ข่าว

กนกวรรณ จ่องานเข้า ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบรุกป่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กนกวรรณ จ่องานเข้า ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบรุกป่า ผิดจริงเจอโทษหนักถึงจำคุก ซัดฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 

               ศรีสุวรรณ ขยับร้อง ป.ป.ช. จี้สอบ กนกวรรณ รมช.ศึกษาฯ ปมรุกป่าเขาใหญ่ 27 ม.ค. ชี้หากผิดจริงเจอโทษหนักถึงจำคุก ซัดฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 

อ่านข่าว ศรีสุวรรณ จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบ รมช.ศึกษา รุกป่าเขาใหญ่

 

               ปมร้อนกรณี นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จากพรรคภูมิใจไทยถูกกล่าวหารุกป่าเขาใหญ่ใน จ.ปราจีนบุรี กำลังเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจับตามองอย่างใกล้ชิด

 

               ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลเป็นอย่างมาก เพราะการปราบปรามผู้มีอิทธิพลรุกป่าสงวนถือเป็นนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

               ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มกราคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. สนธิกำลังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าตรวจสอบที่ดินของนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตส.ส.ปราจีนบุรี และที่ดินของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

 

               หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการนำรถแบ็กโฮ 3 คัน เข้าไปขุดปรับพื้นที่บนเนินเขาและใช้รถดันต้นไม้ล้มเป็นบริเวณกว้างและนำมากองรวมกันและจุดไฟเผา

 

               นายศรีสุวรณ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีการออกโฉนดทับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 6 จุด รวม 11 ไร่เศษ ครอบคลุมด่านเนินหอมไปจนถึงอ่างเก็บน้ำคลองไม้ปล้อง หมู่ 14 ต.เนินหอม จ.ปราจีนบุรี เป็นบริเวณกว้าง

 

               ซึ่งต่อมาผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อแจ้งความกล่าวหาว่าบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองและทำให้เสื่อมสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม ทำประการใดๆให้เสื่อมสภาพซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ เข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ

 

               นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง นางกนกวรรณ ซึ่งดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นถึง รมช.ศึกษาธิการ และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ย่อมรู้หรือควรจะรู้ได้ว่าการบุกรุก เข้ายึดถือครอบครองป่า และทำให้เสื่อมสภาพอุทยาน ฯลฯ

 

               เป็นการฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 โดยตรง และเป็นการกระทำที่ส่อไปในทางที่ผิดกฎหมายหลายฉบับและมีโทษหนักโดยเฉพาะพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 และฉบับ 2562 ม.19(1) ประกอบ ม.41 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

               นอกจากนั้นการกระทำดังกล่าวยังส่อเป็นการขัดหรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม 2561 อย่างร้ายแรงในข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 9 ที่ระบุว่าต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองหรือผู้อื่นและหรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่

 

               ซึ่งหากป.ป.ช.วินิจฉัยว่ามีความผิด ก็อาจนำไปสู่การสิ้นสุดลงของตำแหน่ง รมช.และส.ส. ตามมาตรา 101(7) ประกอบ ม.160 ม.185 และ ม.186 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ได้

 

               “ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมจึงจะนำความไปร้องเรียนต่อป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด ตามครรลองของกฎหมายต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี” นายศรีสุวรรณ กล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ