"อนค. แฉเอกสารขั้นตอนสอบคดีกู้เงิน จวก "กกต." ดันทุรัง ยัดความผิด-วางเป้ายุบพรรค ชี้เอกสารที่ได้ กก.สอบ 2 คณะ ลงมติไม่ผิด
รัฐสภา-10 มกราคม 2563-"อนค." แฉเอกสารขั้นตอนสอบคดีกู้เงิน จวก "กกต." ดันทุรัง ยัดความผิด-วางเป้ายุบพรรค ชี้เอกสารที่ได้ กก.สอบ 2 คณะ ลงมติไม่ผิด แต่ กกต.ดันตั้ง อนุ กกต.ฯ สอบ พร้อมออกมติ 3:2 ให้ยื่นศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง-ยึดเงินเข้ากองทุน แต่พบ "กกต." สอดไส้ ยัดข้อหายุบพรรค ทั้งนี้ผลสอบโทษไม่ถึง
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงที่รัฐสภา เพื่อเตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เปิดกระบวนการไต่สวนคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อศาลให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง กรณีปล่อยกู้ให้พรรคอนาคตใหม่ หลังจากที่ตนได้รับเอกสารจากบุคคล
และอ่านเนื้อหาซึ่งเชื่อได้อย่างบริสุทธิ์ใจว่าเป็นของจริง ระบุขั้นตอนการตรวจสอบคดีดังกล่าวจนถึงการยืนคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญของ กกต.ที่มีนายอิทธิพร บุญประคอง เป็นประธาน กกต.ทำผิดขั้นตอน เนื่องจากการสอบสวนที่ผ่านคณะกรรมการตรวจสอบ 2 ชุด คือ คณะที่ 13 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2562 และคณะที่ 18 ลงวันที่ 20 กันยายน 2562ระบุชัดเจนว่า กรณีการปล่อยกู้ดังกล่าว สามารถทำได้ และไม่ถือว่าเป็นความผิดเนื่องจากการกู้เงินไม่ใช่รายได้ แต่เป็นหนี้สิน จึงไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา 66 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
นายปิยบุตร แถลงด้วยว่าตามกระบวนการตรวจสอบในระเบียบวิธีการ เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบ เห็นว่าให้ยุติเรื่อง กกต.ชุดใหญ่ควรยุติเรื่อง แต่กลับพบว่า ได้มีมติเอกฉันท์ ตั้งคณะอนุ กกต. ที่มี นางสุกัญญา รัตนนาคินทร์ เป็นเจ้าของสำนวนตรวจสอบ ตรวจสอบต่อ ซึ่งคณะอนุกกต. ถูกแต่งตั้งจำนวน 5 คน และมีมติ 3ต่อ2 ให้ดำเนินร้องต่อศาลเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค เป็ฯเวลา 5 ปี และให้เงิน นั้น ตกเป็นของกองทุน ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 66 โดยเสียงข้างมาก 3 เสียง ประกอบด้วย นางสุกัญญา, พล.ท.สมชาย ชัยวณิชยา และ พล.ต.อ.ชัยชนะ ลิ้มประเสริฐ ส่วน 2 เสียง คือ นายมหินทร์ สุรดินทร์กูร และพล.ต.ต.พิศาล ภุมรินทร์ เห็นว่าควรยกคำร้อง แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ชุดใหญ่ กลับพบมติ 5ต่อ2 ให้ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม
"กรณีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่คณะตรวจสอบมีมติยุติเรื่องตั้งแต่แรก ดังนั้นควรยุติ แต่กกต. ดันทุรังเดินหน้าต่อ ผมถือว่า กกต.ทำงานแบบผิดสังเกต ทั้งนี้ต้องทำตามอนุกรรมการยุติเรื่อง เดินหน้าไม่ได้ แต่เมื่อกกต.เดินหน้าต่อ กลับพบว่า กกต.ได้ใส่ความผิดให้พรรคอนาคตใหม่เพิ่มขึ้น คือ การยุบพรรค ตามมาตรา 72 ของ ทั้งที่คำร้องที่ยื่น คือ มาตรา 66 และอนุกรรมการที่สอบวน ดูเฉพาะมาตราดังกล่าว คือ บริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท และการเรียกไปชี้แจง ดูแต่มาตรา 66 เท่านั้น แต่มติ กกต.ที่แถมความผิด เพราะกระเหี้ยนกระหือรือต้องการให้ยุบพรรค ทั้งที่มาตรา 66 ไม่มีบทลงโทษว่าด้วยการยุบพรรค ซึ่งผมคิดว่ามีคนบอกให้ใช้มาตรานี้เพื่อให้เข้าเป้าคือยุบพรรคอนาคตใหม่ให้ได้" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร แถลงเรียกร้องให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ของกกต. พูดความจริงว่าถูกกดดันอย่างไรบ้าง เพื่อให้เป็นบุคคลรักษาองค์กรให้เป็นองค์กรอิสระได้ต่อไป อย่ายอมตนภายใต้ผู้มีอำนาจที่กดดัน รวมถึงสื่อมวลชนให้ติดตามการทำงานของ กกต. และขอให้ประชาชนแสดงออกต่อการไม่ยอมทนใช้กับองค์กรอิสระเป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่เป็นต้นเหตุของวิกฤตทางการเมือง และเรียกร้องให้องค์กรอิสระเป็นอิสระจากคณะรัฐประหาร จากผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่ไม่ใช่เป็นอิสระจากประชาชน รวมถึงของให้ กกต.มีจิตสำนึกในการทำหน้าที่
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่าจากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ขอขยายเวลาส่งคำร้องต่อสู้คดียุบพรรค ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งครบกำหนดการยื่นเอกสารในวันนี้ (10มกราคม) ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญอนุมัติให้ขยายเวลาส่งคำร้อง ถึงวันที่ 27 ธันวาคมนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง