ข่าว

เย้ยญัตติฝ่ายค้านมาตามฤดูกาล "สนธิรัตน์" นำทัพเอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เย้ยญัตติฝ่ายค้านมาตามฤดูกาล "สนธิรัตน์" นำทัพเอง วอร์รูม "องครักษ์" ธรรมนัสตั้งทีมกฎหมาย บิดเบือนเช็กบิลทันที

 

               “พปชร.” เปิดตัวทีม “วอร์รูมนอกสภา” ส่ง “จำลอง ครุฑขุนทด” นั่งประธาน พร้อมอดีต 26 เด็กเพื่อไทยสู้ศึกอภิปราย “ธรรมนัส” เอาด้วยตั้งทีมจากพะเยา สั่งทีมกฎหมายเช็กบิลหากฝ่ายค้านบิดเบือน ด้านเพื่อไทยเปิดแผลปูดรัฐเอื้อเจ้าสัวเช่าศูนย์สิริกิติ์ ขณะที่ศรีสุวรรณจ่อยื่นป.ป.ช.เช็กบิล 3 ส.ส.เสียบบัตรแทนกันเพิ่ม

 

อ่านข่าว ปัด วิปรัฐบาลติวเข้ม รัฐมนตรีเป้าซักฟอก

อ่านข่าว ไม่ให้ค่า"เพื่อไทย"เย้ยองครักษ์ซักฟอกแค่วางบิลช่วยอะไรไม่ได้

 

“พปชร.” เปิดตัวทีม “วอร์รูมนอกสภา”

 

               เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะทำงานวอร์รูมนอกสภาเพื่อเตรียมข้อมูลให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ว่า วันเดียวกันนี้พรรคพลังประชารัฐได้เชิญผู้อาวุโสและผู้มีประสบการณ์ของพรรคมาเป็นคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

 

               ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ล้วนมีประสบการณ์และผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และรู้ถึงแนวทางในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นทุกคนจะเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนทั้งเชิงข้อมูลและช่วยส.ส.ของพรรคที่จะดำเนินการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ในการตอบโต้ หรือการให้ข้อมูลอย่างสร้างสรรค์และช่วยให้การอภิปรายเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

 

               นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นประธานคณะทำงาน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เป็นเลขาฯ นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นทีมโฆษก นายทศพล เพ็งส้ม เป็นทีมกฎหมาย นายรณฤทธิชัย คานเขต เป็นหัวหน้าทีมประสานงานฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ตนเองเป็นผู้ช่วยดูแลในภาพรวม

 

               โดยถือเป็นครั้งแรกของพปชร. ที่ได้รวบรวมผู้อาวุโสของพรรคเข้ามา เพราะการอภิปรายครั้งนี้ฝ่ายค้านพุ่งเป้ามาที่พปชร.แต่เพียงพรรคเดียวและข้อกล่าวหาต่างๆเป็นข้อกล่าวหาที่เน้นทางการเมืองเป็นหลัก ไม่ได้เน้นข้อเท็จจริงทั้งหมดทีเดียว และเป็นความตั้งใจที่จะทำให้ พปชร. เป็นเป้าหมายทางการเมือง

 

เย้ยญัตติแค่มาตามฤดูกาล

 

                ด้านนายจำลอง กล่าวว่า คณะทำงานชุดดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะสมาชิกพรรคอาวุโสเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านมุ่งเน้นที่จะเล่นงานพรรคพลังประชารัฐ จึงเห็นว่าพวกเรากำลังถูกรุมกินโต๊ะจากฝ่ายค้าน จึงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ต้องการมาช่วยพรรค โดยหลังจากมีคณะทำงานก็ได้มีการพิจารณาญัตติของฝ่ายค้าน มีความเห็นร่วมกันว่าเป็นญัตติที่เป็นไปตามฤดูกาลเท่านั้น

 

               เมื่อกฎหมายอนุญาตให้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมได้ 1 ครั้ง แต่โดยปกติเมื่อรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน งบประมาณยังไม่ผ่าน ข้อหาทั้งหมดจึงไม่น่าจะมี และที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายในครั้งนี้เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ก็จะทำ คณะทำงานจึงวิเคราะห์กันว่าข้อมูลต่างๆ ที่เขียนมาในญัตติที่เหมือนจะรุนแรง แต่เนื้อหาในความเป็นจริงเป็นเพียงแค่ญัตติน้ำท่วมทุ่งมากกว่าญัตติฝนแล้งเพราะตัวญัตติไม่ได้กล่าวถึงการทำงานในขณะนี้ของรัฐบาล

 

               แต่เป็นการกล่าวถึงเรื่องในอดีตทำนองว่ามาจะกล่าวบทไป ตั้งแต่เรื่องการปฏิวัติเป็นต้นมา จึงมีความกังวลเกี่ยวกับการทำงานของสภา จึงได้ตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมาเพื่อทำงานใกล้ชิดทีมวิปในสภา เพื่อรักษาสถานภาพทางการเมืองในสภาให้เป็นที่พึ่งหวังของประชาชนผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับทีมคณะทำงานดังกล่าวมีประมาณ 26 คน ส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส. และแกนนำจากพรรคเพื่อไทย

 

เชิญ6รมต.ติวเข้มรับมือศึกซักฟอก

 

               นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงการจัดสัมมนาพรรคพปชร.เรื่องญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ ที่ จ.ชลบุรี ว่าในการสัมมนาครั้งนี้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะไปร่วมด้วย และยังไม่ทราบว่าจะมีผู้ใหญ่คนใดไปบ้าง แต่ได้เรียนเชิญบางท่านไปแล้ว โดยเราเรียนเชิญผู้ถูกอภิปรายทั้ง 6 ท่าน และทีมงาน เพื่อประสานเรื่องข้อมูล

 

               เมื่อถามว่ามีกระแสภายหลังการอภิปรายจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระแสปรับ ครม.นั้นมีปกติของการเมือง ทุกช่วงมีโอกาสปรับทั้งสิ้น ไม่ใช่เฉพาะช่วงอภิปรายเท่านั้น ส่วนที่มีกระแสมีชื่อของนายสนธิรัตน์ที่จะถูกปรับด้วยนั้น ชื่อก็มีทุกคนเวลาจะปรับ เป็นเรื่องปกติทางการเมือง และตนยังไม่เห็นนายกฯ พูดอะไรในเรื่องนี้ คิดว่ากระแสการเมืองมีตลอดเวลา เป็นเรื่องปกติ

 

ธรรมนัสสั่งทีมกฎหมายตั้งวอร์รูม

 

               แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์นี้ ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทีมกฎหมายตั้งวอร์รูมที่ จ.พะเยา เพื่อเตรียมโต้ตอบและดำเนินคดีทั้งอาญาและทางแพ่งกับผู้อภิปรายทั้งในสภาและนอกสภา หากพบว่ามีการอภิปรายที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและร.อ.ธรรมนัส

 

               ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังสั่งการให้ตั้งวอร์รูม ส่วนกลางทั้งในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรและในส่วนของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตร (ส.ป.ก.) และองค์การคลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพื่อเตรียมข้อมูลสนับสนับสนุนการชี้แจ้งทุกประเด็น

 

               ด้านนายไพรัช พิมสาร หัวหน้าทีมทนายความของ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้สั่งการให้ตนและฝ่ายกฎหมายเตรียมแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักสอบสวนทุกสถานีตำรวจในเขตจังหวัดพะเยาทันทีหากผู้อภิปรายอภิปรายไม่อยู่ในกรอบกฎหมายและขณะนี้ได้เตรียมทีมกฎหมายพร้อมที่จะดำเนินคดีหากพบว่ามีการอภิปรายที่เป็นการละเมิดและสร้างความเสียหาย

 

‘อนุสรณ์’เย้ยองครักษ์พิทักษ์บิ๊กตู่

 

               ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมรับมือองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะคอยประท้วงตลอดการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่าการจัดทีมคอยประท้วงผู้อภิปรายของฝ่ายค้านเป็นแท็กติกเดียวที่ฝ่ายรัฐบาลมี

 

               และจะใช้ในการยับยั้ง ทำลายจังหวะการอภิปรายไม่ไว้วางใจของส.ส.ฝ่ายค้าน ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน หวังวางบิลสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ออกแอ็กชั่นเตรียมวางงานกันเต็มที่ประชาชนเกิดคำถาม สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง ออกอาการลนลานกันขนาดนี้ เพราะไม่สุจริต มีปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่

 

               “องครักษ์ที่จะคอยลุกขึ้นประท้วง ไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ เพราะประชาชนดูอยู่ อย่าฉุดการเมืองย้อนยุค น้ำเน่า เคารพประชาชน ฟังเสียงประชาชนให้มาก ข้อมูลที่ไหลมายังฝ่ายค้านไม่ขาดสายมาจากทั่วทุกสารทิศ มั่นใจว่าขนาดรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายยังจะไม่สามารถตอบได้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่จะคอยลุกขึ้นประท้วง จะเอาอะไรมาประท้วง ความกลัวทำให้เสื่อม ถ้ามั่นใจว่าโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่มีอะไรต้องกลัว หยุดได้แล้วองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะนอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้วยังทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย” นายอนุสรณ์ กล่าว

 

พท.ปูดรัฐเอื้อปมเช่าศูนย์สิริกิติ์

 

               วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย แถลงข้อมูลก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเจ้าสัวรายใหญ่มีแผนดำเนินธุรกิจ New CBD Bangkok แต่โครงการนี้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าไม่ได้เช่าพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

               เนื่องจากที่ผ่านมาลงทุนไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท เพื่อทำธุรกิจ MICE ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ดังนั้นกลุ่มเจ้าสัวจะต้องเอาพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ให้ได้ เพราะต่อไปจะกลายศูนย์การประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ธุรกิจครบวงจร

 

               นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์สร้างขึ้นด้วยเงินของรัฐบาลสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เพื่อจัดประชุมเวิลด์แบงก์ โดยบริษัท NCC Management and Development เข้ามาดูแลเรื่องการประชุม หลังจากจัดประชุมไปแล้วจะต้องหาบริษัทเข้ามา รัฐบาลก็หาคนมาดูแลพื้นที่ตรงนี้ต่อโดยให้ NCC เสนอแผนการลงทุน และประโยชน์ตอบแทนมา

 

               ซึ่งตามสัญญาบริษัท NCC จะต้องสร้างโรงแรมมาตรฐาน 4-5 ดาว จำนวน 400 ห้อง, ที่จอดรถ 3,000 คัน พื้นที่เชิงพาณิชย์ไม่น้อยกว่า 28,000 ตารางเมตร แต่เมื่อเวลาผ่านไปปรากฏว่า NCC ไม่ได้สร้างโรงแรม เท่ากับว่า NCC ผิดสัญญาตั้งแต่ตอนนั้น ทุกอย่างต้องเป็นโมฆะตั้งแต่ตอนนั้น แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาต่อสัญญาให้เช่าเพิ่มอีก 50 ปี ซึ่งถือว่าเป็นอภิมหาสัญญาเช่าที่นานที่สุดของประเทศเพราะรัฐบาลยังไม่เคยทำสัญญาให้เอกชนรายใดในประเทศเช่าได้นานขนาดนี้

 

ชี้มีหลักฐานทุจริตบีบ‘บิ๊กตู่’ลาออก

 

               นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า วิธีการเช่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ของเจ้าสัวสุดพิสดาร พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ระมัดระวัง ไม่รอบคอบ ไม่เปิดให้มีการประชุมประมูลแข่งขันอย่างเป็นธรรมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ฟังใครทั้งนั้น จะให้เจ้าสัวท่าเดียว เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปพัวพันกับเจ้าสัวใช่หรือไม่ เพราะในสัญญาใหม่ก็เขียนอีกว่าจะสร้างโรงแรมอีก ตรงนี้จะไม่เรียกค่าโง่ได้อย่างไร เพราะในสัญญาเก่าก็ระบุว่าจะสร้างโรงแรมก็ยังไม่ได้สร้าง เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจาก กรณีสัญญารถดับเพลิงที่สุดท้ายก็ต้องเลิกทำ

 

               “หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถทำให้ยกเลิกอภิมหาสัญญาเช่า 50 ปีได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่เกี่ยวกับการธุรกิจอีกมากที่เกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งยังมีเจ้าสัวคนอื่นๆ อีก อยากให้ประชาชนได้ติดตาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ทนฟังเรื่องเลวร้ายของตัวเองไม่ได้ สัปดาห์หน้ายังมีเวลาที่จะไป พิจารณาลาออกก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีข้อมูลพร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบและในวันที่17 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. มีข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานยาสูบมาเปิดเผยอีก” นายยุทธพงศ์ กล่าว

 

พปชร.เปิดตู้ ปณ.999รับร้องทุกข์

 

               วันเดียวกันพรรคพลังประชารัฐ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม และในฐานะหัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ และส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันแถลงข่าวเปิดศูนย์ โดยนายสามารถ กล่าวว่า เป็นการเปิดตัวศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์อย่างเป็นทางการ ตู้ปณ.999 ปณฝ.จตุจักร กทม. 10900 และสายด่วน 1350 ทุกอย่างรวมเป็น 9 หมด คือ เราจะก้าวไปหาประชาชน ก้าวไปรับเรื่องของพี่น้องประชาชน ซึ่งศูนย์ดังกล่าวมีผู้ใหญ่ในพรรค ส.ส.เข้ามาร่วมเป็นคณะทำงานทั้งหมด 16 คนในทุกพื้นที่

 

               นายสามารถ กล่าวต่อว่า มี 3 เรื่องที่ทำเสร็จแล้ว คือ 1.การปลดล็อกใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด โดย 27 ส.ส.ของพรรคได้ยื่นให้ประธานสภาของแก้ไขกฎหมาย 2.ได้ยื่นญัตติด่วนตั้งกรรมาธิการวิสามัญการฉ้อโกงประชาชน แชร์ลูกโซ่ และหนี้นอกระบบ 3.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.ได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกฟ้องร้องโดยประสานกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยดูด้านคดีความ และวันนี้ก็ได้มาขอบคุณ

 

อัดเด็กอนค.อยู่บ้านพักทหาร

 

               วันเดียวกัน นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความ โดยแชร์ข่าวกรณี พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยอมรับผ่านสื่อมวลชนว่ายังอยู่ในบ้านทหาร แม้จะเกษียณอายุมานานแล้ว โดยระบุว่า “แย่พอกัน กองทัพต้องบังคับให้ย้ายออกทันที”

 

               น.ส.พรรณิการ์​ วานิช​ โฆษกพรรคอนาคตใหม่​ (อนค.) แถลงการณ์กรณีของ พล.ท.พงศกร​ รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค อนค. ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักข้าราชการทหาร ว่าหลังทราบเรื่องพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องดังกล่าว​ แต่ในขณะนี้พล.ท.พงศกร อยู่ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติงานในต่างประเทศแต่จะแถลงต่อสาธารณะในกรณีนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน​

 

               “พรรค อนค.ขอน้อมรับคำวิจารณ์จากกรณีดังกล่าวและขอโทษสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรคทุกคนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อจุดยืนของพรรคในการปฏิรูปกองทัพ ขอย้ำว่าจุดยืนของพรรคในเรื่องนี้ว่าเราไม่เคยคลอนแคลน และต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกคน ผลักดันให้การปฏิรูปกองทัพเกิดขึ้นในเร็ววัน​จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

               แม้จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แต่ก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าทุกฝ่าย ทั้งที่สนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล ต่างก็เห็นว่าสิทธิพิเศษของบุคคลระดับสูงเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขขอขอบคุณทุกคำวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดียิ่งขึ้นต่อไป" พรรณิการ์ กล่าว

 

เลือกตั้งกำแพงเพชรสุกคึก

 

               วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงพื้นที่ผู้สมัครรับการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 2 กำแพงเพชร ระหว่าง พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย แทนตำแหน่งที่ว่างภายหลังจากที่คณะกรรมการเลือกตั้งได้ประกาศรับสมัครเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 2

 

               โดยมีผู้ลงสมัครรับการเลือกตั้ง ประกอบด้วยผู้สมัครหมายเลข 1 นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ พรรคพลังประชารัฐ ผู้สมัครหมายเลข 2 นายอิทธิพล แปลงเล็ก พรรคภาคีเครือข่ายไทย ผู้สมัครหมายเลข 3 นายกัมพล ปัญกุล พรรคเพื่อไทย โดยตั้งแต่เช้าการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้งสองพรรคต่างลงพื้นที่ ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนจำนวนมาก

 

               นายเพชรภูมิ กล่าวว่า วันนี้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พ่อแม่พี่น้องจำนวนมาก ทำให้มั่นใจการเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

 

               นายกัมพล ปัญกุล พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จนถึงวันนี้ตนเองและทีมงานจะต้องต่อสู้กับผู้มีอำนาจเหนือบารมี มีทั้งอิทธิพล แต่อย่างไรก็มั่นใจจะได้รับการคัดเลือกจากประชาชนให้เป็นผู้แทนประชาชนเพื่อทวงถามคำสัญญาที่รัฐบาลให้ไว้กับประชาชน

 

ปูด‘พ.ต.ท.ไวพจน์’โทรขอ-ข่มขู่

 

               ขณะที่นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมเขต 2 กำแพงเพชร ให้สัมภาษณ์ถึงการกาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายในส่วนของพรรค พท. ว่าขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลใช้อำนาจรัฐอย่างเต็มที่ ทั้งตำรวจ ทหาร และผู้นำท้องถิ่น ทั้งในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะในเขตจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อ ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครราชสีมา ที่จะระดมกำลังเข้ามารุมอัดในพื้นที่

 

               นอกจากนี้ตัวผู้สมัครเองจะต้องยอมตื่นเช้ากลับดึกเพื่อเข้าไปในทุกพื้นที่ให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่เกังวลคืออำนาจรัฐ ซึ่งวันนี้ต้องขอย้ำว่าพ่อของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังโทรเข้ามาหาแกนนำในลักษณะทั้งขอและข่มขู่คุกคามอยู่ จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาล และเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย

 

ยันกมธ.สอบเสียบบัตรไม่มีเอียง

 

               นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในญานะรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มองถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภา มอบหมายให้ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลมาเป็นประธานตรวจสอบ กรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกันว่าจะตรวจสอบกันอย่างไรก็ไม่สำเร็จนั้น ว่า

 

               จากการที่ตนเป็นหนึ่งใน กมธ.ชุดดังกล่าว แม้ไม่สามารถยืนยันความเป็นกลางให้ทุกคนได้ แต่ส่วนตัวพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายและที่ผ่านมาก็ทำงานตรงไปตรงมาแม้เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม หากพรรคร่วมรัฐบาลทำอะไรผิดพลาดก็จะไม่ปกป้องเด็ดขาด ตนได้แสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างชัดเจน

 

               ถ้าฝ่ายรัฐบาลทำดีก็สนับสนุน เมื่อรัฐบาลทำอะไรไม่ดี ก็ออกมาวิจารณ์อย่างรุนแรง ทั้งนี้ในกมธ.ชุดดังกล่าวมีทั้งหมด 15 คน หากไม่นับประธาน กมธ. จะมีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างละ 7 คน และทุกคนเป็นผู้อาวุโสทางการเมือง มีวุฒิภาวะทุกคน

 

               “ฉะนั้นขอให้มั่นใจได้ว่าการทำงานของกมธ.ชุดนี้จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ถ้าสอบสวนแล้วมีการกระทำผิดจริงก็จะนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการได้ 2 แนวทาง คือ 1.ถ้ากระทำผิดในการทำหน้าที่ของส.ส. ก็ยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินคดีอาญาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

               และ 2.ถ้าหากสอบสวนพบการกระทำผิดฐานบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ก็ยื่นให้คณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโทษตามข้อบังคับ” นายเทพไท กล่าว

 

จ่อร้องป.ป.ช.สอบเพิ่มอีก 3 ส.ส.

 

               ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กรณีการเสียบบัตรแทนกันของส.ส. โดยวินิจฉัยว่าการกระทำโดยไม่สุจริต ใช้สิทธิ์ออกเสียงลงมติแทนผู้ที่ไม่ได้อยู่ร่วมประชุม เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยไม่อยู่ในอาณัติมอบหมายของผู้ใด

 

               แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 114 ทั้งสมาชิกคนหนึ่งย่อมมีเสียงหนึ่งเสียงในการออกเสียงลงคะแนนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 120 วรรคสาม และการออกเสียงลงคะแนนจะทำแทนกันไม่ได้ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 80 วรรคสามนั้น

 

               อย่างไรก็ตามปรากฏว่ายังมีส.ส.อีกหลายคนที่อาจมีพฤติกรรมดังกล่าวอีก 3 ราย อาทิ 1.น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ 2.นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท และ 3.นายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย

 

               ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมจึงจะนำรายชื่อ ส.ส.ดังกล่าวไปร้องเรียนต่อป.ป.ช.เพิ่มเติม เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด สส.ดังกล่าวหากพบความผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ