สมชาย จี้ ครม. ขยายกรอบการใช้งบฯ 62 หวังสร้างความเชื่อมั่นประชาชนต่อรัฐบาล หนุนออก พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ
รัฐสภา 1 กุมภาพันธ์ 2563 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวเรียกร้องไปยัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร่งพิจารณาการออกมติ ครม. ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อขยายเพดานการใช้งบประมาณของปี 2562 ไปพรางก่อน จากเดิมที่เคยใช้มติ ครม. อนุมัติให้ใช้งบฯ ไปแล้ว ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้หน่วยงานราชการสามารถมีเม็ดเงินเพื่อใช้จ่ายในหน่วยงาน อาทิ ค่าตอบแทนบุคลากร , งบชำระหนี้ , งบประมาณเพื่อใช้ผูกพันโครงการ
อ่านข่าว - กรณ์ หนุนออก พ.ร.ก.งบฯ 63 คัดจาก 1.2 แสนเป็นชื่อพรรค (มีคลิป)
ซึ่งจากข้อมูลพบว่าการขอใช้งบประมาณส่วนดังกล่าวจะสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนการขยายเพดานนั้นควรปรับเพิ่มอีก 25 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็น 75 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ แม้การขยายเพดานดังกล่าวจะไม่สามารถนำไปใช้เพื่อการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ของรัฐบาลได้ แต่ตนเชื่อว่าเมื่อ ครม. ออกมติดังกล่าวได้โดยเร็ว จะเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนและประชาชนต่อรัฐบาลในกรณีที่มีเม็ดเงินเพื่อใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ อีกทั้งจะสร้างความโล่งใจให้กับหลายๆ หน่วยงาน ในกรณีที่ไม่สามารถทราบถึงกำหนดเวลาที่ชัดเจนต่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ (ศร.) ที่ ส.ส. ส่งคำร้องให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สำหรับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นตนมองว่าควรถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะการวินิจฉัยในคำร้องดังกล่าวมีผลเกี่ยวเนื่องกับการใช้จ่ายงบประมาณด้วย ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญมีผลวินิจฉัยได้แล้วเสร็จก่อนการปิดสมัยประชุม ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ หากสภาฯ ต้องนำร่าง พ.ร.บ.งบฯ กลับมาพิจารณาใหม่จะทำให้สภาฯ มีเวลาพิจารณา โดยไม่ต้องเปิดสมัยวิสามัญ
นายสมชาย ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลอาจใช้แนวทางออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน เพื่อกู้เงินมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมถึงลงทุนนั้น ตนเชื่อว่ากรณีดังกล่าวสามารถทำได้ เพราะก่อนหน้านั้นในสมัยรัฐบาลในอดีต พบว่ารัฐบาลเคยออก พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการออกกฎหมายงบประมาณที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้การออกกฎหมายงบประมาณต้องทำเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้นเพื่อให้เกิดการตรวจสอบโดยสภาฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง