"รมว.ดีอีเอส" เผย นักเลงคีย์บอร์ดใช้บัญชีปลอมบิดเบือนข้อมูล 140 แอคเคาท์ เตรียมใช้กฎหมายเล่นงานสื่อใหญ่ในไทย พร้อมถกผู้บริหารเฟซ บุ๊กบินตรงคุยไทย 6 ก.พ.นี้
4 ก.พ.2563-ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบเว็บไซต์บิดเบือนข้อมูลเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย ว่า ตอนนี้ที่ขึ้นบัญชีปลอมมีประมาณ 140 แอคเคาท์ แต่การติดตามจะเจอตัวหรือไม่เจอตัวนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะบางครั้งเมื่อตรวจสอบได้ที่อยู่ เรามั่นใจ แต่พอไปถึงพบว่าไม่ใช่
อ่านข่าว - เอาจริง รมว.ดีอี ลุยจับมือโพสต์ข่าวปลอมไวรัสโคโรน่า
เนื่องจากใช้ชื่อปลอม ที่อยู่ปลอม อีเมล์เพื่อน ในประเทศไทยคนเปิดแอคเคาท์ ไม่ต้องใช้ชื่อ-นามสกุลจริง รวมถึงไม่ต้องใช้บัตรประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์จริง ทั้งนี้ เราดำเนินการ 2 เรื่องในตอนนี้ คือ พยายามตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองก่อนและต้องตามสืบจากคนข้างเคียงที่เข้ามาคอมเม้น เพื่อให้เจอตัว ซึ่งต้องใช้เวลา ขณะที่เฟซบุ๊กมีมาตรการหากเราสามารถตรวจสอบได้ว่า อันไหนเป็นอวตาร มีข้อความขึ้นมาแบบแย่ตลอด และไม่มีตัวตน ทางเฟซบุ๊กจะยกเลิกแอคเคาท์ให้
ซึ่งเขาไม่เคยทำกับใคร แต่จากากรที่ตนได้เดินทางไปอเมริกา พูดคุยกับเฟซบุ๊กทำให้เขาเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น เพราะเราโดนเรื่องนี้เยอะ และในวันที่ 6 ก.พ.นี้ ทางเฟซบุ๊กจะบินมาประชุมร่วมกันกับเราที่ประเทศไทย ทั้งนี้ ถือว่าทางเฟซบุ๊กให้ความร่วมมือ และเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมานายกฯสั่งในที่ประชุมให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง
เมื่อถามว่ามีสื่อหลักในประเทศไทยที่เข้าข่ายบิดเบือนข้อมูลและเตรียมที่จะดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีสื่อหลักที่เปลี่ยนตัวเองจากรูปแบบปกติไปเป็นออนไลน์ มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงซึ่งหลายเว็บที่เราเข้าไปตรวจสอบพบว่า เป็นการหมิ่นประมาท พูดไม่จริง และกล่าวหา ซึ่งคนที่เดือดร้อนคือคนที่ถูกกล่าวหา ดังนั้น คนที่ถูกกล่าวหาต้องฟ้องร้องดำเนินคดีเอง ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกฎหมาย แต่กรณีข่าวปลอมจัดอยู่อีกประเภทหนึ่ง หากตรวจสอบชัดเจนแล้วว่าเป็นข่าวปลอม ตั้งใจบิดเบือน และตอนนี้มีสื่อใหญ่ที่พอจะเข้าข่ายอยู่ ซึ่งอยู่ระว่างเก็บข้อมูลเพื่อดำเนินการในเร็วๆนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง