ดีเอสไอ จ่อสรุปสำนวนบุกรุกป่าเขาใหญ่ 251 ไร่

           

               กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) - 22 ม.ค.2563 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จำนวน 22 แปลงว่า เมื่อ พ.ศ. 2554 มีประชาชนยื่นเรื่องต่อดีเอสไอขอให้ตรวจสอบกรณีนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดปราจีนบุรี มีพฤติการณ์ยึดถือครอบครองที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

                 โดยออกเอกสารสิทธิครอบคลุมพื้นที่ป่าโดยมิชอบ ในเขตพื้นที่ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จำนวน 22 แปลง เนื้อที่ประมาณ 251 ไร่ ซึ่งต่อมาดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษที่ 149/2555 และจากการสอบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องอยู่ในข่ายเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญาในการออกเอกสารสิทธิดังกล่าว

 

 

              จึงส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ดีเอสไอก็ได้สืบสวนขยายผลกรณีเอกชนบุกรุกที่ดินของรัฐ และรับเป็นคดีพิเศษที่ 136/2558 โดยได้รวบรวมพยานหลักฐานและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
 

 

             อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวคืนมา ดีเอสไอจึงรับเรื่องไว้สอบสวนใหม่เป็นคดีพิเศษที่ 2/2562 และทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องในความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2548 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 12 คน ซึ่งคดีอยู่ระหว่างสรุปสำนวนการสอบสวน

 

 

            ทั้งนี้ จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ขอชี้แจงว่าพื้นที่ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เข้าตรวจสอบการแผ้วถางป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 3 แปลง ซึ่งพบว่าเป็นของนักการเมืองคนสำคัญของจังหวัดปราจีนบุรีนั้น เป็นคนละพื้นที่กับคดีที่ดีเอสไอดำเนินคดี ซึ่งในส่วนที่ดีเอสไอรับผิดชอบ มีการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องครอบคลุมทั้งส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชน จึงเป็นการปฏิบัติงานที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย