ข่าว

พ.ต.อ.ฟ้อง ผบ.ตร.ย้ายไม่เป็นธรรม ยันนายฟังข้อมูลบิดเบือน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ก.ตร.เตรียมนำเรื่องร้องทุกข์ของอดีตรองผู้บังคับการเพชรบุรี ที่ยื่นฟ้อง ผบ.ตร. โยกย้ายไม่เป็นธรรม เข้าสู่วาระพิจารณาพรุ่งนี้  เจ้าตัว ลั่นไม่ได้ทำผิด

             วันที่ 28 ม.ค. รายการเก็บตกเนชั่น(ภาคเย็น) ดำเนินรายการโดยนายประชาไท ธนณรงค์ และนายพัชระ สารพิมพา ได้มีการเชิญ พ.ต.อ. ดร. ไพรัตน์  ไพพรรณรัตน์  ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้อง พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา  ผบ.ตร. เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ว่ากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157  ขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มาออกรายการ เนื่องจากมีรายงานข่าวว่าในวันพรุ่งนี้ ( 29 ม.ค.)  จะมีการประชุมคณะกรรรมการข้าราชการตำรวจ ( ก.ตร. )ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นั่งเป็นประธานในที่ประชุม   โดยมีวาระพิจารณาเกี่ยวกับที่ พ.ต.อ. ไพรัตน์  ร้องทุกข์อยู่ด้วย กรณีที่ พ.ต.อ. ไพรัตน์ ซึ่งเป็นรองผู้บังคับการ  ภ. จว. เพชรบุรี ตำรวจภูธรภาค7 ถูกย้ายไปเป็น รอง ผบก. อก. ตำรวจภูธภาค 9  ซึ่งเป็นการโยกย้ายข้ามภาค ทำให้ พ.ต.อ. ไพรัตน์ ยื่นฟ้อง พล.ต.อ. จักรทิพย์  ว่าปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157  ซึ่งศาลฯได้รับฟ้อง และมีหนังสือถึง สตช. ขอหลักฐานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ ผกก. และ รองผบก. ของ สตช. ว่าอย่างไร  เพื่อศาลจะได้พิจารณาไต่สวนคดี

             พ.ต.อ.ฟ้อง ผบ.ตร.ย้ายไม่เป็นธรรม ยันนายฟังข้อมูลบิดเบือน

         พ.ต.อ. ไพรัตน์  กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบจากทางรายการนี้ว่า ในการประชุม กตร. วันพรุ่งนี้ จะมีเรื่องของตนเข้าสู่วาระการประชุมด้วย ซึ่งตนร้องทุกข์ว่าทรงผมของตนไม่ได้ผิดระเบียบปฏิบัติ ร้องทุกข์ไปตั้งแต่ 16 พ.ค. ปี 61  เกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการหยิบขึ้นมาพิจารณา ส่วนเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาเอาหลักฐากจากการรายงานของผู้ตรวจซึ่งมียศเป็นสิบตำรวจโทว่าตนไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ก็มีการย้ายตน ซึ่งตนก็ปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ส่วนเรื่องของตนที่ร้องทุกข์ไปใช้เวลานานนั้น เขาก็มีสิทธิขยายไปเรื่อยๆ ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะตนไม่ได้ทำผิดระเบียบและไม่ได้ถูกดำเนินการทางวินัย ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจในอำนาจของผู้บังคับบัญชา แต่การจะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องดูข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกกระทำ ทำผิดกฎหมายหรือระเบียบหรือไม่ ไม่ใช่มีอำนาจตามกฎหมายแล้วเอาใครก็ได้ไปตรงนั้นตรงนี้

           อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน ศาลคดีทุจริตฯสั่ง สตช.แจง แต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม

      พิธีกรถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เมื่อศาลรับเรื่องที่ พ.ต.อ.ไพรัตน์ ยื่นฟ้อง และมีหนังสือให้ สตช. ส่งหลักฐานให้ จึงทำให้ กตร. หยิบเรื่องที่ พ.ต.อ. ไพรัตน์ ร้องทุกข์  เข้าสู่วาระพิจารณา พ.ต.อ. ไพรัตน์ กล่าวว่า  ถ้ามีการนำเรื่องที่ตนร้องทุกข์เข้าสู่วาระพิจารณาของ กตร. ก็เป็นเรื่องที่ดี พยานหลักฐานตนก็ส่งให้ไปหมดแล้ว กระบวนการกล่าวหา ร้องเรียนเป็นเรื่องปกติ แต่กระบวนการตรวจสอบต้องมีความตรงไปตรงมาชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้กับพี่น้องตำรวจทั่วประเทศ คือ ถ้าผลการตรวจสอบออกมาว่าผิด ตนก็ยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดก็อย่าปรักปรำใส่ร้ายตน

  พิธีกรถามเรื่องกรณีที่ถูกร้องเรียนไปเกี่ยวข้องกับการเรี่ยไร  พ.ต.อ. ไพรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ตชด. มาขอให้สร้างป้อมจุดตรวจให้ที่ป่าละอู เขาบอกว่ามีความจำเป็นที่ต้องใช้ป้อมจุดตรวจนี้ทำหน้าที่ ขอมาหลายปีไม่มีใครมาช่วย และเป็นป้อมอยู่นอกงบประมาณ ตนก็เลยสร้างให้ในนาม “ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ” โดยผู้บังคับบัญชาได้รับรู้การตั้งชมรมฯนี้มาตั้งแต่ต้น ตั้งชมรมมาตั้งแต่ปี 2550 ตนไม่เคยไปเรี่ยไร หรือรับบริจาคจากใคร เราขายฝีมือของเรา ผลงานลิขสิทธิ์เพลง  จัดคอนเสิร์ต ต่อมา ชาวบ้านมาขอให้ตนช่วยสร้างห้องน้ำให้  ตนก็สร้างให้ ต่อมา ตชด.ขาคแคลนเรือตะเวนแม่น้ำโกลก ก็มาขอให้ตนช่วย ตนก็ซื้อเรือยางให้ราคา 3 แสนบาท

     เมื่อถามว่าที่ไปยื่นฟ้อง ผบ.ตร. คาดหวังอะไร  พ.ต.อ. ไพรัตน์ กล่าวว่า ตนไม่เคยน้อยใจ ไม่เคย โกรธเคืองผู้บังคับบัญชาโยกย้าย ตนรับได้หมด แต่ผู้บังคับบัญชาไปฟังข้อมูลที่ถูกบิดเบือน ที่ตนกล้าพูดว่าถูกบิดเบือนเพราะตนได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับผู้บิดเบือนข้อเท็จจริงไปเสนอผู้บังคับบัญชาที่เพชรบุรี สิ่งที่ตนคาดหวังคือคาดหวังให้ความจริงปรากฏ ตนมีหน้าที่นำความจริงให้ปรากฏต่อผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ปรากฏต่อสาธารณชน ไม่ได้อาฆาตแค้นกับใคร ไม่ได้ผูกใจเจ็บกับใคร  ผมอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ แต่ต้องเป็นการย้ายโดยสุจริต ย้ายให้เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ตนพร้อมอยู่แล้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ