ข่าว

ศาลฎีกาไม่ให้ประกัน จ่าประสิทธิ์ หากปล่อยกลัวหนี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จ่าประสิทธิ์" อดีตส.ส.สุรินทร์เพื่อไทย แนวร่วม นปช. นอนคุกยาว ศาลฎีกา ชี้ คดีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโทษ 2 ปี ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ต้องให้เซ็นรับรอง หากปล่อยกลัวหนียังไม่ยื่นฎีกา

 

 

                7 ก.พ.63 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำสั่งศาลฎีกา วินิจฉัยการขอปล่อยชั่วคราว (ประกันตัว) ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กรณีที่ "จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ" อายุ 53 ปี อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลย คดีรับของโจรและทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 กรณีครอบครองหมวกนิรภัยและเสื้อเกราะของเจ้าหน้าที่ช่วงที่มีการสลายการชุมนุม นปช.ปี 53 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฎีกา หลังจากที่มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา



                 ซึ่ง "จ.ส.ต.ประสิทธิ์" จำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เดิมเป็นเงินสด 200,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยศาลอาญาพิจารณาแล้ว เห็นควรส่งคำร้องนั้นให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาสั่ง


อ่านข่าว - อุทธรณ์ยืนคุก 2 ปี จ่าประสิทธิ์ เตรียม 7 แสนประกันสู้ฎีกา

 

 

 

 

ศาลฎีกาไม่ให้ประกัน จ่าประสิทธิ์ หากปล่อยกลัวหนี

 


                 ขณะที่ "ศาลฎีกา" พิจารณาแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง ยังไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว "จ.ส.ต.ประสิทธิ์" จำเลย เนื่องจากคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งจะต้องขออนุญาตฎีกาโดยให้มีผู้พิพากษาที่เคยนั่งพิจารณาสำนวนนั้น หรืออัยการสูงสุด ลงลายมือชื่อรับรองฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย ซึ่งคดีนี้จำเลยยังไม่ได้ยื่นฎีกาและยังไม่ได้รับรองให้ฎีกา ดังนั้นหากอนุญาตปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนี
 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้องของ "จ.ส.ต.ประสิทธิ์" จำเลย ในการขอปล่อยชั่วคราวแล้ว ขณะนี้จำเลยจึงยังต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป จนกว่าจะมีการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่แล้วศาลมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น หรือหากครบกำหนดการยื่นฎีกาภายใน 1 เดือนนับจากวันที่มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทรณ์แล้วจำเลยยังไม่ได้ยื่นฎีกา และไม่ปรากฏว่ามีการขอขยายระยะเวลาฎีกาตามขั้นตอน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาฎีกาแล้วถ้าจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกา ก็จะทำให้ผลคำพิพากษาในชั้นศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สุด ซึ่งตัวจำเลยก็จะตั้งรับโทษตามคำพิพากษาต่อไป
 

 

             สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ได้ยื่นฟ้อง "จ.ส.ต.ประสิทธิ์" อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และแนวร่วม นปช. ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 4, 15, 42 และรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.53 เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถจำเลย พบมีเสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกนิรภัยปราบจลาจล ซึ่งเป็นเครื่องยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตที่สูญหายไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53

 

 

               ในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าทหารปฏิบัติการสลายการชุมนุม นปช. และขณะที่ ส.อ.ชนะยุทธ คมสาคร สังกัดกองทัพภาค 1 กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้มีคนร้ายมากกว่า 3 คนขึ้นไปร่วมกันใช้คันธงยาว 1 เมตร ตีประทุษร้ายได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย และแย่งชิงหมวกนิรภัยปราบจลาจล ราคา 3,745 บาท ที่ ส.อ.ชนะยุทธ ครอบครองที่ศีรษะไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่แขวง - เขตดุสิต กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน โดยจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณา


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ