ระทึก วันนี้คดี อนค.ล้มล้างการปกครอง เปิด 3 แนวทางวินิจฉัย

           วันนี้(21 ม.ค.)เวลา 11.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดวินิจฉัยกรณีนาย ณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค  และคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

         ซึ่งได้มีการคาดเดาแนวทางการวินิจฉัย ไว้ 3 แนวทาง ดังนี้

         แนวทางแรก มีความผิดถูกตัดสินให้ยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี                     แนวทางที่ 2 มีความผิดแต่ไม่รุนแรงถึงขั้นให้ยุบพรรค แต่ต้องยุติการกระทำที่เป็นความผิด โดยแก้ไขข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่ และแนวทางที่ 3 ยกคำร้อง เพราะหลักฐานไม่มีมูลเพียงพอ ไม่ถูกยุบพรรคและไม่ต้องแก้ไขข้อบังคับพรรค

         หัวใจสำคัญในคำร้องขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ส่วนหนึ่งมาจากข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่ ที่ใช้คำว่า “หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ” โดยหลีกเลี่ยง จงใจ ไม่ใช้คำว่า "การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"  ซึ่งนำไปร้อยรัดกับข้อเสนอให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยไม่ยกเว้นหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์  

       - การเรียกร้องให้ไทยลงนามสัตยาบันฯว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) หรือสัตยาบันกรุงโรม ซึ่งประมุขของรัฐก็ไม่ได้รับการยกเว้นจากความรับผิดทางอาญา

      - การอภิปรายในงานเสวนาวิชาการและงานเขียนหนังสือของ "ปิยบุตร" ในหัวข้อเกี่ยวกับ"การเมือง ความยุติธรรม และสถาบันพระมหากษัตริย์" ตลอดจนการร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มนิติราษฎร์

  - การเข้าไปเป็นนายทุนเว็บไซต์และหนังสือ ฟ้าเดียวกัน ตลอดจนบทสัมภาษณ์ และการแสดงความเห็นต่างๆของ "ธนาธร"  ซึ่งการกระทำดังกล่าวแสดงถึงเจตจำนงและเจตนา ที่สอดรับกับพฤติการณ์ที่ได้แสดงออกมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีข้อบังคับพรรคเป็นเครื่องชี้เจตนา 

    ในแนวทางแรก หากเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ก็จะไปเข้าองค์ประกอบความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (2)  กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีความผิดถึงขั้นยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค มีกำหนดเวลา 10 ปี

    แนวทางที่ 2 มีความผิด หรือข้อบังคับพรรคไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ความผิดไม่ถึงขั้นยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกับกรรมการบริหารพรรค แต่สั่งให้ยุติการกระทำ หรือต้องแก้ไขข้อบังคับพรรค

    แนวทางที่ 3 ยกคำร้องเพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่และกรรมการบริหารพรรคเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ไม่ถูกยุบพรรคและไม่สั่งให้หยุดการกระทำ