ข่าว

ศาลออกกฎเข้ม วันชี้ชะตายุบพรรค "วรงค์" ตั้ง 8 ปุจฉา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลออกกฎเข้ม วันชี้ชะตายุบพรรค "วรงค์" ตั้ง 8 ปุจฉา จี้ 2 บิ๊กอนาคตใหม่ แจง

 

               “พงศกร” ลาออกก็ไม่รอด กกต.ยันหาก "อนค." ถูกยุบโดนตัดสิทธิ์ด้วย ชี้ศาลพิจารณายึดรายชื่อกรรมการบริหารพรรควันที่กระทำความผิด หมอวรงค์จี้ “ธนาธร-ปิยบุตร” ต้องแจง 8 ข้อ ­ขณะที่ “บิ๊กตู่” ไม่ร่วมวงพปชร.ติวเข้มซักฟอก บอกงานเยอะ! มั่นแจงได้ ส่วน “วิษณุ” ยัน ร่าง พ.ร.บ.งบ 63 ถึงมือรัฐบาลวันนี้ “ศรีสุวรรณ” ยื่นปชป.ฟันเพิ่ม 3 ส.ส.รัฐบาลเสียบบัตรแทนกัน

 

อ่านข่าว-อนค.ดิ้นพล่าน ลั่นฟ้องกกต.หากพรรคถูกยุบ

 

 

               กลายเป็นเรื่องที่วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางภายหลัง พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งลาออกจากกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่าการลาออกครั้งนี้อาจส่งผลดีต่อ พล.ท.พงศกร

 

               หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ หรือตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ จะทำให้ พล.ท.พงศกร ได้เป็น ส.ส.ต่อไป โดยปัจจุบันกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ยังเป็น ส.ส.อยู่ 10 คนเท่านั้น รวมทั้ง พล.ท.พงศกร ด้วย

 

เตือน“พงศกร” ลาออกก็ไม่รอด

 

               ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่า กรณีของ พล.ท.พงศกร หากในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ นอกจากต้องสิ้นสภาพ ส.ส.แล้วนั้น ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอยู่ดี

 

               เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาความผิดโดยยึดรายชื่อกรรมการบริหารพรรค ณ วันที่มีการกระทำความผิด ซึ่งขณะนั้น พล.ท.พงศกร ยังคงมีชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่

 

ศาลรธน.แจ้งระเบียบปฏิบัติวันตัดสิน

 

               วันเดียวกัน สำนักประชาสัมพันธ์ศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งในกลุ่มไลน์ผู้สื่อข่าวประจำศาลรัฐธรรมนูญ ถึงกำหนดนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 15.00 น.

 

               ทั้งนี้ ได้แจ้งให้ทราบแนวทางปฏิบัติของสื่อมวลชนว่า ในการอ่านคำวินิจฉัย ศาลจะทำการถ่ายทอดโทรทัศน์วงจรปิดลงมาบริเวณห้องรับรองสื่อมวลชน และโถงชั้น 2 ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกคนปฏิบัติตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล พ.ศ. 2562

 

               เช่น กรณีสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว ขอความร่วมมือสัมภาษณ์นอกเขตที่ทำการศาล และขอความร่วมมืองดเว้นการถ่ายภาพ บันทึกภาพและเสียง หรือกระทำอย่างอื่นในทำนองเดียวกันในที่ทำการศาล ส่วนการเข้า-ออกใช้ประตูด้านทิศตะวันออก และทิศใต้ของอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์เท่านั้น รวมทั้งกรณีรถถ่ายทอดสด ขอให้จอดบริเวณทิศใต้หรือทิศตะวันออกในสถานที่ที่จัดเตรียมให้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้จอดด้านหน้าศาล

 

‘ปิยบุตร’ลั่นทำทุกวันเหมือนวันสุดท้าย

 

               ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้ ทำทุกวันให้เสมือนเป็นวันสุดท้าย ทว่าซีซิฟได้สอนเราถึงความซื่อตรงอันสูงยิ่งในการปฏิเสธพระเจ้า และการผลักดันก้อนหิน เขาอีกนั่นแหละที่เป็นผู้ตัดสินว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำนั้นดีแล้ว ดังนั้น โลกอันปราศจากเจ้านายของเขา จึงไม่แห้งผาก และไม่ได้ไร้ประโยชน์ ทุกชิ้นส่วนของก้อนหินนี้ ทุกชิ้นแร่ของภูเขาลูกนี้ คือ เขาแต่เพียงผู้เดียวที่นำมันมาหลอมรวมเป็นโลก

 

               “การต่อสู้เพื่อไปให้ถึงยอด ก็เพียงพอที่จะเติมเต็มหัวใจของมนุษย์ให้อิ่มเอม ดังนั้น เราต้องจินตนาการได้ถึงซีซิฟผู้เปี่ยมสุข จนกระทั่งถึงวันนี้ ผมยังมั่นใจว่าพรรคอนาคตใหม่จะไม่ถูกยุบ เพราะไม่ว่าจะพิจารณาจากข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ไม่มีเหตุตามกฎหมายใดเลยที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่ได้

 

               อย่างไรก็ตาม อย่างที่เน้นย้ำอยู่เสมอว่า “ปากกาไม่ได้อยู่ที่ผม” แต่ “ปากกาอยู่ในมือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ดังนั้น ในท้ายที่สุด การยุบพรรคอนาคตใหม่จะเกิดขึ้นหรือไม่ จึงอยู่ที่อำนาจตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญ หากเราตระหนักว่า ในแต่ละวัน อาจเป็นวันสุดท้าย

 

               แล้วเรายังคงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำในแต่ละวันนั้นถูกต้อง สอดคล้องกับมโนธรรมสำนึก และเป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน เราก็จำต้องเร่งลงมือทำสิ่งเหล่านั้น ทำทุกวันให้เสมือนเป็นวันสุดท้าย” นายปิยบุตรระบุ

 

หมอวรงค์จี้“ธนาธร-ปิยบุตร”ต้องชี้แจง

 

               วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “คำถามที่ธนาธรและปิยบุตรต้องชี้แจง ????” มีเนื้อหาดังนี้ 1.การที่นายธนาธรไปตอบนักข่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า พรรคอนาคตใหม่กู้เงินเขาเองนั้น เพราะพลั้งปาก ใช่หรือไม่? 2.ทำให้ต้องมาเตรียมเอกสารทางการเงินย้อนหลังใช่หรือไม่ ?

 

               3.มีปัญหาการเตรียมเอกสารการกู้ย้อนหลัง เช่น หลักฐานการชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือน ใช่หรือไม่ ? 4.การที่ให้พรรคกู้ในเดือนมกราคม 2562 และใช้คืนในเดือนเดียวกัน ครั้งแรกโอนให้ 50 ล้านบาท ตามด้วยคืนด้วยเงินสดครั้งแรก 14 ล้านบาท และเงินสดอีก 8 ล้านบาท มีพิรุธ เพราะทำบัญชีไม่ลงตัว จึงต้องอ้างคืนด้วยเงินสดใช่หรือไม่ ?

 

               5.เมื่อทางพรรคให้ปากคำ ทำไมจึงบอกแค่ตัวเลข 161 ล้าน 2 แสนบาท กู้ในเดือนมกราคม 2562 แต่ไม่พูดถึงตัวเลขอีก 30 ล้านบาทที่กู้ในเดือนเมษายน 2562 ทางกกต.เขาไปเจอตัวเลขนี้เอง ในบัญชีทรัพย์สินที่นายธนาธรยื่นต่อ ป.ป.ช. ทำให้เขาเห็นข้อพิรุธอีก ใช่หรือไม่ ? ขอให้อธิบาย ?

 

               ส่วนข้อ 6.การกู้ครั้งแรก 161 ล้าน 2 แสนบาท นายธนาธรคิดดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีโดยไม่มีหลักประกัน ชำระดอกเบี้ยรายเดือน และมาแก้ไขเป็นชำระรายปีในเดือนพฤษภาคม 2562 และการกู้อีก 30 ล้านบาท กลับคิดดอกเบี้ยเพียง 2% ต่อปีเท่านั้น โดยรวมถือว่าเป็นการให้ใช้ทรัพย์สิน และลดดอกเบี้ย จึงเป็นประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 4 และประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 4 มีค่าเท่ากับ เป็นการบริจาคตามมาตรา 4 เช่นกัน จึงถือว่าเป็นรายได้ตามมาตรา 62 ใช่หรือไม่ ? นักกฎหมายจึงตีความต่างจากนักบัญชี ใช่หรือไม่ ?

 

               7.นายธนาธรถาม เงินของผมนั้นมีแหล่งที่มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายอย่างไร คุณเข้าใจผิดใช่ไหม ? เพราะเขาสงสัยพรรคอนาคตใหม่ต่างหาก ที่ได้เงินมาโดยไม่ชอบ ใช่หรือไม่ ? (มาตรา72) 8.สรุปแล้ว การที่พรรคอนาคตใหม่ไม่ยื่นเอกสารทางการเงินแก่ กกต. เพราะไปพลั้งปากว่าให้กู้ จึงต้องทำเอกสารย้อนหลัง แต่มีปัญหาจึงไม่ยอมส่งเอกสารต่อ กกต. ใช่หรือไม่ ?

 

ปชป.เตือนอย่าปลุกปชช.กดดันศาล

 

               วันเดียวกัน นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก Chao Meekhuad เรื่อง “เมื่อ ธนาธร เดิน ซ้ำรอย ทักษิณ” มีเนื้อหาระบุว่า เห็นข่าวการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ปมเงินกู้ 191 ล้านแล้วไม่สบายใจ เชื่อว่า กำลังมีความพยายามสร้างกระแสให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นอันตรายต่อหลักการถ่วงดุลในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่แบ่งอำนาจไว้ 3 ฝ่าย นิติบัญญัติ ตุลาการ และฝ่ายบริหาร

 

               การตัดสินถูกผิด เป็นหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ ตามกระบวนการทางกฎหมาย แม้ระบบกฎหมายจะวางตุลาการไว้กี่คน ก็ไม่สามารถเอาจำนวนประชาชนหลักแสนหลักล้านมาหักล้างคำตัดสินได้ เพราะนั่นคือศาลเตี้ย ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน การเอาจำนวนประชาชนมากดดันศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุคที่นายทักษิณ ชินวัตร มีปัญหาเรื่องการซุกหุ้น ซึ่งชะตากรรมของคนที่พยายามทำลายระบบเพื่อตัวเอง สุดท้ายจบไม่สวย ไม่สามารถใช้ชีวิตในประเทศไทยได้ เนื่องจากทำผิดกฎหมาย ต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ

 

‘วิษณุ’ชี้รมต.ถูกซักฟอกควรมาติว

 

               นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมทีมงานจะช่วยสนับสนุนในการจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่า ก็เห็นจากข่าวหนังสือพิมพ์ ส่วนที่ถามว่าจะไปร่วมงานสัมมนาร่วมกับวิปรัฐบาลในวันที่ 22 และ 23 กุมภาพันธ์ด้วยหรือไม่นั้น ขอดูและจัดคิวอะไรบางอย่าง

 

               เพราะมีเรื่องต้องทำอยู่หลายเรื่อง เพราะบิดาของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้วยกันเสีย และจะฌาปนกิจในวันเสาร์นี้เช่นเดียวกัน จึงต้องขอดูกำหนดอีกที แต่โดยหลักแล้วก็ควรจะไป เพราะจะได้พบปะและรับฟังคำชี้แจงจากผู้มีประสบการณ์และทราบว่า รัฐมนตรีบางคนก็จะไปร่วมงาน ส่วนถ้าจะไปก็คงไปได้ เสร็จแล้วก็จะรีบกลับมางานอื่นต่อ

 

               “สิ่งที่ทุกคนอยากรู้คือ ส.ส.จะลุกขึ้นอภิปรายรัฐมนตรีทั้ง 6 คนเลย หรือว่าจะอภิปรายทีละคน รวมถึงการตอบคำถาม สมมุติกรณีของนายกฯ มีคนอภิปราย 20 คน จะลุกขึ้นตอบคนต่อคน หรืออภิปรายไป 5 คน หรือ 20 คนแล้วค่อยตอบ ซึ่งบางคำตอบก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน จึงจะไปคุยกันอีกครั้ง และสรุปในวันเสาร์ที่มีงานสัมมนาที่พัทยา

 

               เป็นธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกยุคทุกสมัย ผมอาจจะไม่เคยถูกอภิปราย แต่ก็เคยอยู่ในบรรยากาศเตรียมการให้แก่รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปราย ก็รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงในสภา อาศัยการนับคะแนนเสียง แต่การเปลี่ยนแปลงนอกสภาคือ ทำให้เกิดความรู้สึกเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจจากความหนักแน่นในคำตอบ” นายวิษณุ กล่าว

 

ร่าง พ.ร.บ.งบ63 จ่อถึงมือรัฐบาล

 

               นอกจากนี้ นายวิษณุยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แล้วเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้รัฐสภายังไม่ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มาให้รัฐบาล เพราะรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ต้องเก็บไว้ 3 วันแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะส่งมาถึงรัฐบาลในวันนี้ (17 ก.พ.) หรือวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้

 

               ทั้งนี้ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีคงจะแจ้งให้ ครม. รับทราบในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) และเมื่อรัฐบาลได้รับมาแล้ว ต้องเก็บไว้ 5 วัน แต่ไม่ได้เสียเวลาอะไร เพราะระหว่างนั้นจะมีการจัดพิมพ์เพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย

 

“บิ๊กตู่”ไม่ร่วมวงติวเข้มซักฟอก

 

               เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมจัดสัมมนาเพื่อรับมือญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พัทยา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์นี้ ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการทางการเมืองที่เขาทำอยู่แล้ว ส่วนตัวมีงานที่ต้องทำอยู่ทั้งวันที่ทำเนียบรัฐบาล มีงานเยอะ ต้องเตรียมการของเรา และคิดว่า อธิบายได้ให้คนเข้าใจ ถ้าคนไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน

 

“วิปรัฐบาล”อัดฝ่ายค้านขุดเรื่องเก่า

 

               ที่รัฐสภา เกียกกาย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า หากฝ่ายค้านอภิปรายย้อนหลังกลับไปในสมัยรัฐบาลภายใต้การบริหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)นั้น เป็นเรื่องเก่าประมาณร้อยละ 20 ส่วนอีกร้อยละ 80 เป็นการอภิปรายการบริหารของรัฐบาลปัจจุบันก็พอรับได้

 

               แต่หากจะพูดเรื่องเก่าร้อยละ 80 แล้วพูดเรื่องใหม่แค่ร้อยละ 20 ก็ต้องเปลี่ยนญัตติใหม่ให้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่รัฐบาลในสมัยนั้น ซึ่งไม่ใช่ญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดปัจจุบัน อยากขอให้การอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม

 

               ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อครั้งสมัยการประชุมที่หอประชุมใหญ่ทีโอที ที่มีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ โดยทางเราก็ได้มีการทักท้วงจนหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวต้องออกจากห้องประชุมไป จึงอยากให้การอภิปรายอยู่ในกรอบและเป็นไปตามข้อบังคับของการประชุม

 

“ปชป.”ติวส.ส.รับมือศึกซักฟอก

 

               ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้นัดประชุม ส.ส. ในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อเตรียมการประชุมสภาวาระปกติของสัปดาห์นี้ และเตรียมรับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ถึงแม้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีชื่อถูกอภิปราย แต่พรรคก็ต้องเตรียมความพร้อม

 

               อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าการอภิปรายจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีอุปสรรคอะไร คิดว่ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายจะสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ จากฝ่ายค้านได้ ขณะนี้ฝ่ายค้านก็ปล่อยเรื่องที่จะอภิปรายออกมาบ้างแล้ว ส่วนมากก็เป็นเรื่องเก่าๆ ที่เคยมีการโจมตีรัฐมนตรีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐมนตรีน่าจะทำการบ้าน เก็งข้อสอบตอบปัญหาได้ โดยภาพรวมแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกระทบกระเทือนรัฐบาล

 

พท.ปูดรัฐบาลขู่หวังชนะที่กำแพงเพชร

 

               ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 2 จ.กำแพงเพชร ในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า นึกไม่ออกว่าผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ จะเอาคะแนนส่วนไหนมาชนะผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กระแสความนิยมในรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ตกต่ำลงทุกด้านแทบทุกครั้งที่ทำโพลล์ สะท้อนความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศว่ารู้สึกสิ้นหวัง เสื่อมศรัทธา ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ

 

               “แม้แต่การหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ก็แทบไม่กล้าพูดถึงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคือใคร ประชาชนแทบไม่รู้จัก มีเพียงแต่ถูกขู่ว่าถ้าไม่เลือกพรรคพลังประชารัฐจะไม่มีบัตรคนจน เข้าทำนองทำให้ยากจนแล้วปกครอง ทำให้แร้นแค้นแล้วทวงบุญคุณ” นายอนุสรณ์ กล่าว

 

‘ศรีสุวรรณ’ร้องสอบ3ส.ส.เสียบบัตร

 

               เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมกับเปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากกรณีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.เป็นการกระทำโดยไม่สุจริต แต่ปรากฏว่ายังมี ส.ส.ที่อาจมีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวอีก 3 ราย

 

               อาทิ 1.นายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย 2.นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท และ 3.น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ จึงนำรายชื่อ ส.ส.ดังกล่าวมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.เพิ่มเติม เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด หากพบความผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไป

 

กมธ.แก้รธน.​เลื่อนเวทีฟังความเห็น

 

               ที่รัฐสภา ในการประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ​เป็นประธาน กมธ. ซึ่งได้หารือถึงการจัดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนเวทีแรก ตามที่อนุ กมธ.​ ด้านการประชาสัมพันธ์ เสนอให้จัดวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้

 

               โดยนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกมธ. ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดเวทีต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่สามารถสรุปรายชื่อของวิทยากร และยังมีความเห็นที่หลากหลาย

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีดังกล่าว ทางคณะอนุกมธ.ประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ที่มีนายวัฒนา เมืองสุข เป็นประธานอนุกมธ. จึงนัดประชุมอีกครั้งวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปประเด็นวิทยากรและวันจัดเวที เพื่อเสนอให้ที่ประชุมกมธ.ชุดใหญ่พิจารณาอีกครั้ง

 

               โดยเบื้องต้นมีรายชื่อวิทยากรที่ถูกเสนอชื่อ อาทิ นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ฐานะที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ขณะที่พิธีกรจัดเวทีที่ถูกเสนอชื่อและมีเสียงวิจารณ์คือ พิธีกรหญิงของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่เคยร่วมการชุมนุมทางการเมืองต่อต้านพรรคการเมืองที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ