ฝ่ายค้านเคาะแล้ว 9 รมต. จับ "อนุทิน" ขึ้นเขียงซักฟอก

 

               ฝ่ายค้านเคาะ 9 รมต.ขึ้นเขียงซักฟอก “อนุทิน-อุตตม” ไม่รอดโดนด้วย จ่อยื่นสภาวันนี้ ขณะที่เพื่อไทยจ่อยื่นชวนส่งหลักฐานเพื่มปม “นาที” เสียบบัตรแทนกัน ด้าน อนค.แฉส.ส.พลังประชารัฐเสียบบัตรแทนกันเพิ่มอีก เพื่อไทยร้าวหนักหญิงหน่อยหักสมพงษ์ปมส่งคนชิง ส.ส.กำแพงเพชร

 

อ่านข่าว พท. แย้มหยิบไลน์หลุด ปารีณา-ธรรมนัส มาซักฟอก

 

                ความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มกราคม ฝ่ายค้านเคาะรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด 9 คน โดยจะยื่นญัตติวันที่ 31 มกราคม เวลา 12.00 น. ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี 4.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 5.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข 6.นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง 7.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 8.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ 9.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์

 

อนุทิน-อุตตมติดโผซักฟอกเพิ่ม

 

                รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีนายอนุทินที่ถูกฝ่ายค้านยื่นซักฟอก น่าจะเป็นเรื่องการควบคุมป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ค่อนข้างจะไม่รัดกุม ปล่อยให้มีคนติดเชื้อในประเทศไทย ขณะที่นายอุตตมนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องการละเลยปล่อยให้ลูกพรรคพลังประชารัฐเสียบบัตรแทนกัน ส่วน ร.อ.ธรรมนัส เป็นเรื่องยาเสพติดที่เคยรับโทษที่ประเทศออสเตรเลีย

 

               อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในการประชุมพรรคฝ่ายค้านมีความพยายามที่จะล็อบบี้เพื่อไม่ซักฟอกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย คือนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง โดยล่าสุด 7 พรรคฝ่ายค้านได้ข้อยุติที่จะไม่อภิปรายนายศักดิ์สยาม โดยล็อกเป้าไปที่นายอนุทิน ในการบริหารราชการกระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะเรื่องไวรัสโคโรนา

 

ชี้อาจต้องปรับลด“รมต.”ถูกซักฟอกลง

 

               ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกระแสข่าวฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 9 รัฐมนตรี ว่า ล่าสุดขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน และเรียกคนที่จะอภิปรายมาซักถามว่ามีข้อมูลหนักแน่นเพียงใด เพราะบางคนเป็น ส.ส.ใหม่ ข้อมูลอาจไม่แน่น ใครมีหลักฐานไม่แน่นจริงคงต้องมาทบทวนกันอีกครั้ง แต่ดูแนวโน้มแล้วคงต้องปรับลดจำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจลงมา คาดว่าคงปรับลดลงมา 1-2 คน แต่จะเป็นใครต้องรอสรุปกันอีกครั้ง

 

อนค.เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดอัด‘ธรรมนัส’

 

               ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานอนุกรรมาธิการตรวจสอบคุณสมบัติ ร.อ.ธรรมนัส ในเรื่องคดียาเสพติดนั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบและเก็บหลักฐานข้อมูลต่างๆ ได้มากพอในระดับหนึ่ง พร้อมที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัสได้ 
 

               เพราะขณะนี้ได้รับข้อมูลจากศาลประเทศออสเตรเลียมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้ความจริงปรากฏชัดเจนมากขึ้น ทั้งในแง่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย สามารถโต้แย้งในสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัสชี้แจงมาทั้งหมดได้ แม้สุดท้ายแล้วจะโหวตแพ้ แต่ข้อมูลที่มีจะชี้ให้เห็นว่ามีความชอบธรรมทางจริยธรรมหรือไม่

 

เหล่าทัพพร้อมจัดข้อมูลรับศึกซักฟอก

 

               ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมว่า พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นประธาน เรื่องการสนับสนุนข้อมูลสำหรับการอภิปรายทั่วไป โดยให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ สนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องในความรับผิดชอบกับคณะทำงานกระทรวงกลาโหมประจำรัฐสภา 

 

               เพื่อเปิดเผยและทำความเข้าใจกับสมาชิกรัฐสภาและประชาชนอย่างตรงไปตรงมาในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในบทบาท ทิศทางและสถานะความเป็นจริงของกองทัพ ในฐานะสถาบันหลักด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ต้องการการสนับสนุนและความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน
 

จ่อเพิ่ม“นาที” ปมเสียบบัตรแทนกัน

 

               ด้านความคืบหน้าปมปัญหา ส.ส.เสียบบัตรแทนกันนั้น วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีไม่มีชื่อนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในครั้งแรกกรณีการเสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า เนื่องจากฝ่ายค้านไม่ได้ยึดที่ตัวบุคคล แต่จะชี้ให้เห็นว่ากระบวนการพิจารณางบประมาณดังกล่าวมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และในขณะนั้นเน้นหลักฐานที่มีความชัดเจน จึงยื่นในส่วนของ ส.ส.ที่มีหลักฐานชัดเจนก่อน

 

               อย่างไรกตามฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างทำคำร้องเพื่อขอเพิ่มหลักฐานใหม่ในกรณีของนางนาที โดยจะยื่นผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ในวันที่ 31 มกราคมนี้ เพื่อส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพิ่มเติมตามคำร้องเดิมที่ยื่นไปก่อนหน้านี้

 

“นิพิฏฐ์”เหน็บ“นาที”เล่นของพารอด

 

               ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ขอให้ศาลฯ วินิจฉัยการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 พร้อมให้ผู้เกี่ยวข้องส่งคำชี้แจงในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งไม่มีชื่อนางนาที ว่า

 

               สงสัยตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าทำไมคำร้องของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจึงไม่ปรากฏชื่อนางนาทีรวมอยู่ด้วย ทั้งที่มีหลักฐานปรากฏชัดว่าบัตรของนางนาทีมีการลงคะแนนเสียงมาตลอด และยาวไปถึงช่วงที่นางนาทีเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ขาออกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปแล้ว จึงอยากถาม ส.ส.ทั้ง 2 ฝ่ายว่าทำไมไม่สงสัยข้อมูลดังกล่าวบ้าง

 

               “ผมคิดว่านางนาทีคงเล่นของ จึงเสกชื่อตัวเองให้หายไปได้ น้ำหนักของเรื่องนี้อยู่ที่กรณีของนายฉลองและนางนาที ส่วนคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพของ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐและนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เสียบบัตรหลายใบก็มีคำอธิบายได้ในระดับหนึ่งว่าเกิดจากกรณีที่จำนวนช่องเสียบบัตรในห้องประชุมนั้นมีไม่เพียงพอกับจำนวน ส.ส.ในสภา และเจ้าของบัตรก็ยืนดูอยู่ด้วย 

 

               ซึ่งเชื่อว่าประเด็นนี้จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องคิดหนักว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จะเป็นโมฆะหรือไม่ สำหรับผมยังมั่นใจกรณีของนายฉลองและนางนาทีมีน้ำหนักมาก แต่ในเมื่อ ส.ส.ในสภาไม่สงสัยกรณีนี้ ก็ต้องแล้วแต่เขา เพราะในเมื่อตอนนี้ผมไม่ได้เป็น ส.ส. จึงดำเนินการอะไรไม่ได้มากกว่านี้” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
 

‘ชวน’ ไม่ตอบ “นาที” ไม่มีชื่อ

 

               ขณะที่นายชวนให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ให้สอบกรณีเสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 โดยศาลกำหนดให้บุคคลที่เกี่ยวข้องยื่นคำชี้แจงเป็นหนังสือภายในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ว่า ได้รับทราบเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยกรณีดังกล่าวแล้ว

 

               โดยศาลรับ 2 คำร้องของ ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่ตีตก 1 คำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย พร้อมกันนี้ศาลยังได้ส่งคำสั่งไปให้บุคคลที่เกี่ยวข้องชี้แจงภายในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นี้ ซึ่งในส่วนของนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้อำนาจทางเลขาธิการสภาไปดำเนินการชี้แจง โดยไม่ต้องกำชับอะไรเพิ่มเติม

 

               ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ศาลไม่มีชื่อของนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ทั้งที่ถูกตรวจสอบและพบว่าให้บุคคลอื่นใช้สิทธิ์ลงคะแนนแทน ทั้งที่เจ้าตัวลาไปต่างประเทศ ซึ่งนายชวนปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้

 

               ด้านนายสรศักดิ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า สาเหตุที่ยังไม่ตรวจสอบนางนาทีนั้น เป็นเพราะเรื่องเพิ่งส่งมาถึงตน

 

แฉอีกพปชร.เสียบบัตรแทนกัน

 

               วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า พรรคอนาคตใหม่มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอของ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ในเวลา 13.41 น. เลขที่บัตร 150 โดยเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับหนึ่ง ซึ่ง น.ส.ธนิกานต์ ได้ลงคะแนนเห็นด้วย ขณะเดียวกัน ในวันดังกล่าวเวลา 13.42 น. ได้มีภาพไลฟ์สดของ น.ส.ธณิกานต์ไปร่วมรายการแบ่งปันความรู้บทบาทแม่แห่งยุคดิจิทัล ที่สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ 

 

               นอกจากนี้ ยังมีกรณีนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่เสียบบัตรแทนกันถึง 3 ครั้ง ในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ พ.ศ.2563 ซึ่งในกรณีของพรรคพลังท้องถิ่นไทนั้นมีจำนวนเก้าอี้และเครื่องเสียบบัตรเพียงพอต่อจำนวน ส.ส.ของพรรค ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฝากบัตรลงคะแนนไว้กับ ส.ส.คนอื่นแต่อย่างใด
 

               "สิ่งนี้ไม่ใช่แค่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ แต่เป็นรัฐบาลบัตรข้างมากมากกว่า เพราะทุกญัตติ ทุกโอกาส จะเกิดการเสียบบัตรแทนกันเพื่อเอาชนะทางการเมือง โดย ส.ส.ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้เกรงต่อข้อบังคับการประชุมสภา ดังนั้น หากไม่มีการแก้ไขก็จะไม่เกิดการถ่วงดุลตรวจสอบ เพราะรัฐบาลจะชนะโหวตทุกครั้งเสมอ” นายณัฐชา กล่าว

 

“สุวัจน์”ชี้คำวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐาน

 

               ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาและแกนนำพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.นครราชสีมา วิเคราะห์ถึงการผ่านงบประมาณแล้วเกิดมีปัญหาการเสียบบัตรแทนกันว่า เรื่องปัญหางบประมาณที่มีการเสียบบัตรแทนกัน วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยแล้ว ฉะนั้นจะผิด หรือจะถูก หรือแนวทางจะเป็นอย่างไร 

 

               วันนี้ก็คงจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาล ยังไม่ทราบว่าคำวินิจฉัยของศาลจะเป็นอย่างไร แต่คำวินิจฉัยของศาลก็คงจะเป็นบรรทัดฐานที่จะนำไปสู่แนวทางว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องของความสำคัญ และเป็นความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ ตอนนี้เศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ และงบประมาณตัวนี้ 3 ล้านล้านกว่า

 

               “ผมยังเชื่อว่าด้วยกลไก ด้วยมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ศึกษาเอาไว้ว่า จะหยิบมาตรการและกลไกอะไรมาใช้หลังจากที่มีคำวินิจฉัยจากศาลแล้ว เชื่อว่าน่าที่จะมีมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ สรุปว่ายังไงเงินมีแน่ เงินได้ใช้แน่ แต่อาจจะมาช้าบ้าง อย่างที่เราเป็นห่วง ก็อาจจะดีเลย์ไป 1-2 เดือน หรือ 3 เดือน แต่ก็เชื่อมั่นว่าคงมีวิธีการในการบริหารจัดการเรื่องเงิน คือ เงินมี แต่มาช้าหน่อย เพียงแต่ว่าจะช้ามาก ช้าแค่ไหนขึ้นอยู่กับวิธีการ ทุกฝ่ายคงจะต้องรอก่อนว่าศาลวินิจฉัยว่าอย่างไร เมื่อมีเหตุทางเทคนิคอย่างนี้เกิดขึ้นเราก็ต้องเคารพกฎหมาย” นายสุวัจน์ กล่าว

 

เพื่อไทยร้าวลึก"หญิงหน่อย”หัก“สมพงษ์”

 

               รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 2 จ.กำแพงเพชร ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ แกนนำ 2 ขั้วในพรรคเพื่อไทย มีความเห็นไม่ลงรอยกัน ในปีกของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน มองว่าไม่ควรส่งผู้สมัคร เนื่องจากเวลาจำกัด ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 

 

               ควรเอาเวลาไปเตรียมความพร้อม ทวงพื้นที่คืนในการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จ.สมุทรปราการ ดีกว่า เชื่อว่าโอกาสที่จะชนะมีมากกว่า ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา นายวราเทพ รัตนากร แกนนำกลุ่มชากังราว ที่ไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ สมาชิกกลุ่ม 16 ในอดีต ที่มีความสนิทสนมกับนายสมพงษ์ พยายามเข้ามาพูดคุยโน้มน้าวไม่ให้พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครลงแข่งขัน

 

               ขณะเดียวกันในปีกของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กลับมองอีกมุม โดยเชื่อว่ายังมีประชาชนให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แม้กลุ่มชากังราวจะยกทีมออกไปทั้งจังหวัด พรรคเพื่อไทยมีเวลาน้อยในการคัดเลือกผู้สมัคร ยังได้อันดับ 2 มีคะแนนประมาณ 1.8 หมื่นคะแนน 

 

               ดังนั้นครั้งนี้ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร ควรที่จะส่งผู้สมัครของพรรคลงแข่งขัน ซึ่งผลคะแนนที่ออกมา นอกจากเป็นตัวชี้วัดความนิยมพรรคเพื่อไทย อีกด้านหนึ่งยังสะท้อนไปถึงความนิยมของผู้สมัคร จากพรรคพลังประชารัฐเช่นกัน

 

จ่อใช้เสียงข้างมากกดดันปมผู้สมัคร

 

               รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเผยอีกว่า หากแกนนำทั้งสองขั้วยังเห็นไม่ตรงกัน มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เสียงข้างมากจากมติคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง กดดันให้ท้ายที่สุดนายสมพงษ์ ต้องลงนามรับรองผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย

 

               ขณะที่ ส.ส.รายหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ประเมินว่า หากรูปการณ์ออกมาเป็นอย่างนี้ คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกภายนอกมองว่าพรรคไม่มีเอกภาพ ถ้าเป็นแบบนี้ในการรณรงค์หาเสียง ก็จะเต็มไปด้วยทีมยุทธศาสตร์ นำคณะแกนนำและส.ส.ใกล้ชิดช่วยหาเสียงเท่านั้น จะยิ่งทำให้พรรคแพ้ทั้งในสนามเลือกตั้งและแพ้ในเกมการเมือง

 

“มงคลกิตติ์”ชวน“พีระวิทย์” ตั้งกลุ่ม

 

               ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย นำนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักธรรม ติดป้ายสติกเกอร์ตราสัญลักษณ์พรรคที่ห้องทำงานในอาคารรัฐสภา โดยทั้ง 3 พรรคจะใช้ห้องทำงานร่วมกัน

 

               นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขณะนี้ให้เรียกกลุ่มนี้ว่ากลุ่ม 3 พรรค โดยเบื้องต้นก่อน ซึ่งก็เป็นหนึ่งในแนวร่วมกลุ่ม 11 และกลุ่มกิจสังคมใหม่ ซึ่งพรรคเล็กทั้งหมดนี้ ก็ถือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ไม่มีฝ่ายค้านอิสระ ไม่มีรัฐบาลอิสระ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจยอมรับว่า เป็นฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถอภิปรายได้เหมือนกับฝ่ายค้าน 

 

               แต่ก็มีการส่งข้อมูลบางส่วนให้นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ หากรัฐมนตรีคนใดมีหลักฐานปรากฏชัดว่ามีการทุจริต

 

30พรรคเล็กค้าน‘ไพบูลย์’นั่งปาร์ตี้ลิสต์

 

               ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายก้องภพ วังสุนทร หัวหน้าพรรคผึ้งหลวง ในฐานะรองประธานกลุ่มพรรคสหมิตร ซึ่งประกอบไปด้วย 30 พรรคการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อคัดค้านการประกาศรับรองนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังมีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา เนื่องจากนายไพบูลย์ไม่มีสถานะเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนปฏิรูป เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 56 (2) และตามประกาศผลการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต. เมื่อวันที่ 28 มกราคม 

 

               ประกอบกับเห็นว่าการคำนวณของกกต.เมื่อวันที่ 28 มกราคม น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (5) ซึ่งบัญญัติไว้ว่าให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามลำดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้น เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แสดงว่าในวันที่กกต.คำนวณใหม่ นายไพบูลย์ไม่ได้เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาชนปฏิรูปแล้ว เนื่องจากพรรคสิ้นสภาพ และนายไพบูลย์ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ซึ่งคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องสังกัดพรรค 

 

               การคำนวณใหม่นายไพบูลย์ต้องไม่ได้รับการจัดสรรเป็น ส.ส. จึงอยากให้ กกต.ส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการคำนวณคะแนนใหม่ของ กกต.เมื่อวันที่ 28 มกราคม ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ การคำนวณของกกต.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ถูกต้องทุกอย่าง แต่ครั้งนี้ กกต.ละเว้นรัฐธรรมนูญมาตรา 91(5) อยากให้กกต.ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป เพื่อเป็นบรรทัดฐาน

 

               ด้านนายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า เป็นสิทธิของผู้ร้องที่สามารถร้องได้ แต่คิดว่าเป็นการร้องตามความเข้าใจผิด ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมั่นใจว่าจะไม่มีผลใดๆ ตามมาอย่างแน่นอน เพราะตนได้ตรวจสอบข้อกฎหมายมาอย่างดีแล้ว เชื่อว่าไม่มีผลอะไร

 

“เสรีพิศุทธ์”ชี้คนจ้องปลดหวังเก้าอี้รมต.

 

               วันเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวความขัดแย้งภายในคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 มกราคม ระหว่างที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้ไปทะเลาะด้วย บรรยากาศการประชุมเป็นไปได้ด้วยดี 

 

               มีติดขัดบ้างหลังมอบหมายงานให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับงาน ซึ่งเห็นว่าเป็นเช่นนี้ก็ไม่สามารถร่วมทำงานได้ และกรรมาธิการไม่ว่าหญิงหรือชายก็ควรมีความเท่าเทียมกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดคำถามต่อการทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรแล้วหรือไม่

 

               “มองว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาร่วมประชุมกับกรรมาธิการเอง เพราะว่าในกรรมาธิการมีคนประหลาดๆ จึงทำให้เกิดเรื่องมากมาย ทำให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสนใจ และเชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลมีความพยายามที่จะปลดผมออกจากตำแหน่งประธาน แต่เมื่อใช้เสียงในที่ประชุม กมธ.ไม่ได้ ก็จะไปใช้เสียงข้างมากในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเอาใจและหวังว่าคราวหน้าจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งไม่เคยมีใครเสนอปลดประธานในสมัยประชุมเดียวกันถึง 2 ครั้ง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

 

“คุณหญิงพรทิพย์”นั่งกมธ.สิทธิเสรีภาพ

 

               เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศวุฒิสภา เรื่อง ตั้งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการสามัญประจําวุฒิสภา แทนตําแหน่งที่ว่าง จำนวน 3 ราย โดย คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็น กมธ.สิทธิมนุษยชน ลงนามโดย ศ.พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ด้วยในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 3 สมัยสามัญประจําปีครั้งที่สอง วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา 

 

               โดยที่ประชุมได้มีมติตั้งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการสามัญประจําวุฒิสภา แทนตําแหน่งที่ว่างจํานวน 3 คณะ ตามนัยแห่งข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 ข้อ 103 ดังต่อไปนี้ 1.คณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้แก่ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ 2.คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ได้แก่ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ 3.คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แก่ คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์