บิดา'บิ๊กตู่' จากไปหลังรักษาป่วยเส้นเลือดสมองตีบ-สมองเสื่อม

        ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 11.20 น.วันที่ 6 ม.ค.63 ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รีบออกจากทำเนียบรัฐบาลและเดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราชทันที หลังจากคณะแพทย์ซึ่งรักษาอาการป่วยของ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดา ที่รักษาอาการป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและมีอาการสมองเสื่อม มีสติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วนมาก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลานานพอสมควร ทั้งนี้

        แหล่งข่าวคนใกล้ชิดเปิดเผยว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.อ.ประพัฒน์ วัย 97 ปี ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ  

      ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 16.00 น. วันที่ 8 ม.ค. นี้ ที่ ศาลา9 วัดโสมนัสราชวรวิหาร โดยงดรับพวงหรีด

       ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.  2559 เว็ปไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เรื่อง ศาลมีคำสั่งให้ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา เป็นคนไร้ความสามารถ และให้อยู่ในความอนุบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

    โดยมีสาระของประกาศดังกล่าว คือ ด้วย พล.อ.ต.หญิงประกายเพชร จันทร์โอชา ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ พ.อ.ประพัฒน์ เป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของพล.อ.ประยุทธ์ นั้น ศาลได้ไต่สวนพยานหลักฐานของผู้ร้อง พร้อมเอกสารใบรับรองแพทย์ ซึ่งระบุถึงอาการของ พ.อ.ประพัฒน์ ว่าเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ ร่วมกับสมองเสื่อม มีสติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วน ไม่เข้าใจสาระสำคัญของการทำนิติกรรมใดๆ และปรากฎตามเอกสารหมาย ร.4 อาคารดังกล่าว จึงเข้าลักษณะของบุคคลที่ไร้ความสามารถ และพล.อ.ประยุทธ์ ผู้เป็นบุตร ได้ดูแลพ.อ.ประพัฒน์มาโดยตลอด

     ทั้งนี้ พี่น้องได้ให้ความยินยอมตามเอกสารหมาย ร.8 เมื่อพิจารณาเอกสารหมาย ร.4 คำยืนยันของแพทย์โรงพยาบาลศิริราช จึงเชื่อว่า พ.อ.ประพัฒน์ เป็นคนไร้ความสามารถ

      ดังนั้น ตามข้อเท็จจริงที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ดูแลพ.อ.ประพัฒน์ และไม่ปรากฎว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ต้องห้ามตามกฎหมาย ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือต้องห้ามตามกฎหมาย

       จึงเห็นสมควรให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้อนุบาลของพ.อ.ประพัฒน์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 28 โดยได้ประกาศ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2559 ลงนามโดยนายภัทรศักดิ์ ศิริสินธว์ ผู้พิพากษา.