ข่าว

'สมชาย'ชี้กดดันศาล รธน.คดี 'อนค.กู้เงิน' ลอกแบบ'คดีซุกหุ้น'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมชาย" ยันไม่ควรรณรงค์กดดันศาลรัฐธรรมนูญคดี 'อนค.'กู้เงิน' ธนาธร' เหมือนกับที่ทำในคดีซุกหุ้นทักษิณ ซึ่งส่งผลให้เกิดการตัดสินคดีบิดเบี้ยวมาแล้ว

     วันที่  17 ก.พ. 63 รายการเก็บตกจากเนชั่น โดยคมชัดลึก หัวข้อรายการว่า แฉขบวนการต้านยุบ"พรรคอนาคตใหม่ ” ดำเนินรายการโดยนายประชาไท ธนณรงค์  ได้สัมภาษณ์ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว. ) กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ สืบเนื่องจากพรรคฯกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 21 ก.พ. นี้ 

    นายสมชาย กล่าวว่า  ตอนนี้ที่มีอาการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ ของคนและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ มีการลงเว็บไซต์  ซึ่งแตกต่างจากคดีร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ว่าพรรคอนาคตใหม่ล้มล้างการปกครอง ซึ่งหยุดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว เพราะเขามั่นใจว่าคดีดังกล่าวยกคำร้อง

     นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า สิ่งเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญ คือ มีการแก้ไข พรป.พรรคการเมืองฉบับ ปี 50  โดย พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 60  ตัดตรงที่เขียนว่า“ พรรคการเมืองมีรายได้อื่นๆออก”  เพราะอดีตเอาเงินให้พรรคการเมือง ก็เป็นเจ้าของพรรค มีการให้เงิน 100-200 ล้านบาท แล้วทำสัญญากู้ปลอม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ฉบับใหม่ จึงเขียนว่า บริจาคได้ไม่เกินรายละ10 ล้านบาท นายธนาธร ไปให้สัมภาษณ์ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน 191 ล้านบาท ส่วนคุณช่อ ก็บอกว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติกู้เงินนายธนาธร จริง ต่อมา ธนาธร ก็ไปยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ว่าให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจริง จึงเป็นหลักฐาน

      " มีคนถามผมว่าดูกฎหมายแล้วเห็นอย่างไร ผมก็ตอบไปว่า การเขียนไม่ยุบพรรคยากกว่าเขียนยุบ และเรื่องนี้ กกต. มีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ไปแล้ว และส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะผิดหรือไม่ผิดก็ว่าไป คดีนี้ก็เหมือนกับคดียุบพรรคอื่นๆในอดีต พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน แล้วกลายมาเป็นพรรคเพื่อไทย ยุบพรรคชาติไทย ก็กลายมาเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าไม่ควรกระทำ การรณรงค์ให้ศาลเอนเอียง กลุ่มที่ออกมาเรียกร้องเคลื่อนไหว โดยใช้แพลตฟอร์มของ change.org ทำไม่ถูก เพราะเท่ากับเข้าไปอยู่ข้างพรรคการเมืองเหมือนกับครั้งหนึ่งมวลชนไปสนับสนุนคดีซุกหุ้นคุณทักษิณ และคดีซุกหุ้นคุณทักษิณ มีการสรุปออกมาในภายหลังว่า มีการตัดสินบิดเบี้ยว มีหลักบกพร่องโดยสุจริต ก็เพราะศาลรัฐธรรมนูญถูกกดดันแบบที่เป็นอยู่นี้ ทั้งสื่อ ทั้งนักวิชาการ ทั้งมวลชน การออกมารณรงค์คัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ จึงเหมือนกับในอดีต เพียงแต่กลุ่มคนเปลี่ยน  และคนเหล่านั้นใช้ตรรกะผิดๆที่ว่า  ถ้าไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ จะเกิดความเปลี่ยนแปลง เกิดความปรองดอง ซึ่งตนเห็นว่าผิด หรือไม่ผิด ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ถ้าผิดก็ยุบ ถ้าไม่ผิดก็ไม่ยุบ 

 ผู้ดำเนินการรายการถามว่า  ทำไมมีการบอกว่ายุบพรรคอนาคตใหม่ จะมีผลกระทบต่ออนาคตของประเทศ  นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ใช่เลย ยุบพรรคอนาคตใหม่ ก็เป็นอนาคตใหม่กว่า อย่าไปกังวล พรรคชาติไทยก็เป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ยุบไทยรักไทย ก็เป็นพรรคพลังประชาชน ยุบพรรคพลังประชาชน ก็เป็นพรรคเพื่อไทย เพียงแต่ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถูกเว้นวรรคทางการเมือง ดังนั้นผมจึงแคมเปญแฮชแท็กให้กำลังใจศาลรัฐธรรมนูญ ยุบหรือไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่อยู่ที่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

     นายสมชาย ยังกล่าวว่า ที่แคมเปญกันว่าประเทศไทยต้องไปข้างหน้า การเมืองต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่าย จึงร่วมลงชื่อแฮชแท็กคัดค้านยุบพรรคอนาคตใหม่ ตนว่าไม่ใช่ แต่ตนเห็นด้วยว่าประเทศต้องไปข้างหน้า การเมืองต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่าย ซึ่งก็มีการเปิดให้ทุกพรรคการเมืองอยู่แล้ว 

     ส่วนการที่มีนักวิชาการ คนจากหลายวงการ ร่วมคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า อาจเป็นการแบ่งกันเดิน ร่วมกันตีก็ได้ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ