ข่าว

ส.ส.ภท.ฉาว เสียบบัตรแทนกัน ร่าง พ.ร.บ.งบ 63 ส่อโมฆะ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สภาวุ่น ร่าง พ.ร.บ.งบ63 ส่อโมฆะ "ชวน" สั่งสอบด่วน ส.ส.ภูมิใจไทยฉาว เสียบบัตรแทนกัน ชี้โทษหนัก จำคุกสูงสุดถึง 10 ปี

 

               รองหัวหน้าพรรคปชป.ยัน ส.ส.พัทลุง ภูมิใจไทย เสียบบัตรแทนกัน อาจเป็นเหตุให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 โมฆะ แฉเบอร์ใหญ่ของพรรคก็เอาด้วย ด้าน “ฉลอง” รับไม่ได้อยู่ในห้องประชุม แต่เสียบค้างไว้ ยันไม่ได้ฝากใครกดคะแนน ขอหารือผู้ใหญ่ในพรรคก่อน ขณะที่ “ชวน” สั่งสอบด่วน

 

               กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง หลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วาระที่ 2 และ 3 ของสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 10-11 มกราคม ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ ส.ส.กดบัตรแทนกัน อาจส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่อยู่ในขั้นตอนของสมาชิกวุฒิสภาขณะนี้เกิดปัญหาขึ้นได้

 

               วันที่ 20 มกราคม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 พบความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น โดยนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ขึ้นเครื่องบินเดินทางไปสนามบินหาดใหญ่เวลา 20.50 น.ของวันที่ 10 มกราคม

 

               แต่ปรากฏว่าลงมติเห็นชอบ มาตรา 31 ในเวลา 20.55 น.ของวันเดียวกัน และร่วมลงมติตลอดจนถึงมาตรา 39 และปิดประชุมในเวลา 01.08 น. ก่อนจะร่วมลงมติต่อเนื่องในวันที่ 11 มกราคม ตั้งแต่มาตรา 40 เวลา 11.10 น. ไปจนถึงลงมติวาระที่ 3 เห็นชอบร่างทั้งฉบับเวลา 17.32 น. และเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ เวลา 17.38 น.

 

               ขณะที่มีหลักฐานปรากฏในเฟซบุ๊กของ ทต.อ่างทอง จ.พัทลุง ว่า วันที่ 11 มกราคม นายฉลองลงพื้นที่เป็นประธานเปิดงานวันเด็กทั้งวัน ทั้งเทศบาลตำบลอ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ และองค์การบริหารส่วนตำบลชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และขึ้นเครื่องจากสนามบินนครศรีธรรมราช มาสนามบินดอนเมืองอีกครั้งในวันที่ 13 มกราคม เวลา 11.55 น.

 

               “เป็นไปไม่ได้ที่จะอ้างว่าเสียบบัตรคาไว้ แล้วมีคนไปกดแทน เนื่องจากไม่สามารถเก็บบัตรไว้ข้ามคืนได้ เพราะเจ้าหน้าที่จะนำบัตรออกจากเครื่องลงคะแนน เพื่อรีเซตระบบใหม่ และเตรียมใช้ในวันถัดไป

 

               เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงหมายความว่ามีเจตนาจงใจใช้บัตรแทนกัน นำบัตรของนายฉลองไปกดลงมติ ทั้งที่ไม่อยู่ในห้องประชุม แต่ไม่รู้ว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

 

               รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ตั้งแต่มาตรา 31 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยนายอดิศร ทองธิราช ส.ส.พรรคเพื่อไทย กดบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ปี 2557

 

               โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและถือว่ามติของสภาผู้แทนราษฎรเป็นโมฆะ มีผลทำให้กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

               “ผมไม่ได้จงใจนำเรื่องนี้ให้ฝ่ายค้านขยายผล และยอมรับว่ากำลังหาทางคิดว่าจะแก้อย่างไรให้ร่างกฎหมายไม่มีปัญหา เพราะพรรคประชาธิปัตย์ที่ผมอยู่ก็สังกัดรัฐบาลด้วย แต่คิดไม่ออก เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไว้ชัดเจน

 

               นอกเสียจากว่าประเด็นข้อเท็จจริงจะต่างไปจากกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งอาจมีวิธีแก้ไข แต่พรรคภูมิใจไทยต้องให้ความร่วมมือ จึงจะหาทางออกได้ พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรีบทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย” นายนิพิฏฐ์ระบุ

 

               ส่วนจะยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่นั้น นายนิพิฏฐ์ บอกว่า เป็นเรื่องของ ส.ส.ว่าจะเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งกรณีที่ตนตรวจสอบเป็นกรณีที่เห็นชัดเพียงคนเดียว แต่พบได้ว่าอาจมีกรณี ส.ส.คนอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน แต่ไม่ขอเปิดเผย และฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีร้องเรียนการซื้อเสียงในพื้นที่ จ.พัทลุง ทั้งที่ยื่นต่อ กกต.เป็นเรื่องแรก แต่กลับไม่มีความคืบหน้า

 

               อย่างไรก็ตาม ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ลงมาพบกับนายนิพิฏฐ์ พร้อมกล่าวชื่นชมว่า นายนิพิฏฐ์กัดไม่ปล่อย และยอมรับว่า นายฉลองอาจไม่รอบคอบ

 

               สำหรับนายฉลอง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ได้ลงสมัครส.ส. เขต 2 จ.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย และชนะเลือกตั้งโดยได้ 45,231 คะแนน ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 20,091 คะแนน

 

               นายศุภชัย ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ความผิด เพราะในข้อเท็จจริง ส.ส.ในสภาได้ทิ้งบัตรไว้ภายในห้อง หรือเสียบบัตรคาไว้ในช่องเสียบบัตร ส่วนที่ระบุว่าต้องล้างระบบเครื่องออกเสียงลงคะแนน และต้องนำบัตรที่เสียบคาไว้ออกทุกวันนั้น

 

               ในความเป็นจริง การประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่ใช้เวลานานและดึก ไม่มีใครที่ล้างระบบ ซึ่งบัตรของตนก็ยังเสียบคาไว้เช่นกัน ขณะที่การลงพื้นที่และร่วมงานวันเด็กนั้นก็ไปร่วมเป็นปกติ  เชื่อว่าไม่ใช่กรณีที่สร้างปัญหาต่อร่างกฎหมายที่สภาผ่านการพิจารณา

 

               “หากคุณนิพิฏฐ์จะตรวจสอบต้องตรวจสอบพรรคของตนเองด้วย เพราะเชื่อว่ามีคนที่เสียบบัตรคาไว้ แต่จะกดบัตรแสดงตนแทนกันหรือไม่ต้องตรวจสอบ ส่วนกรณีที่นายฉลองโดนตรวจสอบ ผมยังบอกเลยว่าน่ากลัวเพราะมีคู่ปรับเป็นคุณนิพิฏฐ์” นายศุภชัย กล่าว

 

               ด้านนายฉลอง ยอมรับว่า ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร บางช่วงของการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ  2563 ระหว่างวันที่ 10-11 มกราคม จริง เนื่องจากญาติเสียชีวิต 5 ศพที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต้องประสานนำศพกลับบ้าน จึงต้องไปจัดการเรื่องศพ  

 

               และในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม ได้เดินทางไปร่วมงานวันเด็กที่ ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง ว่าไม่ได้เอาบัตรลงคะแนนกลับมาจากสภาผู้แทนราษฎร โดยปกติจะวางไว้หรือเสียบค้างไว้ในห้องประชุม และตอนเย็นจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บ หลายครั้งที่ตนได้ไปเอาบัตรคืนจากหน้าที่ ส่วนใครจะเสียบบัตรแทนหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ฝากใคร หรือให้ใครเสียบบัตรกดลงคะแนนแทน

 

               “ผมพร้อมรับการตรวจสอบจากเรื่องดังกล่าว  เพราะข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้น และยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตามจะปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้งก่อน” นายฉลองระบุ

 

               ขณะที่นายนิพิฏฐ์ กล่าวในรายการเก็บตกจากเนชั่น (ภาคเย็น) ว่า ปกติเมื่อเสร็จสิ้นการประชุมสภาเจ้าหน้าที่จะนำบัตรส.ส.ที่เสียบค้างไว้ออกมาเพื่อเซตระบบสำหรับการลงคะแนนในวันใหม่ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้แยกออกเป็น 2 กรณี คือเรื่องที่เกี่ยวกับนายฉลองถือว่าความผิดสำเร็จ โดยเจ้าตัวออกมายอมรับว่ามีคนไปกดบัตรแทน

 

               ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องรับผิดชอบไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. หากมีใครนำเรื่องนี้ไปฟ้องร้อง ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ส.ว.ก็เช่นกัน หากมีใครไปร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่

 

               “ทางออกในเรื่องนี่้ ส.ว.ต้องส่งร่าง พ.ร.บ.ที่มีปัญหานี้กลับมายังสภาล่าง ให้ ส.ส.พิจารณากันใหม่โดยลบคะแนนเดิมที่คุณฉลองลงในมาตราที่มีปัญหาแล้วจัดให้มีการลงคะแนนใหม่ หรือให้ ส.ว.คว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณในวาระ 3 รุ่งขึ้นรัฐบาลก็ออกเป็นพระราชกำหนดบังคับใช้ต่อไป” นายนิพิฏฐ์เสนอ

 

               รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า เรื่องการเสียบบัตรกดคะแนนแทนนั้น เท่าที่ทราบมี ส.ส.เบอร์ใหญ่กว่านี้ด้วย

 

               นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่วิปรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเข้าประชุม และถ้าจะลงมติต้องลงมติในชื่อของตัวเอง

 

               “ที่ประชุมวิปวันนี้(20 ม.ค.) กำชับให้ทุกพรรคกวดขัน ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุม ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เป็นโมฆะหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับสภาจะสอบสวนและตรวจสอบ เพราะวันนี้ยังไม่มีใครทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นว่าอย่างไร” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว

 

               ส่วนนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกไปพบและสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียบบัตรแทนกันตามที่นายนิพิฏฐ์ออกมาเปิดเผย

 

               ซึ่งในเช้าพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) จะเรียกประชุมคณะกรรมการเสนอความเห็นด้านข้อกฎหมายมาประชุมกันเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นว่า มีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันหรือไม่ ต้องดูให้ละเอียดรอบคอบ ยังไม่ทราบว่า จะสรุปข้อเท็จจริงได้ในวันที่ 21 มกราคม หรือไม่ แต่จะพยายามทำให้เร็วที่สุด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ