เสรีพิศุทธ์ ประชด ชวน ใช้ส.ส.ลาว-เขมร ร่วมลงชื่อส่งศาลรธน.

 

                 ที่รัฐสภา วันที่ 31 มกราคม 2563 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ฐานะผู้ยื่นคำร้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณากรณีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 แต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายกคำร้อง ได้เข้าสอบถามข้อเท็จจริงกับนายชวน ต่อกรณีที่เกิดขึ้น ระหว่างที่แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล

 

 

 

                 โดยนายชวน ตอบคำถามว่า รายชื่อผู้สนับสนุนคำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่มีลักษณะเดียวกันกับคำร้องของนายสมพงษ์​ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พบการลงลายมื่อชื่อที่ซ้ำกันกับคำร้องของนายสมพงษ์ ทำให้จำนวนผู้ที่สนับสนุนคำร้องนั้นไม่ครบจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด

 

 

 

 

                 "หากท่านเสนอไปฝ่ายเดียว ประเด็นเดียว ไม่ลงชื่อซ้ำ แต่ของท่านซ้ำกับผู้นำฝ่ายค้าน ที่ผ่านมาเคยมีการพูดกันแล้ว แต่ทางที่ดียื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณาจะดีกว่า ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล"นายชวน กล่าว

                 ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวขึ้นว่า หากตรวจพบการกระทำผิด 1 คนยื่นไป โดยใช้ชื่อส.ส.​80 คน หากเจอผิดอีก 1 ต้องยื่นไปแบบไม่ซ้ำ แต่หากเจอผิดเป็น 10 ครั้ง ต้องใช้ส.ส.ถึง 800 คน จะเอาส.ส.จากไหน หากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปอีก จะเอาส.ส.ที่ไหนมาลงชื่อ แบบนี้ต้องอาศัยส.ส.ลาว ส.ส.เขมรแล้ว เพราะเสียงในสภาฯไม่พอ

 

 

 

 

                 ผู้สื่อข่าวรายว่า ในระหว่างที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวพาดพิงถึงพรรคอนาคตใหม่ที่อาจถูกยุบนั้น ได้หันไปทางนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่ยืนอยู่ใกล้เคียง ซึ่งนายปิยบุตร ได้ยิ้มแบบแห้งๆ ขณะที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยืนใกล้เคียงต่างพากันหัวเราะ