ข่าว

โวยกลางสภาฯอึดอัด มีคนคุมห้ามตัดงบ ม.27

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วรวัจน์" โวยกลางสภาฯ  อึดอัดมีคนคุมห้ามตัดงบ ม.27 ส่วนของนายกฯ อีกก้อน หลังกมธ.ฯ ปรับเพิ่มเติม 21 ล้านบาท แฉตั้งงบ อีอีซี พบเงินรั่วไหล-ไม่เกิดประโยชน์ 

 

 

 

              รัฐสภา - 10 มกราคม 2563 - "วรวัจน์" โวยกลางสภาฯ  อึดอัดมีคนคุมห้ามตัดงบ ม.27 ส่วนของนายกฯ อีกก้อน หลังกมธ.ฯ ปรับเพิ่มเติม 21 ล้านบาท แฉตั้งงบ อีอีซี พบเงินรั่วไหล-ไม่เกิดประโยชน์ "รังสิมา" จี้ให้เปิดเผยรายละเอียด ก่อนสภาฯ ข้างมากเห็นชอบให้ผ่าน "วรวัจน์" เผยหลังประชุม "พล.อ.กิตติทัศน์" คือคนคุมห้ามหั่นงบ 

 

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ ซึ่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสอง ส่วนของร่างมาตรา 27 งบรายจ่ายของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี  กระทรวง หรือทบวง  และหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกมธ. พิจารณาเพิ่มงบบประมาณส่วนดังกล่าว  21 ล้านบาท จากเดิมที่เสนอขอ 46,221 ล้านบาท  ไปเป็น 46,242 ล้านบาท  ทั้งนี้ในการอภิปรายของกมธ.ฯ​ที่สงวนความเห็น ได้ท้วงติงต่อการจัดสรรงบประมาณของรัฐที่ฟุ่มเฟือย 

 

 

 

 

                   โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กมธ.เสียงข้างน้อยอภิปรายว่าขอให้จับตาการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้กับสำนักงานคระกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)  เพราะเป็นการนำเงินงบประมาณออกจากระบบราชการที่คลาสลิค และน่าเกลียดอย่างแท้จริง เนื่องจากพบการจัดสรรงบประมาณ มีการรั่วไหล

 

 

                โดยแบ่งจ่ายให้กับโครงการว่าจ้างที่ปรึกษาแยกเป็นรายโครงการมูลค่าสูงกว่า 383 ล้านบาท หรือคิดเป็นค่าจ้างเดือนละ 1.9 แสนบาท รวม 4 เดือนซึ่งเป็นงบประมาณที่สูงกว่าการจ้างผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และพบว่ามีการแยกสัญญาจ้างสัญญาต่อสัญญาแทนที่จะรวมกัน รวมถึงพบค่าเช่าคอมพิวเตอร์ที่แยกเช่ากับเครื่องปรินท์เตอร์ ซึ่งตนเป็นกมธ.​วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ กว่า 20 ปี พบว่ารัฐบาลใช้เงินอย่างไร้ประสิทธิภาพ  ซึ่งตนไม่อยากให้ผ่าน เพราะขาดการพัฒนา แต่กลับพบการรั่วไหลจำนวนมาก  ซึ่งตนต้องการให้สื่อมวลชนจับตาและตรวจสอบรวมถึงอยากให้ส.ส. เช่น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ตรวจสอบรายละเอียดเช่นกัน 

 

                 ขณะที่รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์  ใช้สิทธิอภิปรายเนื่องจากถูกพาดพาดพิง  ว่า ขอให้กมธ. ชี้แจงรายการให้ละเอียด เพราะตนมองว่าการทำหน้าที่ของกมธ.ฯ ทำไม่สำเร็จทุกครั้ง ซึ่งครั้งต่อไปในปีงบประมาณต่อไป เมื่อตั้งกมธ.ฯ แล้วต้องทำงานให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่างไรก็ตามงบประมาณที่จ้างที่ปรึกษา เป็นงบประมาณที่จัดสรรโดยไม่มีราคากลาง ซึ่งตนเห็นด้วยว่ามีการรั่วไหล ดังนั้นกมธ.ฯ​ต้องเสนอแนะเพื่อหาวิธี แนวทางแก้ไข เพื่อวางมาตรฐานไม่ให้รัฐสูญเสียงบประมาณ รวมถึงหาทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ 

 

                ทั้งนี้นายวรวัจน์  ชี้แจงอีกครั้งว่าา การพิจารณาของกมธ.ฯ อึดอัดที่สุด เพราะมีคนเข้าไปคุมการพิจารณาถึงห้องกมธ.ฯ​และห้องประชุมอนุกมธ.ฯ  เพื่อไม่ให้ตัดงบประมาณ แม้กมธ.จะขอตัด ขอแปรญัตติตัด เขาไม่ยอม ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกับการพิจารณากมธ.ฯ ของพรรคการเมืองที่ผ่านมาที่เห็นร่วมกันตัด คือตัด ซึ่งการพิจารณาของกมธ. ถูกกดดัน ถูกควบคุม ไม่มีผ่อนคลาย ซึ่งตนขอเรียกร้องขอให้เอาพอสมควร อย่าทำเกินไป เพราะบางอย่างรับไม่ได้จริงๆ   ทำให้น.ส.รังสิมา อภิปรายตั้งคำถามาอีกครั้ง ว่า  "ใครไม่ให้ตัด ขอให้ชี้แจง" ทั้งนี้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ​คนที่หนึ่ง ฐานะประธานที่ประชุม ได้กล่าวตัดบทและให้การพิจารณาดำเนินต่อไป จนถึงการลงมติและเสียงข้างมากของที่ประชุม 245 เสียงเห็นชอบกับกมธ.ฯ ที่แก้ไข และไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง  196 เสียง 

 

 

              ทั้งนี้ภายหลังการลงมติแล้วเสร็จ นายวรวัจน์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงบุคคลที่เข้ากำกับการปรับลดงบประมาณของมาตรา 27 บรายจ่ายของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี  กระทรวง หรือทบวง  และหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี  คือ พล.อ.กิตติทัศน์ เปี่ยมสุวรรณ์ ที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ซึ่งเข้ากำกับการพิจารณาทั้งการประชุมกมธ.ฯ ชุดใหญ่ และอนุกมธ.ฯ ซึ่งควบคุมไม่ให้ปรับลดงบประมาณมากเกินไป และจะให้ลดเฉพาะที่เห็นชอบเท่านั้น ซึ่งงบประมาณของมาตราดังกล่าว ถือเป็นงบที่ นายกฯ​มีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ เช่นเดียวกับงบกลาง. 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ