ฝ่ายค้าน แจงไม่เจตนายื้ออภิปรายร่างกม.งบฯ63 

 

 

 

         

 

                   รัฐสภา - 11 มกราคม 2563 -เมื่อเวลา 10.50 น. การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสอง ต่อเนื่องเป็นวันที่4 ได้เริ่มขึ้น โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานที่ประชุม ยังอยู่ในหมวดงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และเข้าสู่การพิจารณา มาตรา 40 แผนงานต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งกมธ.ฯ ปรับลด วงเงินไป 42,800 บาท จากเดิมที่เสนอขอ 957,087,900 บาท ลดเป็น 957,045,100  บาท ซึ่งที่ประชุมลงมติเสียงข้างมากตามการแก้ไขของกมธ.ฯ ด้วยเสียง 235 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง งดออกเสียง 128 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง 

 

 

 

 

 

 

 

 

                 ต่อด้วยมาตรา 41 งบรายจ่ายแผนบูรณาการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย กมธ. ปรับลดงบประมาณลงจากเดิมที่เสนอขอ 875 ล้านบาท ลดเป็น 863 ล้านบาท ซึ่งเสียงข้างมากของที่ประชุมเห็นด้วยตามกมธ.ฯ แก้ไข ด้วยเสียง 246 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง งดออกเสียง 163 เสียง และไม่ลงคะแนน 2 เสียง 

 

               จากนั้นเข้าสู่มาตรา 42 งบรายจ่ายบูรณาการแผนงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ กมธ.ฯ​ปรับลดจากที่เสนอขอ 59,431 ล้านบาท ไปเป็น 58,796 ล้านบาท โดยในมาตราดังกล่าว มีส.ส.สงวนคำแปรญัตติให้ปรับลดเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่ามีการจัดสรรงบบริหารจัดการน้ำไปให้กับหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่เชื่อว่างบบูรณาการเรื่องแก้ปัญหาภัยแล้งจะสามารถทำงานร่วมกันได้ เนื่องจากปัญหาด้านน้ำที่เกิดขึ้นประจำทุกพื้นที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทำให้เกิดภัยซ้ำซากทุกปี 

 

 

               ทั้งนี้ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กมธ.เสียงข้างน้อย ชี้แจงต่อการอภิปรายของส.ส.ว่า กมธ.หนักใจ เพราะการจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับการบูรณาการ ไม่ใช่งบที่น่าเชื่อใจได้ แต่คืองบประมาณเพื่อการเสียภาษีของประชาชน อย่างไรก็ตามในการปรับงบประมาณไปสู่ในพื้นที่ต่างๆ กังวลว่าเจ้าของพื้นที่จะเดือดร้อน เพราะมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญกำหนดห้ามแปรญัตติลงพื้นที่ ดังนั้นเมื่อกมธ.ฯกังวล ว่าแม้พื้นที่จะเดือดร้อน แม้เจ้าของพื้นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจถูกมองว่าจัดงบลงพื้นที่ต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของงบบูรณาการนั้น ตนอยากตัด 4-5หมื่นล้านบาท เพราะพบบางรายการที่มีการซื้อของแพงเกินจริง เช่น เครื่องบินทำฝนหลวง เป็นต้น

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายมาตรา 42 งบบูรณาการแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำนั้น ได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางและเน้นการปรับลด  จนหมดผู้อภิปรายแล้ว ที่ประชุมได้ขอให้ลงมติ โดยเสียงข้างมาก เห็นด้วยกับ กมธ.ด้วยเสียง 242 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 184 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง  รวมเวลาที่ใช้อภิปราย 3 มาตราดังกล่าว กว่า 2 ชั่วโมง

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในระหว่างการอภิปรายของส.ส.ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคฝ่ายค้าน อาทิ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่, นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. สุรินทร์​ พรรคเพื่อไทย แจ้งเจตนาของพรรคฝ่ายค้านว่าต้องการให้ผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี 2563 ไม่มีเจตนายื้ดการอภิปรายตามที่โฆษกบางพรรคกล่าวหา เพราะฝ่ายค้านทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ประชาชน