ข่าว

บิ๊กตู่ ห่วงคนไทย 60 ล.กระทบ ซัด 'เชียร์-วิ่งไล่ลุง' ไร้ ปย.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บิ๊กตู่ห่วงคนไทย 60 ล.กระทบซัด'เชียร์-วิ่งไล่ลุง'ไร้ประโยชน์ - ลือ หญิงหน่อย ทิ้ง พท.-เต้ ควง พิเชษฐ์ ยุบฝ่ายค้านอิสระรวม พปชร.

         ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่กำลังดีๆ ก็อยากให้เดินหน้าไป อย่าดึงให้ถอยหลัง ย้อนไปย้อนมา คิดว่าได้ตั้งใจมั่นทำงานมา 5 ปี ปีที่ 6 นี้ ยังยืนยันมีแรงศรัทธาตลอดมา ไม่ใช่ต้องการอำนาจ ใครบอกว่าการเมืองคืออำนาจผลประโยชน์ ในเมื่อไม่ต้องการอำนาจและผลประโยชน์ แล้วทำไมไม่ไว้ใจ เมื่อไว้ใจก็ต้องไว้ใจในการบริหาร จะต้องควบคุมเรื่องเหล่านี้ให้มากที่สุดไม่ให้กลับไปที่เดิม นั่นคือสิ่งที่อยากจะพูดกับทุกคน   

      ซัดวิ่งไล่ลุงทำ 60 ล้านคนเสียประโยชน์

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้นายกฯ กำลังคิดแก้ไขปัญหาหลายเรื่อง การพูดกันไปมาบางทีไม่ใช่เรื่อง มันไม่มีอะไรที่ชัดเจน พูดกันไป บอกกันมา เกลียดชังหมด ถามว่าเวลานี้เราควรจะสร้างให้เกิดความเกลียดชังกันเองในชาติหรือไม่ มันใช่เวลาหรือไม่ ทำไมไม่เอาเวลามารวมพลังเพื่อต่อสู้กับปัญหาภายนอก แล้วปัญหาภายในก็แก้กันในเชิงระบบกลไก ถ้ามัวโทษกันไปกันมา มันแก้อะไรไม่ได้สักอย่าง แก้โน่นกระทบนี่ พันกันไปหมด รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ปัญหาที่ซ้ำซ้อน ไม่ใช่แก้ปัญหาเชิงเดี่ยวในลักษณะเปิดแล้วปิดงานปรบมือกัน

      “ผมอยากให้ทุกคนใช้กลไกประชาธิปไตยของวันนี้สร้างประเทศกันก่อนได้หรือไม่ ดีกว่าที่จะทำลายซึ่งกันและกัน ถ้าผิดถูกตรงไหนก็ไปเข้ากระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าพูดกัน ไล่กันไปกันมาแบบนี้ ผมไม่เห็นประโยชน์จะเกิดขึ้น ไม่ว่าสนับสนุนผมหรือสนับสนุนใครก็ตามหรือต่อต้านผม มันเกิดประโยชน์กับใครบ้าง มันก็มีคนจำนวนหนึ่งที่ออกมาทำเรื่องแบบนี้ พัน สองพัน หมื่นนึง แต่คนที่เสียประโยชน์คือคน 60 ล้าน ผมอยากจะบอกว่าพอเถอะ มาช่วยกันทำประเทศดีกว่า ช่วยกันฟังว่ารัฐบาลจะทำอะไร จะได้ประโยชน์อะไร ถ้าไม่พอใจอะไรก็บอกมา รัฐบาลก็แก้ไข แก้ปัญหาต้องแบบนี้ อย่าใช้ทุกเวทีดิสเครดิตกันไปมา ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะยังไม่ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ใครผิดถูกอย่างไรให้มาแจ้ง เอาหลักฐานมาผมจะนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อตัดสินอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น"

      โอดทำงานหนักสมองหายไปเยอะ

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายอย่างคิดออกมาทำไม่ได้ผล ก็ยอมรับ ทุกอย่างอาจจะต้องลองผิดลองถูก ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญก็ไม่รู้จะทะเลาะกันทำไม ในเมื่อตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาแก้ไขก็ไปคุยกัน จะมาคุยกันทางสื่อทำไมกันทุกวัน เปิดประเด็นกันอีกทำไมในเมื่อส่วนตัวก็ไม่ได้ขัดข้องอยู่แล้ว ก็ไปคุยกันในกรรมาธิการ วันนี้ทุกอย่างออกสื่อกันหมด แล้วก็ตีกันยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง อยากถามว่ามันสำเร็จอะไรสักอย่างหรือไม่ ความร่วมมือจะเกิดหรือไม่ แล้วมาบอกว่าห่วงเรื่องโน้น มีสู้รบสงคราม แต่ในประเทศก็ตีกัน แล้วไปห่วงทางโน้น จะไปทำอะไรได้ ทำสองทางช่วยกันบ้าง อยากฝากคน 60 กว่าล้านที่เขาเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยที่ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอะไรดี จะใช้คำพูดอะไรดี เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง บางทีมันไม่ได้สาระอะไรทั้งสิ้น พูดกันได้ทุกวัน เรื่องที่ยังไม่เกิดก็พูดทำให้สังคมระอุทุกวัน ทำเพื่ออะไร อยากถามกับการที่ทำเพื่อประเทศ เพื่อพวกเราทุกคน แต่อีกพวกจ้องจะทำลายทุกวัน ทำอะไรก็ผิดหมด ไม่มีใครทำถูกทั้งหมดหรือผิดทั้งหมดหรอก คำว่าผิดกระบวนการยุติธรรมต้องตัดสิน และต้องเชื่อไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เช่นนั้นประเทศอยู่ไม่ได้แน่นอน

       "วันนี้เป็นประเทศมาสองร้อยกว่าปีแล้ว กรุงรัตนโกสินทร์ตั้งสองร้อยกว่าปีแล้ว ทำไมจะย้อนกลับไปสู่ยุคอดีตอีกที่ทุกคนแยกกันอยู่ แยกฝ่ายแล้วทุกคนก็ตีกัน รบกัน แล้วประเทศชาติ ประชาชนจะอยู่ตรงไหนสมองผมหายไปเยอะ หายไปครึ่งหนึ่ง ทำไมไม่ช่วยผมบ้าง ผมเคารพทุกท่านเพราะเข้ามาในกระบวนการประชาธิปไตย แต่ผมถามว่า ประชาธิปไตยวันโน้นกับประชาธิปไตยวันนี้ต่างกันอย่างไร หาให้เจอ ผมขี้เกียจพูดย้อนไปย้อนมา ทุกคนทราบดี แต่ลืมไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย วันนี้สิ่งที่ดีเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ไม่ดียังมีค้างอยู่ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้ประชาชนตัดสินใจว่าเราจะเดินไปข้างหน้าหรืออยู่กับที่ หรือจะก้าวถอยหลัง หรือจะรื้อทั้งหมดกลับไปสู่อดีต เชิญท่านเถอะ ผมทำของผมเต็มที่เท่านี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

     ยันไม่หยุดนิ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

     นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทแข็งตัว ว่า เรื่องเศรษฐกิจและค่าเงินบาท ไม่ได้หยุดนิ่ง มันมีหลายปัญหาหลายอย่างที่มีผลกระทบซึ่งกันและกัน แต่กฎหมายและกลไกก็มีอยู่ เราคิดเองไม่ได้ ต้องยึดหลักการทั้งเศรษฐศาสตร์และข้อเท็จจริง ขณะที่ปัญหาในประเทศ สิ่งที่รัฐบาลมอง นอกจากการช่วยเหลือประชาชน ในเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อประทังชีวิตให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ไปพลางก่อน อีกส่วนคือมาตรการช่วยเหลือ เช่น การประกันราคาข้าวและพืชผลเกษตร อย่างการประกันราคาข้าว จะต้องดูว่ากลุ่มใดที่ยังไม่ได้รับประโยชน์จากกลุ่มนี้ กำลังคิดการจำนำข้าวในยุ้งฉาง อย่างที่เคยทำมาแล้ว ซึ่งเกษตรกรชาวอีสานต้องการแบบนี้ เพราะเขาทำข้าวได้ปีละครั้ง เราจึงต้องแยกมาตรการนี้ออกมาและต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง มาตรการเดียวใช้ไม่ได้ ต้องใช้หลายมาตรการ

   บิ๊กป้อม ไม่คิดสกัด วิ่งไล่ลุง

   ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ฝ่ายความมั่นคงจะติดตามสถานการณ์อย่างไรว่า ไม่ต้องติดตามอะไร เขาวิ่งกันอยู่ที่ไหน แค่รู้ว่าวิ่งกันอยู่ที่สวนรถไฟก็พอแล้ว จะให้ทำอย่างไร วิ่งไปอย่าให้ปั่นป่วน อย่าให้ผิดกฎหมายก็แล้วกัน ต่อข้อถามว่ากลุ่มผู้ทำกิจกรรมกังวลว่าจะมีการระงับไม่ให้ใช้สถานที่ของสวนรถไฟ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “สั่งปิดที่ไหน รัฐบาลให้ทำกิจกรรมแล้วไม่ให้ใครสั่งปิดหรอก”

     ผู้สื่อข่าวถามว่ากิจกรรมดังกล่าวมีนักการเมือง ทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ไปเข้าร่วมด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะทำยังไงได้ ไม่ใช่ช่อนี่ เขาจะวิ่งแล้วจะไปทำอย่างไร จะไปหรือ เดินยังไม่ไหวเลย ส่วนการดูแลความปลอดภัยหากมีคนมาร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เป็นจำนวนมากนั้น มีคนดูอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก

     เชื่อ ‘นายกฯ’ แจงปมที่ดินพ่อได้

    รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการทำงานของพรรคพลังประชารัฐในปี 2563 จะมีการทำงานเชิงรุกรวมถึงการรับมือฝ่ายค้านที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ดูแลหรือไม่ ที่นี่ดูแลหรือไม่ ดูแลแล้วจะถามทำไม ส่วนเรื่องการทำงาน พรรคเพิ่มเติมตลอด แต่ไม่ได้บอกสื่อ ทำให้ประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้น

    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านหยิบยกเรื่องของที่ดินของบิดา พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมมาโจมตีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เป็นเรื่องเก่า นายกฯ ชี้แจงได้อยู่แล้ว ไม่มีอะไร”

    บิดา“บิ๊กตู่”เสียชีวิตอย่างสงบ

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 11.20 น. ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช หลังจากทราบข่าวว่า พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา อายุ 97 ปี บิดาเสียชีวิตอย่างสงบ โดยก่อนหน้านี้มีอาการป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ และมีอาการสมองเสื่อม มีสติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วนมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร

     ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่าจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 16.00 น.วันที่ 8 มกราคม ที่ศาลา 9 วัดโสมนัสราชวรวิหาร งดรับพวงหรีด

    ฝ่ายความมั่นคงจับตาวิ่งไล่ลุง

    ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มกราคมนี้ ว่า ฝ่ายความมั่นคงดูแลอยู่ ว่าให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย สำหรับนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงที่สุดในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนที่ไปร่วมงานหรือผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการจัดงาน ถ้าทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมายไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตามสิทธิของประชาชน เพราะกิจกรรมก็มีทั้งสองฝ่าย ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่ายโดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับใดๆ เพิ่มเติม

    เมื่อถามว่าจะเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการปะทะระหว่างสองฝ่ายได้อย่างไร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้ใช้เวลาที่สภาพภายนอกประเทศเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ เราน่าจะร่วมกันทำให้ภายในประเทศเกิดความรักความสามัคคี เพื่อผ่านห้วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งภายนอกและภายในประเทศเช่นเรื่องของเศรษฐกิจ ภัยแล้ง น่าจะหันมาร่วมมือกัน สิ่งที่รัฐบาลทำไปแล้ว อยากให้มองว่าคือความตั้งใจจริงของรัฐบาล ที่จะแก้ปัญหาและนายกรัฐมนตรีพร้อมรับฟังความเห็นว่าสิ่งใดที่ควรจะปรับ หรือจะส่งผ่านมาทางโฆษกรัฐบาลเพื่อเรียนให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบต่อไปก็ได้ อะไรที่เป็นบวกนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพร้อมรับฟังทุกคำเสนออยู่แล้ว โดยไม่มีการไปห้ามอะไร อยากให้ร่วมมือกันก้าวข้ามความผันผวนของเศรษฐกิจและการเมือง ในระดับโลก เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคไปด้วยกัน

    พท.รับทำงานสอดรับแก๊งวิ่งไล่ลุง

    ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ว่า ข้อมูลของพรรคฝ่ายค้านวันนี้ถือว่ามีความพร้อม ข้อมูลที่จะอภิปรายหัวหน้ารัฐบาลและรัฐมนตรี แบ่งเป็น ชุด Aบวก คือ ข้อมูลที่มีใบเสร็จ กับชุด A ที่แม้จะไม่มีใบเสร็จ แต่ก็มีความน่าเชื่อได้ว่า น่าจะมีการกระทำผิด ที่ผ่านมาคณะกรรมการกิจการพิเศษได้ประชุมกันซักซ้อมเตรียมพร้อมที่จะอภิปราย เราดูทั้งบุคคล ดูทั้งเรื่องห้วงเวลาที่เหมาะสมที่ควรจะอภิปราย เชื่อว่าข้อมูลที่อภิปรายไป คงทำให้หัวหน้ารัฐบาลและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายยืนอยู่ต่อไปลำบาก จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน และบางทีอาจจะหนักกว่าการเปลี่ยนแปลงปรับครม.ก็ได้ เป้าหมายการอภิปราย อยู่ที่หัวหน้ารัฐบาล ส่วนจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็เป็นภาพของสภา

      พล.ท.ภราดร กล่าวว่า การทำงานเราจะทำสอดคล้องกันสอดรับกับระหว่างการวิ่งไล่ลุง ที่คนที่ออกมาวิ่งล้วนอยากไล่ลุง จึงชวนกันออกมา เป็นการทำงานนอกสภาของประชาชน ส่วนเรารับความประสงค์จากประชาชนมาทำให้เป็นจริงในสภา ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เวลาการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อยู่ระหว่างวันที่ 16-20 มกราคม เบื้องต้นขอเวลาอภิปรายไว้ 3 วัน คาดว่าจะมีการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังตรุษจีน คงจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์

    ลั่น‘ธนาธร’ไปตามหมายเรียก 10 ม.ค.

    วันเดียวกัน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวแสดงความกังวลถึงกรณีการคุกคามการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากกรณีการออกหมายเรียกบุคคลต่างๆ ให้เข้ารับทราบข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และกรณีการคุกคามประชาชนที่จะทำการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ในจังหวัดต่างๆ ว่า สำหรับกรณีการแจ้งข้อหาบุคคลต่างๆ ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ อดีตผู้สมัครส.ส. ถูกแจ้งข้อหาด้วยนั้น ขอยืนยันว่า ทั้งสองคนจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สน.ปทุมวัน ในวันที่ 10 มกราคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน โดยการรับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ เป็นการไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายเท่านั้น แต่เรายังคงยืนยันว่า สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน ที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560

     “ช่อ”จวก จนท.คุกคามวิ่งไล่ลุง

    น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี ตอนนี้ดูเหมือนว่าเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนกำลังถูกคุกคาม จากกรณีการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มกราคมนี้ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมกระจายไปในหลายสิบจังหวัดทั่วประเทศไทย หากแต่ปรากฏว่าที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในหลายจังหวัด กลับมีการคุกคามผู้จัดกิจกรรม ถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.พะเยา ที่มีการเรียกผู้จัดกิจกรรมไปพบ และไม่อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรม โดยบอกว่าผู้จัดไม่ได้ขออนุญาตสถานที่หลายสถานที่ รวมทั้งที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ติดเครื่องหมายชั้นยศแสดงตนสังกัดที่ชัดเจน เรียกผู้จัดกิจกรรมพบถึงสองครั้ง พร้อมมีคำพูดข่มขู่จากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ระบุว่า คงพอรู้นะว่าพื้นที่นี้เป็นของใคร

     “ธนาธร”ตอบจะเกณฑ์ทหารทันหรือ

    วันเดียวกัน นายธนาธร ทวิตข้อความตอบคำถาม ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @twinpole09 ที่เข้ามาถามคำถามเรื่องปัญหาการการใช้โดรนสังหารผู้นำระดับสูงของอิหร่านโดยสหรัฐ ก่อนโยงมาที่นโยบายเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารของพรรคว่า "ขอถามธนาธร จากเหตุการณ์ ผบ.ของอิหร่านโดนถล่ม กรณีเกิดสงครามชายแดนไทย พรุ่งนี้ 1.เราจะเปิดรับสมัครทหารทันไหมครับ 2.ทหารใหม่ไม่ต้องฝึกเลยใช่ปะครับ 3.พรุ่งนี้ไทยจะซื้ออาวุธใหม่ แล้วได้อาวุธมาในทันทีเลยไหมครับ 4.หรือจะให้ไทยยอมแพ้ ยกประเทศให้ต่างชาติเลยครับ”

    ด้านนายธนาธร ตอบกลับว่า “ตอบ: 1.ถ้าเอาตามข้อเสนออนาคตใหม่ เรามีกำลังพลที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้วประจำการอยู่แล้ว ไม่ต้องเกณฑ์คน 2.กำลังพลดังกล่าวมีการฝึก 2 ปี ประจำการรอบละ 5 ปี อยู่แล้ว ไม่ใช่มาฝึกกันสดๆ 3.เราไม่ได้ขัดขวางการซื้ออาวุธ แต่ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประโยชน์คุ้มค่าต่อประเทศชาติจริงๆ 4.ไร้สาระ ข้อคิด: ถ้าไทยจำเป็นต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งครังนี้ คิดว่ากำลังทหารเกณฑ์ที่เรามีอยู่ปัจจุบันพร้อมปกป้องประเทศหรือไม่? ความขัดแย้งสหรัฐ-อิหร่าน ยิ่งตอกย้ำว่าเราต้องยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารอันล้าสมัย เปลี่ยนเป็นสมัครแข่งขันเพื่อมีกำลังพลมืออาชีพ สวัสดิการดี มีกองทัพทันสมัย”

     อุตตมลั่นสู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ

      ที่กระทรวงการคลัง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีถูกฝ่ายค้านไม่ไว้วางไว้ใจว่า มีความพร้อมที่จะชี้แจงในทุกประเด็น และเชื่อว่ารัฐมนตรีจะถูกอภิปรายจะสามารถชี้แจง โดยขณะนี้มีการเตรียมการในประเด็นต่างๆ ไว้แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณปี 2563 นั้นกระทรวงการคลังและรัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกประเด็น และถ้าผ่านในวาระที่ 2-3 ตามกำหนดคาดว่าจะทำให้งบประมาณนำมาใช้ได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นไปตามกรอบเวลาที่ครม.วางไว้ ซึ่งรัฐบาลพยายามให้งบประมาณดังกล่าวบังคับใช้ให้เร็ว ขณะนี้ล่าช้าจากเดิมต้องเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ซึ่งการนำงบประมาณมาใช้ทำให้เกิดการลงทุนภาครัฐเร็วขึ้น

      นายอุตตมกล่าวต่อถึงกรณีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลายฝ่ายมองว่าเอื้อนายทุนรายใหญ่ และพรรคฝ่ายค้านเตรียมเสนอสภา ยกเลิกการใช้กฎหมายว่า ความเป็นมาของการออกกฎหมายไม่ได้ออกมาเพื่อเอื้อรายใหญ่ กฎหมายดังกล่าวเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาในภาพกว้างที่สุด ซึ่งถ้าฝ่ายค้านมีการอภิปรายในเรื่องนี้สามารถชี้แจงได้ โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย และได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย โดยยืนยันที่จะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายต่อไป และยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการยกเลิก

     วิปรัฐบาลมั่นใจงบ63 ฉลุย

    เมื่อเวลา 14.20 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการวางกรอบการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสองและวาระสามเริ่ม ‪วันที่ 8 มกราคมว่า ได้หารือกับนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านแล้วว่า จะให้เวลาอภิปรายเต็มที่ โดยผู้ที่จะสามารถอภิปรายรวม ‬146 คน ซึ่งเป็นผู้ที่สวงนคำแปรญัตติไว้ รวมไปถึงกมธ.ของฝ่ายค้าน อีก 26 คน

    เมื่อถามว่าการันตีได้หรือไม่ว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะลงมติสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบ ปี 63 แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ นายวิรัช กล่าวว่า เชื่อว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนการลงมติตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการลงมติอาจถูกฝ่ายค้านขอให้ลงคะแนนใหม่ในบางมาตรานั้น ก็สามารถทำได้ เชื่อว่าจะสงวนลิขสิทธิ์เฉพาะฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น

     จ่อเปิดตัวอดีตงูเห่าอนค.ซบพปชร.

       ส่วนเสียงของ ส.ส.ในสภามีจำนวน 498 คน ซึ่งไม่รวมนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ ที่ถูกศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกศาลตัดสินคุก โดยมี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 117 คน ซึ่งล่าสุดจะได้เสียงเพิ่มจาก พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้วตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ถือว่าเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อนแล้ว และ‪ในวันที่‬ ‪7 มกราคม จะมีการเปิดตัวที่พรรคก่อนกการประชุม ส.ส.ในช่วงบ่าย นอกจากนั้นยังมีนายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ ที่ชนะเลือกตั้งซ่อม จ.ขอนแก่นด้วย ทั้งนี้ ในวันประชุมพรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จะเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ ส.ส.เข้าสวัสดีและอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ด้วย‬

      เมื่อถามว่า นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทรบุรี อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ มาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ทราบว่าไปจะไปเปิดตัวกับพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน

     สะพัด“หญิงหน่อย”ไขก๊อกพท.

     วันเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า วิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้หารือกรอบการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในเบื้องต้นว่า การอภิปรายวันที่ 8 และ 9 มกราคมนี้ โดยจะเลิกประชุมในช่วงเวลาเที่ยงคืน แต่หากการอภิปรายไม่จบ ก็จะพักการประชุม และขยายเวลาการประชุมไปในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม

     ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทยในวันที่ 6 มกราคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย โดยคุณหญิงสุดารัตน์เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวบางส่วนออกไปจากห้องทำงานที่พรรคด้วย ทั้งนี้เกิดกระแสข่าวลือว่า คุณหญิงสุดารัตน์ได้เตรียมลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย เพื่อรับผิดชอบต่อการแพ้เลือกตั้งซ่อมที่ จ.ขอนแก่น นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้เรียกส.ส.และนักการเมืองที่สนับสนุนไปกินข้าวที่บ้านอีกด้วย

     “เรืองไกร” ชงตัด “งบกลาโหม”

      ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 กล่าวว่า ในการพิจารณางบประมาณในวาระที่ 2 ที่จะมีการประชุมในวันที่ 8-10 มกราคมนี้ คณะกมธ. ขอสงวนคำแปรญัตติไว้เป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นคือการการตัดลดงบประมาณสำรองฉุกเฉินที่พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งงบประมาณไว้ที่ 96,000 ล้านบาท โดยในการใช้งบประมาณส่วนนี้ พล.อ.ประยุทธ์สามารถออกคำสั่งนำมาใช้ได้ ซึ่งด้วยระยะเวลาและจำนวนเงินที่มากเกินความจำเป็นทางคณะกรรมาธิการจึงเสนอตัดลดงบประมาณในส่วนนี้ลงไปจำนวน 40,000 ล้านบาท เพราะเวลาในการใช้งบประมาณเพียง 7 เดือนแต่รัฐบาลกลับตั้งงบประมาณไว้มหาศาล ไม่มีเหตุผลรองรับในการใช้งบประมาณดังกล่าวจึงต้องตัดลดงบประมาณลง

      นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันได้ขอสงวนคำแปรญัตติงบประมาณของกระทรวงกลาโหมไว้ทั้งหมด หรือมากกว่า 1 แสนล้านบาท ที่จำเป็นต้องตัดงบประมาณส่วนนี้ทั้งหมด เพราะที่มาของพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่อว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจำต้องตัดทั้งหมด จะปล่อยให้หน่วยงานที่มีที่มาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มาขอใช้งบประมาณไม่ได้ คณะกรรมาธิการไม่ยอมร่วมทำผิดกฎหมายด้วย จึงต้องตัดไว้ก่อนจนกว่ากระทรวงกลาโหมนำกฎหมายไปดำเนินการให้ถูกต้องแล้วจะนำมาพิจารณาใหม่

    ชวน ยืนยันไม่ได้ตำหนิ ผบ.เหล่าทัพ

    ที่สถาบันพระปกเกล้า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นที่เสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ โดยให้โละทิ้ง ส.ว.ที่มาจากผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 6 เหล่าจะเห็นแนวคิดที่สร้างที่กลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง ส.ส.กับ ส.ว.หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ยังแปลกใจอยู่ว่าเรื่องนี้ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ก็ดูอยู่ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน กระทั่งรู้ว่าเป็นการไปเอาความเห็นจากเดิม ซึ่งเป็นการให้ความเห็นนานแล้ว แล้วเอาไปสอบถามคนอื่นๆ เพื่อให้ขัดแย้งกัน เข้าใจว่าส่วนผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เล่นด้วย ส่วนที่ถามว่าเป็นความเห็นเดิมแต่ขณะนี้ยังเห็นสมควรว่าต้องไม่มีหรือไม่นั้น นายชวนกล่าวว่า เป็นความเห็นที่ให้มาไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้งแล้ว อยากให้ไปอ่านคำสัมภาษณ์ฉบับเต็ม เพราะถ้าไปตัดเอาเฉพาะบางคำมา ซึ่งคนอาจเข้าใจผิดว่าไปรังเกียจทหารหรือไม่ แต่เป็นเรื่องที่ให้สัมภาษณ์ในหลักการที่ว่าไม่ควรจะไปกำหนดตำแหน่งใด ส่วนทหาร บรรดา ผบ.เขาก็เป็นคนดี มีความสามารถ แต่ในเชิงประชาธิปไตยไม่ควรไปกำหนดตำแหน่งใด ฉะนั้นจึงไม่ควรมีข้อยกเว้นกับตำแหน่งใด แน่นอนว่าหลักการมันไม่เปลี่ยนเราไม่รับรัฐธรรมนูญตั้งแต่แรกเหตุผลเรื่องหนึ่งคือฉบับนี้ประชาธิปไตยไม่เท่าของอดีต และเรื่องนี้ต้องได้ให้ความเห็นไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้วว่า ไม่เห็นด้วย แต่ไม่ใช่มาตำหนิติเตือนบรรดาเหล่าทัพ

     “เต้”ควง“พิเชษฐ”ยุบฝ่ายค้านอิสระ

      ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา กรุงเทพฯ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย รวมกันแถลงข่าว ยุบฝ่ายค้านอิสระ 2 พรรค เข้าเสริมทัพรัฐบาลลุงตู่ 2 โดยมีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะแกนนำกลุ่มกิจสังคมใหม่ และนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์แถลงข่าวครั้งนี้ด้วย

      นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์และพรรคประชาธรรมไทย ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้จัดตั้งรัฐบาลมา จึงทราบถึงแนวคิดและวิธีการจัดการประเทศอุดมการณ์และความตั้งใจ รวมถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน ที่ต้องทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุขร่มเย็น และการเจริญการให้ได้นั้นจะต้องมีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรให้เกินกึ่งหนึ่งของสภาประมาณ 20-30 เสียง จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว และผิดพลาดน้อยที่สุด ดังนั้นพรรคไทยศรีวิไลย์และพรรคประชาธรรมไทย ที่อยู่ในฐานะฝ่ายค้านอิสระ 2 เสียงจึงมีมติในแนวทางเดียวกันให้ยุบฝ่ายค้านอิสระ ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2563 เพื่อเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล มาอยู่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นกำลังเสริมในการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนต่อไป

      อัยการยื่นอุทธรณ์รวดทั้ง‘กปปส.-นปช.-โอ๊ค’

      วันเดียวกัน นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้กล่าวถึงการพิจารณาอุทธรณ์คดีสำคัญและซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชน ที่มีศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเมื่อช่วงปี 2562 ที่ผ่านว่า สำหรับคดีกลุ่มการชุมนุมการเมืองในส่วนของ 4 แกนนำ กปปส.ชุดแรก ถูกฟ้องร่วมกบฏ, 24 แกนนำ นปช. ถูกฟ้องร่วมกันก่อการร้ายนั้น หลังจากที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องแล้ว พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลสูงได้พิจารณาแล้วยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของ 4 แกนนำ กปปส. ต่อศาลไปแล้ววันที่ 11 ธันวาคม 2562 ส่วนคดี 24 แกนนำ นปช. อยู่ระหว่างการขอคัดถ่ายเอกสารที่มีจำนวนมากกว่า 20 ลัง จึงได้ขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์ต่อศาลอาญาแล้วซึ่งศาลอนุญาตขยายเวลายื่นอุทธรณ์ให้จนถึงวันที่ 10 มกราคม นี้

      นอกจากนี้ในส่วนคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทย กับกลุ่มธุรกิจเครือกฤษดามหานครที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษายกฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายประยุทธ รองโฆษกอัยการ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการขอคัดถ่ายเอกสารเช่นกัน โดยอัยการขออนุญาตศาลขยายเวลายื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิจารณาแล้วอนุญาตให้ขยายเวลายื่นอุทธรณ์จนถึงวันที่ 25 มกราคม นี้

      ส่วนคดีของนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปี อดีตประธาน นปช., นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 54 ปี ประธาน นปช. กับพวกที่เป็นแกนนำ นปช.รวม 24 คนถูกฟ้องร่วมกันก่อการร้าย, ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายฯ ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ, ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในคดีหมายเลขดำ อ.2542/2533 ที่ศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 นั้น อัยการได้ยื่นขอขยายอุทธรณ์มาแล้วถึง 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์เมื่อเดือน ธันวาคม 2562

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ