ข่าว

กระแสตีกลับ เกศปรียา ปัด โจมตีรบ. เก็บภาษีผ้าอนามัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กระแสตีกลับเหตุข้อมูลคลาดเคลื่อน เกศปรียา ปัด เล่นการเมืองโจมตีรัฐบาล เก็บภาษีผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แจง แค่ต้องการให้ผ้าอนามัยราคาถูกลง

         นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ  กล่าวว่า  จากกรณีที่ดิฉันออกมาให้ข่าวเรื่องผ้าอนามัย อันดับแรก ดิฉันขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจที่พูดถึงประเด็นนี้ ว่าไม่ได้ต้องการเล่นเรื่องนี้เป็นดราม่าหรือโจมตีรัฐบาล

        " ดิฉันทำหน้าที่ในฐานะเป็นนักการเมือง เป็นปากเสียงประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง โดยคิดว่าผู้หญิงควรได้ราคาผ้าอนามัยที่ถูกกว่านี้ เพราะปัจจุบันในหลายประเทศได้มีการผ่านกฎหมายยกเลิกภาษีผ้าอนามัยแล้ว "

       นอกจากนี้ ยังเป็นการท้วงติงไปยังรัฐบาล เพื่อพิจารณาเปลี่ยนหมวดหมู่ของผ้าอนามัยไปอยู่ในเวชภัณฑ์ หรือหมวดที่เหมาะสมมากกว่าหมวดเครื่องสำอาง เพราะไม่อยากให้ประชาชนต้องแบกรับภาระที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ รวมถึงถือว่าเป็นการช่วยให้สังคมช่วยกันจับตาในประเด็นนี้ด้วย

 กระแสตีกลับ เกศปรียา ปัด โจมตีรบ. เก็บภาษีผ้าอนามัย

        อย่างไรก็ตาม ในกรณีของผ้าอนามัย ที่เป็นสินค้าที่จัดอยู่ในหมวดของเครื่องสำอาง ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย สามารถมีเพดานภาษีได้ถึง 40% นั้น  ซึ่งในส่วนนี้ดิฉันไม่ได้ก้าวล่วงไปบอกว่ารัฐได้จัดเก็บภาษีในส่วนตรงนี้เเล้ว เพียงเเต่เเสดงความเป็นห่วงว่า เพดานภาษีที่ 40%สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยนั้นเป็นปลายเปิดทางช่องกฎหมายที่สำคัญ พรก. ควบคุมราคา 2562 มีอายุความเพียง 1 ปี ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็จะหมดแล้ว

       ทั้งนี้ ในหลายประเทศยังมีการเรียกร้องให้ ผ้าอนามัยเป็นสินค้าปลอดภาษี  หรือ Tax Free เนื่องจากผ้าอนามัยถือเป็นสินค้าที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้หญิง

       ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา จัดให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่ควบคุมราคา ว่า เอาพื้นฐานความรู้อะไรตัดสินใจ ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา คุยนักหนาว่าตนเองอ่านหนังสือเยอะรู้ทุกเรื่อง แต่เรื่องแค่สิทธิพื้นฐานของประชากรสตรีทำไมถึงไม่ทราบ 

นางสาวเกศปรียา กล่าวว่า ผ้าอนามัยไม่ใช่สินค้าเครื่องสำอางหรือสินค้าฟุ่มเฟือยเพราะไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์หามาใช้เพื่อสนองความต้องการทางใจ เป็นสินค้าที่สนองความต้องการทางกายภาพของเพศหญิง ผู้หญิงทั่วโลกไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเกิดมาโดยไม่มีมดลูก และประจำเดือนก็เป็นสิ่งที่ติดมาพร้อมการมีมดลูก ผ้าอนามัยควรถูกมองว่าเป็น ‘สินค้าจำเป็น’ ต่อสุขภาพอนามัย ไม่ใช่คิดแค่ว่าเป็น ‘ความรับผิดชอบส่วนตัว’ ของผู้หญิง

ทั้งนี้ รัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์มองประชาชนเท่าเทียมไม่กดขี่ทางเพศ ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยของทุกเพศ ผ้าอนามัยคือสินค้าจำเป็นกับการดำเนินชีวิตสตรี รัฐบาลควรจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษี หรือแจกฟรีในสถานศึกษาทั่วประเทศ ไม่ใช่มาจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่สามารถเรียกเก็บภาษีได้ถึง 40% โดยไม่ควบคุมราคา ทำให้ในแต่ละเดือนประชากรสตรีต้องมีค่าใช้จ่ายในการในการซื้อผ้าอนามัยที่เป็นสินค้าจำเป็นต่อชีวิต 200- 400 บาทใกล้เคียงกับค่าแรงขั้นต่ำ

   "พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจโดยไม่คิดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของสตรี ต้องการให้ประชาชนสตรีออกไป ‘วิ่งไล่ลุง’ใช่หรือไม่" นางสาวเกศปรียากล่าว

        แต่หลังจากหลังจากน.ส.เกศปรียา โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป  ได้เกิดกระแสตีกลับ โดยได้มีผู้เข้าไปคอมเม้นต์ในประเด็นดังกล่าวเป็นจำนวนมากว่าฟังไม่ขึ้น และตีความไปเอง ก่อนที่จะแถลงข่าวจนเกิดความเสียหาย ควรหาข้อมูลจากราชกิจจานุเบกษา ที่ประกาศให้ “ผ้าอนามัย” เป็นสินค้าควบคุมราคา  อีกทั้งมติ ครม.เมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ตามที่กล่าวอ้าง ไม่ได้มีเรื่องผ้าอนามัยเข้ามาแม้แต่เรื่องเดียว อีกทั้งทางกรมการค้าภายในได้ชี้แจงแล้วว่าไม่ได้มีการเก็บภาษีเพิ่มเติม และยังเป็นสินค้าควบคุม   แล้วโฆษกพรรคไปเอาข้อมูลมาจากไหน ความเสียหาย ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ จะรับผิดชอบอย่างไร อย่าใช้วิธีสร้างข่าวปลอม ใส่ร้ายป้ายสี เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เรื่องไหนรัฐบาลทำผิดก็ด่า แต่ทำถูกก็ควรชม

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ