"ทักษิณ ชินวัตร" แนะรัฐบาลแก้เศรษฐกิจดูแลประชาชนไม่ใช่คนรวย

 

              ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า ปัจจบุันจะเห็นได้ว่า ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนทุกอย่างกับกลุ่มบริษัทใหญ่ๆ ที่โตขึ้นทุกวัน แต่ประชาชนทั่วไปต้องดิ้นรนกว่าจะได้เงินทุนไปประกอบอาชีพจากสถาบันการเงินเหล่านี้

อ่านข่าว - แม้ว - เหลิม เกลอกัน

 

 

 

              ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้ทำตัวเป็นองค์กรอิสระอย่างที่ควรจะเป็น โดยแทนที่จะขอให้ธนาคารเสริมสภาพคล่อง แต่กลับมีความคิดเดียวกับธนาคารเอกชนที่สร้างระบบเพื่อช่วยเหลือคนรวยและกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังใช้นโยบายที่ไม่เหมาะสมกับประเทศ จากการใช้นโยบายมุ่งควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งมักใช้กับประเทศที่พัฒนาแล้ว และไม่เหมาะกับประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงควรใช้นโยบายที่มุ่งควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน และด้วยการมุ่งเน้นนโยบายการเงิน ไม่ใช่การคลัง แบงก์ชาติจึงมีส่วนทำให้เงินบาทแข็งค่าเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ปัจจุบันเงินบาทของไทยแข็งค่าเกินกว่าสกุลเงินของชาติอื่นๆ ในภูมิภาคถึง 10% และส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดของเศรษฐกิจไทย คือ การท่องเที่ยวและการส่งออก

 

 

 

              สองกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดังกล่าวกำลังได้รับผลกระทบที่จะเพิ่มมากขึ้น หากยังไม่รีบแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา นอกจากนี้ เงินบาทแข็งค่ายังทำให้เงินทุนไหลออกมากขึ้น ซึ่งเอื้อประโยชน์แก่คนรวยเท่านั้น

              ทักษิณะแนะนำว่า ประเทศไทยควรมีแนวทางแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม และผสานทุกแนวคิดเพื่อมุ่งช่วยเหลือประชาชนของประเทศ นอกจากนี้ ไทยต้องการผู้นำที่สามารถคิดและทำในสภาพที่โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่สิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยผู้มีอำนาจบริหารในขณะนี้

              ปัญหาของประเทศ คือ ทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดนี้เป็นกลุ่มคนที่มุ่งให้ความสนใจการทำตลาด และไม่ได้มองถึงการปฏิบัติได้จริงของนโยบายที่ได้ดำเนินการไป ยกตัวอย่าง นโยบาย "ชิมช้อปใช้" เป็นเพียงลูกเล่นทางการตลาดล้วนๆ เงินกว่า 3 แสนล้านบาทที่ใช้ไปกับโครงการนี้จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปสู่การล้มละลาย

 

 

 

              สิ่งที่จำเป็นควรเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชน และเมื่อพวกเขาใช้จ่าย ก็ย้อนกลับมาช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ

              สิ่งที่ธนาคารต่างๆ ในไทยทำ คือ การหยิบยื่นร่มคันเดียวให้ช่วงฝนตกหนักทั้งที่มีความต้องการร่มหลายพันคันแล้วก็จากไป แต่กลับแจกร่มหลายพันคนในวันแดดออกที่ไม่มีความต้องการร่มสักคัน

              คนด้อยโอกาสในประเทศกำลังเผชิญสถานการณ์ที่พวกเขามีกำลังซื้อน้อยมาก ทำให้ความต้องการบริโภคลดลง การบริโภคยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และกลไกการเติบโตนี้จะเป็นตัวช่วยเมื่อการส่งออกชะลอตัวเนื่องจากปัจจัยภายนอก

              แต่เวลานี้การส่งออกชะลอลง เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้น และการบริโภคหดตัวอย่างมาก ไทยจึงถูกรุมเร้าด้วยปัญหาสารพันนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะการลงทุนของเอกชนชะลอตัวลง ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนเองก็ไม่มั่นใจกับทิศทางของเศรษฐกิจในอนาคต

 

 

 

              การขาดความไว้วางใจและความเชื่อมั่นไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ในระบบทุนนิยมจำเป็นต้องมี 3 สิ่ง ได้แก่ ความไว้ใจ ความเชื่อมั่น และการทำกำไรจากสองตลาด หากมีความไว้ใจและความเชื่อมั่น เงินทุนก็ไหลเข้า เศรษฐกิจก็จะดี แต่หากขาดสองสิ่งนี้ ก็จะทำให้การทำกำไรสองตลาดเพิ่มสูงขึ้น และนั่นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะนี้ กำลังขาดความเชื่อมั่นต่ออนาคตของไทย และกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่เพียงหยิบมือกำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะความมั่งคั่งของประเทศไม่ควรถูกกำหนดโดยธุรกิจหรือกลุ่มคนเพียงหยิบมือ

              กลุ่มบริษัทเหล่านี้มีความสุขมากที่ได้รัฐบาลแบบที่เป็นอยู่ขณะนี้ แต่ความสุขของคนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้สวนทางกับความทุกข์ยากของคนไทยกว่า 67 ล้านคน

 

 

 

              สุดท้ายทักษิณสรุปว่า อยากเห็นทุกภาคส่วนในสังคมไทย ไม่ว่าจะมีสถานะทางเศรษฐกิจอย่างไร ก็ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายทางเศรษฐกิจและการทำงานของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมั่งคั่งยิ่งขึ้น

              สำนักข่าวออนไลน์ ไทย เอ็นไควร์เรอร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม ธนฤทธิ์ ค็อด สตรูแสยง เป็นบรรณาธิการบริหาร

 

 

 

--------------------

ขอบคุณ : โต๊ะข่าวต่างประเทศ Nation TV

ที่มา : thaienquirer.com