายค้านว่าเขาจะหยิบยกเรื่องอื่นใดมาอภิปราย อย่างไรก็ตามในการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคพลังประชารัฐที่จัดขึ้นที่พัทยา จ.ชลบุรี จะไปรับฟังคำแนะนำด้วย

              เมื่อถามต่อว่าการที่ฝ่ายค้านอภิปรายนายดอนครั้งนี้แสดงว่าต้องการให้มีการปรับตำแหน่งโควตากลางในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช่หรือไม่ นายดอน หัวเราะพร้อมกล่ววว่า ไม่ทราบ เอาเป็นว่าเราตอบได้ทุกอย่าง ส่วนข่าวที่ว่าจะมีการปรับ ครม. นั้น ไม่มีปัญหาและไม่ใช่ปัญหาของคนในกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้หวังว่าการอภิปรายดังกล่าวควรจะสร้างประโยชน์แก่ประเทศและประชาชน อย่าทำแค่เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

 

 

 

“วิษณุ” ร่วมสัมมนา พปชร. ที่พัทยา

              ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 กุมภาพันธ์) จะเดินทางไปร่วมงานสัมมนาเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคพลังประชารัฐ ที่จัดขึ้นที่พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อไปรับฟังคำแนะนำจาก ส.ส. ในการเตรียมรับมืออภิปรายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้ไปบรรยายแต่ไปฟังคำแนะนำ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยไปร่วมประชุมกับพรรค สมาชิกหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งของพรรค รวมทั้งไม่เคยกินข้าวหรืออะไรก็ตามกับพรรค อีกทั้งมีสมาชิกพรรคบางคนปรารภผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค มาว่ามีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายบางคนที่ยังไม่รู้จัก อาทิ ตนเอง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ส่วนนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร และ นายธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่อาจพอคุ้นเคยกันมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสได้พบและให้สอบถามบางอย่างโดยเฉพาะเรื่องการเตรียมข้อมูล อย่างน้อยจะได้บอกว่าที่เตรียมข้อมูลนั้นถูกหรือผิด ช่วงจังหวะและการตอบเป็นอย่างไร ทั้งนี้ไม่ทราบว่ารัฐมนตรีจะไปร่วมทั้ง 6 คนหรือไม่

 

 

 

              เมื่อถามว่าหลังการอภิปรายฝ่ายค้านเตรียมยื่นข้อมูลทั้งหมดให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะยื่นในประเด็นใด แต่ยืนยันว่าไม่กังวลอะไรและยึดหลักเดิมคล้ายหลักของ พล.อ.ประวิตร คือรู้อะไรก็ตอบ หากมีบางเรื่องที่ไม่รู้เพราะไม่เกี่ยวข้องก็ต้องถาม ส.ส. ที่เจนเวทีว่า ถ้าถามในสิ่งที่ไม่รู้ไม่เกี่ยวจะเสียรางวัดหรือไม่ ซึ่งให้เขาแนะนำ

รมต.ขึ้นเขียงซ้อมตอบเสมือนจริง

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการประชุมสัมมนาพรรคพลังประชารัฐเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวม 6 คน ที่พัทยา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์นั้น สำหรับรูปแบบการสัมมนาในวันที่​ 22​ กุมภาพันธ์ จะเป็นการระดมความคิดเห็นและเตรียมความพร้อมเพื่อให้การตอบญัตติของนายกฯ และรัฐมนตรี ให้มีความชัดเจน​ ครอบคลุมทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปราย​ หากในวงสัมมนาเห็นว่า​คำตอบของรัฐมนตรีแต่ละคนยังมีช่องโหว่ หรือยังขาดความชัดเจน​จะช่วยกันเสนอแนะ​ โดยในช่วงเช้า​จะเริ่มซักซ้อมญัตติของนายกฯ​ ซึ่งมีเนื้อหาจำนวนมากก่อน ​ด้วยการจำลองสถานการณ์จริง​ ให้ผู้ที่มีประสบการณ์ทดลองแก้โจทย์ตามญัตติของฝ่ายค้าน​ว่าจะหรือตอบอย่างไร​ นอกจากนั้นจะซักซ้อมด้วยการจี้ถามแบบจริงจัง​ ตรงประเด็น​ ครอบคลุมทุกมิติ หากมีรัฐมนตรีคนใดที่ต้องกลับไปทำการบ้านในส่วนใดเพิ่มเติม​จะมีทีมงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ

 

 

 

              ส่วนการสัมมนาวันที่​ 23​ กุมภาพันธ์ จะมีการหารือกันระหว่างแกนนำวิปรัฐบาล​ ซึ่งจะมากันครบทุกพรรค​ โดยจะมีการมอบหมายให้แต่ละพรรครับผิดชอบงานในส่วนใดในช่วงแต่ละวันของการอภิปราย​ ขณะที่รัฐมนตรีที่ไม่ได้ถูกอภิปรายจะต้องช่วยชี้แจงในเรื่องที่เกี่ยงข้องกับกระทรวงตัวเองด้วย

              ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า​ เบื้องต้นในการอภิปรายวันที่​ 24​ กุมภาพันธ์นี้​ ฝ่ายค้านจะเริ่มอภิปรายนายกฯ เป็นคนแรก​ จากนั้นจะเป็นรัฐมนตรีที่เหลือ​ คาดว่าการอภิปรายและลงมติจะเสร็จสิ้นในเวลา​ 21.00 น. วันที่​ 27​ กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ แกนนำในพรรค พปชร. ได้ประเมินญัตติของฝ่ายค้านที่จะอภิปรายนายกฯ แบ่งได้ประมาณ​ 30​ ข้อหา​ แต่ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล​ ประเมินได้ประมาณ​ 40​ ข้อหา​

 

จ่อยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณ

              เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่ารัฐบาลได้รับร่าง พ.ร.บ. จากสภาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ดังนั้นขณะนี้จึงยังไม่ครบ 5 วัน โดยจะครบในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะสามารถยื่นทูลเกล้าฯ ถวายได้ เนื่องจากตามขั้นตอนแล้วรัฐบาลต้องถือร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไว้ 5 วัน และมีระยะเวลาไม่เกิน 20 วันในการยื่นทูลเกล้าฯ

 

 

 

              “กฎหมายอื่นใช้เวลา 15 - 16 วันในการเตรียมการยื่นแต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งได้เตรียมการไว้ก่อนแล้วตั้งแต่การพิจารณาครั้งแรก ดังนั้นเมื่อครบ 5 วันแล้ว ซึ่งในวันที่ 6 จะตรงกับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ก็สามารถยื่นได้ทันที และภายหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาและมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา การใช้งบประมาณก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยกฎหมายจะมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ด้วย เพราะที่ผ่านมางบประมาณจะขาดช่วงไม่ได้ ดังนั้นเมื่อออกมาช้าจึงจำเป็นต้องมีผลย้อนหลังด้วย” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

 

“นิพิฏฐ์” นัดแถลงฟ้ององค์กรอิสระ

              วันเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความสั้นๆ ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เรื่องที่ผมจะฟ้ององค์กรอิสระ (บางองค์กร) ให้ติดตามจากการแถลงข่าวโดยตรง หรือจากเฟซบุ๊กนี้เท่านั้น”

 

 

 

“ปชป.” โต้ “สุทิน” ปมชิ่งหนี พปชร.

              นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่พาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์โดยระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะยื่นคำขาดกับพรรคพลังประชารัฐ เหมือนสมัยพรรคพลังธรรมยื่นคำขาดกับพรรคประชาธิปัตย์ จนเป็นเหตุให้ยุบสภาในปี 2538 จากกรณีที่ดิน ส.ป.ก.4-01 โดยย้ำว่านโยบาย ส.ป.ก.ของประชาธิปัตย์ ขณะนั้น เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และทุกรัฐบาลก็นำมาเป็นนโยบายของรัฐ แต่นายสุทินกลับยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น จึงฝากพรรคฝ่ายค้านหาข้อมูลให้ชัดเจน หนักแน่นในการอภิปราย และส่งผลต่อรัฐบาลจริงๆ

              ส่วนกรณีมีข้อมูลชัดเจนว่ารัฐบาลชุดนี้มีการทุจริตเพราะว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคประชาธิปัตย์จะถอนตัวร่วมรัฐบาลตามที่เคยกล่าวไว้หรือไม่ นายสมบูรณ์กล่าวว่า กรณีมีข้อมูลชัดเจนว่าทุจริต เชื่อว่า ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะใช้สิทธิ์ลงมติได้ตามดุลพินิจของแต่ละคน

 

 

 

“อนค.” เปิดเวทีปราศรัยหน้าไทยซัมมิท

              ที่ลานด้านหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีการตั้งเวทีบนรถขยายเสียงเตรียมเปิดการปราศรัยของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินยุบพรรค โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมอย่างต่อเนื่องจนเต็มบริเวณ หลังนายธนาธรและแกนนำพรรคประกาศให้สมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่เดินทางมารวมตัวกันเพื่อรับฟังแนวทางการขับเคลื่อนทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ต่อไป ทั้งนี้ ได้มี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาเพื่อสังเกตการณ์การชุมนุมของมวลชนอนาคตใหม่ ที่บริเวณหน้าตึกไทยซัมมิทด้วย โดยพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าเป็นการชุมนุมในพื้นที่ที่ทำการพรรค ไม่ใช่การชุมนุมสาธารณะและไม่ได้มีการลงถนน

              นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส. ชาติพันธุ์ อนาคตใหม่ กล่าวว่า เป็นตัวแทนพี่น้องที่อยู่บนดอยและชายขอบ กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยทั่วประเทศ แต่พรรคอนาคตใหม่ที่เดินตามหลักการประชาธิปไตยสนใจพวกเราพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์และพี่น้องประชาชนคนจน แม้พวกตนจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมส่วนใหญ่ แต่เราต้องการความเป็นธรรม และเราต้องสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง สัญญาว่า ส.ส. อนาคตใหม่ที่เหลืออยู่จะเดินตามหลักประชาธิปไตยและทวงคืนความเป็นธรรม ภารกิจอันใหญ่หลวงของเรา เราจะพบปะพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะอยู่หนตำบลใดและอีกไม่นานพวกเราจะมีบ้านหลังใหม่และพาหนะคันใหม่ในการก้าวเดินต่อไป

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ