สภาฯ จี้ บิ๊กตู่ ลุยเต็มตัว กันไวรัสอู่ฮั่นระบาดเพิ่มในไทย

         เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2563 - ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาญัตติด่วน เพื่อเสนอแนะปัญหาไปยังรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (ไวรัสอู่ฮั่น) อย่างมีประสิทธิภาพ และตั้งกรรมาธิการ​(กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขการแพร่ระบาดของไวรัสระยะยาว ซึ่งมีส.ส.เสนอญัตติดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา ทั้งนี้ส.ส.ที่อภิปรายสนับสนุนให้สภาฯ รวบรวมความเห็นเพื่อส่งไปยังรัฐบาล เพื่อนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติและมาตรการดูแลประชาชนระหว่างที่ไวรัสอู่ฮั่นระบาด ขณะที่การตั้งกมธ.วิสามัญฯ นั้นมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างสนับสนุนและคัดค้าน 

          สำหรับการอภิปรายของ ส.ส.ที่น่าสนใจ อาทิ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงบทบาทนำในการแก้ไขปัญหาเหมือนกับอดีตนายกฯ​ที่มีความตื่นตัวและแก้ไขสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ในอดีต เช่น ไข้หวัดนก ซึ่งทำให้การแก้ไขทำได้อย่างทันท่วงที  ขณะที่การตรวจสอบและคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น ต้องการให้รัฐบาลไทยควบคุมการเดินทางเพื่อเป็นมาตรการดูแลคนไทยในประเทศมากกว่าคำนึงถึงรายได้ทางการท่องเที่ยว

          ทางด้าน น.ส.ธีรารัตน์ สำเร็จวานิช ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสนอข้อมูลให้รัฐบาลเร่งหามาตรการต่อกรณีที่จะมีนักศึกษาสัญชาติจีนที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาในประเทศไทย เช่น มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่พบว่ามีจำนวนนักศึกษาชาวจีนกว่า 3,000 คนและเตรียมเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อศึกษาในภาคเรียนต่อไป ทั้งนี้กลุ่มนักศึกษาชาวจีนดังกล่าว ถือวีซ่านักศึกษาจึงสามารถเข้าประเทศได้ ซึ่งต่างจากชาวจีนที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันการดำเนินมาตรการป้องกันกลุ่มเสี่ยงจากนักท่องเที่ยวชาวจีนรัฐบาลต้องทำให้ทันท่วงที

          ขณะเดียวกันยังมีข้อเสนอแนะจากพรรคร่วมรัฐบาล ให้หามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลง อาทิ ให้ธนาคารผ่อนปรนระยะเวลาการชำระคืนดอกเบี้ย เป็นต้น รวมถึงขอให้ท้องถิ่นสามารถจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดหรือรับเชื้อไวรัส เช่นหน้ากากอนามัย เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปอย่างทั่วถึง รวมถึงให้งดเว้นการใช้ระเบียบบังคับการจัดซื้อจัดจ้างจากกรมบัญชีกลาง นอกจากนั้นต้องสั่้งการไปยังสถาบันการศึกษาทุกระดับ ให้สังเกตนักเรียนในสังกัดเป็นกลุ่มเสี่ยง มีอาการไม่สบายหรือไม่เพื่อให้การดูแลและการเฝ้าระวังเป็นไปอย่างทั่วถึง 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการอภิปรายเสนอแนะความเห็นเป็นไปอย่างกว้างขวาง และเมื่อเวลา 21.40 น. ที่ประชุมได้มีข้อสรุปว่าจะส่งความเห็นของส.ส.ที่ได้อภิปรายไปยังรัฐบาลรับไปดำเนินการ ขณะเดียวกันในญัตติที่ให้ตั้งกมธ.วิสามัญนั้น ผลของการหารือระหว่างคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และวิปรัฐบาล สรุปว่าจะส่งเรื่องให้กมธ.การสาธารณสุข รับไปดำเนินการ อย่างไรก็ตามการพิจารณาญัตติด่วนดังกล่าวไม่มีการลงมติ เนื่องจากไม่มีส.ส.เห็นคัดค้าน จากนั้นสภาฯ ได้ปิดประชุม.