ข่าว

วิ่งไล่ vs เชียร์ (ลุง) สงครามตัวแทน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ออกตัวว่าไม่ได้เป็นตัวแทนจาก ลุง หรือ พ่อ ของชาวฟ้า หากเป็นตัวแทน ความสงบ และตัวแทน ปชช.มากกว่า แต่งานนี้คงต้องถามว่าทำไมความสงบกับ ปชช.ถึงไปอยู่คนละข้างกันได้

        ขนลุกซู่ เมื่อบรรยากาศโลกร้อนระอุจากการเผชิญหน้ากันทางอาวุธของสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ที่นับจากนี้จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “สงครามตัวแทน” (proxy war) โผล่ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ น่ากลัวยิ่ง

         พอหันมาที่บ้านเรา เวลานี้การเมืองไทยเกือบจะสงบ แต่ก็พบรอยขยับเคลื่อนเป็นริ้วๆ ด้วยกิจกรรม 2 รายการ ระหว่าง กิจกรรมวิ่งไล่ลุง กับ เดินเชียร์ลุง ที่กำลังจะเปิดฉาก ระเบิดพลัง ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคมนี้

      จะว่าไป นี่ก็เข้าตำราสงครามตัวแทนอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะถ้า “วิ่งไล่ลุง” หนีไม่พ้นตัวแทนฝ่ายการเมืองฟากตรงข้ามรัฐ “เดินเชียร์ลุง” ก็ย่อมเป็นตัวแทนฝ่ายเดียวกับรัฐบาล เพราะคำว่า “ลุง” อ่านกลับหัวยังไงก็เป็นคำเรียก ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชัดๆ!

      และถ้าจะมองถึงตัวแทนของสองฟากฝ่ายที่เวลานี้ร้อนแรงในหน้าข่าวสาร คงหนีไม่พ้น "อุ๊" หฤทัย ม่วงบุญศรี และ "บอล" ธนวัฒน์ วงค์ไชย

        หากสองมุมมองจากสองตัวแทน ต่างออกตัวว่าตนเองไม่ได้เป็นตัวแทนจาก “ลุง” หรือจาก “พ่อ” ของชาวฟ้า หากเป็นตัวแทนของ “ความสงบ” และตัวแทนของ “ประชาชน” มากกว่า

        ถามทำไมความสงบกับประชาชนถึงไปอยู่คนละข้างกันได้ ความเห็นของคนทั้งคู่จากนี้ อาจทำให้เราได้คำตอบมากพอที่จะเลือกได้ว่าเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้เราอยากแวะสวนรถไฟหรือไปสวนลุมฯ กันแน่

       เดินนี้-เพื่อสงบ

    ออกตัวว่าไม่เกี่ยวข้องกับ “เพจเชียร์ลุง” โต้โผงานเดินเชียร์ลุง แต่เวลานี้ “อุ๊" หฤทัย ม่วงบุญศรี ก็เหมือนเป็นเจ้าภาพงานไปแล้ว เนื่องจากเธอกล้าออกมาแสดงจุดยืนว่าฉันจะไปงานเดินเชียร์ลุง แถมยังปรากฏตัวพร้อมกับแอดมินเพจเชียร์ลุงแบบสนิทสนมกลมเกลียว

                                                                 วิ่งไล่ vs เชียร์ (ลุง) สงครามตัวแทน

                                                        “อุ๊" หฤทัย ม่วงบุญศรี

    “เราก็ชอบแคมเปญนี้เพราะเราก็เห็นว่ามีคนจัดงานวิ่งไล่ ซึ่งตัวอุ๊ไม่เห็นด้วย เพราะลุงตู่มาจากกระบวนการการเลือกตั้ง กระบวนการประชาธิปไตย การไล่ลุงนี่มันเป็นการไล่ลุงตู่หรือเปล่า โดยพยายามบอกกับสังคมที่เขาติดตามการเมือง บอกกับคนรุ่นใหม่ที่ติดตามพวกเขา เขาพยายามฝังว่าลุงตู่เป็นเผด็จการ ที่มาของลุงตู่เป็นการสืบทอดอำนาจ”

     "หลักการนี้มันเป็นการพูดย้ำๆๆ เพื่อหวังผลทำให้เกิดการเสื่อมศรัทธา เสื่อมเสีย ทั้งๆ ที่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ลุงตู่มาจากการโหวต”

     ใครที่ติดตามอุ๊มาตลอด ก็คงไม่แปลกใจหากว่าเธอจะร่วมงานนี้ แต่ถ้าถามว่าวันนั้นอดีต ส.ข.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรบ้าง เธอเล่าว่านอกจากร่วมเดินแล้ว ยังได้รับมอบหมายจากแอดมินเพจเชียร์ลุงให้พูดด้วย และสิ่งที่จะไปพูดก็เพื่อต้องการให้แง่คิดอีกด้านหนึ่งกับคน

     “คนอีกตั้งเยอะที่เป็นพลังเงียบก็อาจจะไม่ได้ออกมาพูด เขาก็อาจจะอยากพูด อยากแสดงออกเหมือนกับอุ๊ คือคิดเหมือนกันว่ารัฐบาลชุดนี้เขาก็มาจากรัฐธรรมนูญ ที่เราไปลงประชามติรับร่างมา มีข้อดีอะไรบ้างทั้งในการปราบทุจริต ปราบโกง เป็นก้างขวางคอนักการเมือง อะไรเหล่านี้เป็นต้น”

      ส่วนถามว่าความเป็นเซเลบคนดังแถมยังเคยเป็นนักการเมือง เหมือนมาเป็น “แม่เหล็ก” เรียกคนมาช่วยเดินเชียร์ลุงมั้ย เจ้าตัวบอกเลยไม่ใช่

     “ถ้าอุ๊ดึงคนได้ขนาดนั้น อุ๊ไปจัดคอนเสิร์ตดีกว่า แต่นี่เป็นเรื่องของชาติบ้านเมือง คนที่มาเขาไม่ได้มาดูเราร้องเพลง คนที่มาน่าจะเป็นคอการเมืองที่มาพูดคุย มาพบปะกัน คุณแม่คุณป้าชาวบ้านทั่วไป เขาก็อาจจะอยากไปฟัง”

     “แต่ว่ามันก็คงไม่ใช่ขนาดปราศรัย ซึ่งตัวอุ๊เองก็ไม่ได้มีความกังวลอะไรเลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่จะพูดนี่มาจากความคิดความรู้สึกของเรา ไม่ได้มีสคริปต์ ไม่ได้มีใบสั่ง แล้วก็ไม่ได้สตางค์ แม้แต่แอดมินเพจที่เจอกัน อุ๊ก็ไม่ให้เขาเลี้ยงข้าวด้วยซ้ำ”

      ข้อคิดหนึ่งที่อุ๊ฝากถามฝ่ายวิ่งไล่ลุง และเชื่อว่าเธอจะพูดสิ่งนี้ในวันงานคือ

       “ถามจริงๆ ทุกวันนี้ที่ชูประเด็นขึ้นมา ยุทธศาสตร์ของฝ่ายประชาธิปไตย ถามจริงๆ ว่าคือต่อต้านเผด็จการใช่หรือไม่ ประเทศไทยปกครองโดยระบอบเผด็จการหรือคะ ทีนี้ในความหมายของเขา ถ้าหากว่าเป็นเผด็จการ พวกเขาก็คิดว่าต้องเป็นทหาร ต้องเป็นขุนศึก ก็แสดงว่าคนพวกนี้ฝังหัวกับทหาร มีปัญหากับทหารหรือเปล่า แต่อุ๊คิดว่าน่าจะเหนือกว่านั้น”

    “วันนี้จะบอกว่า ถ้าฝั่งเขา ชูคำว่าไล่เผด็จการ ฝั่งของเราจะชูคำว่า ความสงบร่มเย็นของคนในชาติ คือหัวใจหลักที่สุดยอดที่สุด ประเทศไทยจะต้องเป็นต้นแบบของทุกๆ ประเทศในโลกนี้”

     “เดินเชียร์ลุงมันก็เป็นการเดินให้กำลังใจ เป็นงานสนุกสนาน แล้วไม่ได้มีแบ็กอัพจากรัฐบาล แอดมินเขาทำกันเอง แต่การที่คนเข้ามาร่วมลงทะเบียนขนาดนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่หวังไว้แล้ว"

      แต่ที่แน่ๆ งานนี้ใครก็ตามที่สงสัยว่าผู้ดูแลเพจเชียร์ลุง เป็นใครมาจากไหน ที่ออกตัวว่าไม่ได้เป็น “ไอโอ” จากฝ่ายทหารจริงขนาดไหน เช้าวันนั้นใครไปสวนลุมฯ ได้เห็นตัวเป็นๆ แน่นอน

    รบ-ด้วยการวิ่ง

    ข้ามฝั่งมาอีกฟากคลอง ถึงทีของ “บอล” ธนวัฒน์ วงค์ไชย จาก “วิ่งไล่ลุง” บ้าง

                                              วิ่งไล่ vs เชียร์ (ลุง) สงครามตัวแทน

                                                  “บอล” ธนวัฒน์ วงค์ไชย 

    วันนี้เขาไม่ใช่ประชาชนคนธรรมดาที่มาร่วมวิ่ง แต่นอกจากจะเป็นประธานยุทธศาสตร์สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ที่เคลื่อนไหวไม่เอาลุงมาตลอด เขายังเป็นต้นคิด งานวิ่งไล่ลุง ในฐานะคณะกรรมการแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง เพื่อประโยชน์ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย

    งานของบอลชื่อเต็ม คือ “วิ่งไล่ลุง” หรือ Run Against Dictatorship แปลตามตัวก็บอกแล้วว่าประมาณไหน แต่ถามแนวคิดและจิตใจ ยังไงก็ยืนยันว่าคือ “ประชาชน” ไม่ต้องพูดว่าทำเพื่อใคร หรือพรรคอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ

    “เราเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคนที่เห็นตรงกันว่าเราเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ส่วนภาพที่โผล่ไปพร้อมกับคนพรรคอนาคตใหม่นั้น ถ้าภาพของการที่ถ่ายรูปกับคุณธนาธรแล้วคนก็โยงว่ามีความเกี่ยวข้องกัน คนก็คงโดนกันอีกหลายหมื่นหลายแสน และจริงๆ แล้วส่วนตัวบอลนี่ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไหนเลย แม้แต่เครือข่ายของคนรุ่นใหม่ของแต่ละพรรคก็ไม่ได้สังกัด”

     “ประชาชนที่หนุนหลังการทำงานของพวกเขาในสภา แนวทางทิศทางเดียวกันเป็นเรื่องปกติธรรมชาติ อุดมการณ์ความคิดตรงกันมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะสื่อสารออกมาในเนื้อหาที่คล้ายๆ กัน”

      ส่วนคำว่าวิ่งไล่ลุง คือไล่ “ลุงตู่” ไล่เผด็จการ เป็นการเอาคำว่า “เผด็จการ” มาหากินกับคนรุ่นใหม่ บอลแจ้งว่าการวิ่งของพวกเขา คำว่า “ลุง” ในความหมายของธีมงานคือ “ตัวถ่วง” ความเจริญของประเทศ

      “อะไรที่เป็นตัวถ่วงความเจริญก็ถูกต้องตามนิยามของลุง การที่ทางโน้นเขาจะยังหมกมุ่นอยู่กับคำว่าเรามัวแต่หมกมุ่นกับเผด็จการ เขาต้องไปอัพเดทข้อมูลใหม่ครับ”

      “มันมีประเทศไหนบ้างที่เป็นประชาธิปไตยแล้วเขาปล่อยให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นแบบที่เราต้องยอมรับว่ามันมีคำสั่ง คสช. ที่ห้ามทำกิจกรรม ห้ามคนอื่นแต่ตัวเองทำ เพราะฉะนั้นเราต้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงนะครับว่า สิทธิ เสรีภาพประชาชนมันมีจริงมั้ย ทั้งหมดนี้จะตอบเราเองว่ามันเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า หรือมันเป็นเพียงแค่ระบอบเผด็จการที่เขาเอาคำว่าประชาธิปไตยและการเลือกตั้งมาสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง”

     ขณะเดียวกันหากว่าฝ่ายเดินเชียร์ลุงชูคำว่า “ความสงบเรียบร้อยของประเทศ” และ วิ่งไล่ลุง คือการตอกย้ำคำว่า “เผด็จการ” ตรงนี้บอลมีความเห็นว่า

       “อ้าว..ก็ถ้าเขาต้องการความสงบ แล้วเขาออกมาทำไม ส่วนถ้าจะพูดเรื่องความเงียบสงบ ที่ผ่านมา มันเป็นความเงียบสงบที่เราไม่ต้องการ มันเงียบจริงๆ เงีบบราบคาบเลย ถามว่าเราอยากได้จริงๆ หรือ ความเงียบสงบแบบนี้ที่ประชาชนไม่ได้มีปากเสียง คุณอยากได้ความเงียบสงบหรืออยากได้ความเป็นประชาธิปไตยที่รัฐบาลมาจากตัวแทนของประชาชน ที่เข้าใจประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์ประชาชน ไม่ใช่แค่นายทุนและเจ้าสัวอย่างที่เป็นอยู่”

      ถามว่าวิ่งไล่ลุงคาดหวังอะไรจากครั้งนี้ บอลว่า อยากให้มันออกมาดีที่สุด เนื่องจากไม่เคยออแกไนซ์งานวิ่งขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อนจึงค่อนข้างกังวลเรื่องข้อผิดพลาดทางเทคนิค

        “บอกเลยออแกไนเซอร์งานวิ่งหลายๆ คน ก็ไม่เคยเจองานระดับหมื่นมาก่อน มันมีน้อยมาก จะมีความผิดพลาดไหม มันมีแน่นอน เราก็ต้องขออภัยล่วงหน้า แต่เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่ให้งานออกมาดูดี”

      แต่เรื่องระบบความปลอดภัย ไม่ต้องห่วง รับประกัน เนื่องจากงานนี้มีการแจ้งทางการไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งการประสานกับตำรวจ กทม. เทศกิจ และทางสวนรถไฟเจ้าของสถานที่ เหนืออื่นใดที่อยากให้คนไทยรอดูคือภาพประวัติศาสตร์

     “เราก็หวังว่าวันนั้น ประชาชนจะสามารถออกมาแสดงสิทธิ์ เสียง ออกมาแสดงพลังของประชาชนได้โดยไม่มีใครกดดัน โดยไม่ถูกสั่งห้าม แล้วบอกเลยวันนั้นจะเป็นภาพที่ประชาชนออกมาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการรัฐประหารมา”

        ราวกับจะบอกว่างานนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วคุณล่ะอยากไปงานไหนมากกว่ากัน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ