ข่าว

สมศักดิ์ จ่อแก้ระเบียบรางวัลนำจับยาเสพติด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมศักดิ์"เผยกลางสภาฯ จ่อแก้ระเบียบรางวัลนำจับยาเสพติด เชื่ออาจจับแล้วแจ้งปริมาณเกินจริง ตาม "ฝ่ายค้าน"อภิปรายท้วงงานปราบยาเสพติด พบนำยาฯ เวียนเทียนขายอีกครั้ง-

 

 

 

              รัฐสภา-11 ม.ค.2563-"สมศักดิ์"เผยกลางสภาฯ จ่อแก้ระเบียบรางวัลนำจับยาเสพติด เชื่ออาจจับแล้วแจ้งปริมาณเกินจริง ตาม "ฝ่ายค้าน"อภิปรายท้วงงานปราบยาเสพติด พบนำยาฯ เวียนเทียนขายอีกครั้ง-เผายาปลอม ฝาก "3ป."เร่งรัด-ติดตามงานปราบยาเสพติด

 

            การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสอง ต่อเนื่องเป็นวันที่4  เมื่อเวลา 14.00 น. ได้เข้าสู่มาตรา 43 งบบูรณาการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด โดยกมธ.ฯ ปรับลดงบประมาณ จากที่เสนอขอ 5,319 ล้านบาท ให้เหลือเพียง 5,299 ล้านบาท  ทั้งนี้ไม่มีกมธ.ฯ สงวนความเห็นแต่มีส.ส.ขออภิปราย 

 

 

 สมศักดิ์ จ่อแก้ระเบียบรางวัลนำจับยาเสพติด

 

 

                   โดยนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. สุรินทร์​ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าคนแปลกใจที่ทราบข่าวว่ามียาเสพติดระบาดเพิ่มขึ้นทุกปีและทุกจังหวัด และพบการรายงานของตำรวจถึงการจับกุมเพิ่มขึ้นทุกปี แทนที่จะลดลง ซึ่งจากการสอบถามตำรวจ ทราบว่าเจ้านายให้รายงานว่าเข้าเป้า เพื่อให้ได้รับงบประมาณเพิ่ม ดังนั้นตนอยากฝากงบประมาณที่ใช้จ่ายในแผนบูรณาการต้องเน้นการป้องกันและปราบปราม และฝากไปยัง พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการ ทั้งนี้ตนทราบว่าการจับกุมพ่อค้ารายใหญ่ ได้ยาบ้ามีกระบวนการเวียนเทียน เมื่อจับกุมและเก็บของกลาง จะนำมาเวียนเทียนขาย ส่วนที่มีข่าวว่ามีการทำลาย เพื่อนของตนเล่าให้ฟังว่าเป็นการทำลายยาบ้าพลาสติก และยาบ้าที่แท้จริงเข้าสู่กระบวนการเวียนเทียน

 

 

                   ขณะที่นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ อภิปรายว่าการแก้ปัญหายาเสพติดไม่ทราบว่าใครเป็นประธานแก้ไข ระหว่าง กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยหรือกระทรวงยุติธรรม ทั้งที่ยาเสพติดถือเป็นภัยมั่นคงของประเทศ ที่ผ่านมา แม้พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจตามมาตรา 44 ไม่สามารถแก้ไขการระบาดของยาเสพติดได้ ตนขอฝากไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ ให้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยเอ็กซ์เรย์ทุกพื้นที่ที่ม่ีข้อมูลยาเสพติดระบาด นอกจากนนี้ให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแสดงจุดยืนการแก้ปัญหายาเสพติด ให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาได้ยินเสียงร่ำลือจากประชาชน ว่า ผู้ต้องหาในเรือนจำทั่วประเทศ 70 เปอร์เซ็นต์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เริ่มต้นเป็นผู้เสพ ออกมากลายเป็นผู้ค้า ตนไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้ผล แม้จะมีงบบูรณาการ

 

 

                   จากนั้นนายสมศักดิ์ อภิปรายว่า การระบาดยาเสพติดในประเทศไทยไม่มีมากกว่าเดิม แต่ที่ระบุว่ามียาเสพติดเพิ่มมากขึ้น เป็นเพียงการอุปทาน จากข้อมูลการผลิตยาเสพติด ที่ได้จากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย มีมูลค่าการผลิต 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และขนส่งไปทั่วโลก และมีเส้นทางผ่านประเทศไทย รวมถึง 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ทั้งนี้งบบูรณาการด้านยาเสพติดที่ได้รับ 5,299 ล้านบาท ถือว่าเป็นงบประมาณเพียงเล็กน้อย หากเทียบกับปริมาณยาเสพติดที่ทะลักเข้าไทย ที่มีมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านบาท  ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ฐานะเลขานุการคณะทำงานเกี่ยวกับแผนบูรณาการดังกล่าาว ยืนยันจะไม่ประมาท  จะใช้เงินอย่างประหยัด และให้เกิดประโยชน์ 

 

 

                   นายสมศักดิ์ อภิปรายด้วยว่า ส่วนที่ส.ส.อภิปรายถึงการจับยาบ้าและมีปริมาณที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนั้น อาจเป็นไปได้ เนื่องจากการแจ้งจับยาเสพติดนั้นมีรางวัลนำจับ เช่น เฮโรอีน และยาไอซ์ กิโลกกรัมละ  1 แสนบาท , ยาบ้า เม็ดละ 2 บาท   ซึ่งขณะนี้่มีคณะทำงานแก้ไขระเบียบสำนักนายกฯ เพื่อลดรางวัลนำจับดังกล่าวว โดยจะลดรางวัลนำจับลง 50 เปอร์เซ็นต์  แต่จะเพิ่มเงินรางวัล หากการแจ้งนำจับสามารถนำสืบไปถึงต้นตอ แหล่งผลิต และผู้จำหน่ายรายใหญ่และนำไปสู่กระบวนการยึดทรัพย์ ทั้งนี้ภายใน วันที่ 20มกราคม จะนำร่างแก้ไขระเบียบสำนักนายกฯ​ดังกล่าว ประกาศเพื่อรับฟังความเห็นของประชาชน  จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ เสียงข้งามาก  248 เสียงเห็นชอบ ขณะที่ 1 เสียงไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง 183 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ