เวทีฝ่ายค้านปลุก ปชช. ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ธนาธร ชี้ ทางแก้ด้วยเลือด หากผู้มีอำนาจไม่ผ่อนปรนทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
รัฐสภา 14 ธันวาคม 2562 ที่ คณะนิติศาสตร์ กลุ่มพรรคการเมืองร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 7 พรรค ร่วมจัดเวทีเสวนา เรื่อง พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวย้ำถึงความจำเป็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560
เพราะปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง 6 เดือนที่ผ่านมา เกิดจากความพยายามสืบทอดอำนาจและเขียนเนื้อหาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งตนมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนั้นสร้างความฉิบหายให้ประชาชน แม้ที่ผ่านมารัฐบาลเชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันต่างชาติให้ความเชื่อมั่นด้านการค้า แต่พบว่าการทำสัญญาทางการค้าที่มีเงื่อนไขต่อความเป็นประชาธิปไตยของประเทศยังไม่พบการลงนาม เพราะต่างชาติต้องการพิสูจน์ว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยเป็นของจริงหรือไม่ สำหรับประเด็นที่เป็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ คือ ส.ว. จำนวน 250 คน ที่มาจากการแต่งตั้ง , แผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ใช้เป็นกฎหมาย แต่สนับสนุนให้ใช้เป็นแนวทางเท่านั้น
ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังสังคมทุกภาคส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้เข้าใจต่อกระบวนการร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญจากความร่วมมือของประชาชนและขอให้รัฐบาลสละเงินเพื่อทำประชามติ โดยเมื่อถึงเวลาทำประชามติตนขอเสียงประชาชนที่ร่วมออกเสียงให้เป็นคะแนนเสียงแบบถล่มทลาย
นายสมพงษ์ ยังกล่าวให้กำลังใจต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และพร้อมจะต่อสู้ในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า หากพรรคเพื่อไทย (พท.) ช่วยเหลือพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทยอาจถูกยุบ ตนยืนยันว่า ไม่เคยกลัว เพราะเมื่อมาด้วยกันต้องไปด้วยกัน
นายธนาธร กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ร่วมแสดงจุดยืนทางการเมืองและสร้างความสมานฉันท์ที่ทำให้พวกเราเดินหน้าต่อไป และขอบคุณแรงสนับสนุนจากประชาชนทุกคน
ดังนั้น เพื่อตอบแทนประชาชน ตนสัญญาว่าพรรคจะไม่ทรยศต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนมองว่าคือการต่อสู้กับระบอบที่สืบทอดการรัฐประหาร ตั้งแต่ปี 2549 และปี 2557 ที่ฉุดความเจริญของประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ , การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ , การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างความแตกแยก สร้างความเกลียดชัง รวมถึงความระแวงในกลุ่มประชาชนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างทำรัฐประหาร เช่น ปลุกระดม ไล่คนชังชาติ คือ ความพยายามแช่แข็งประเทศไทย
“เราแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหยุดความขัดแย้ง เรื่องอำนาจ ผ่านการจัดสรรอำนาจใหม่ ทั้งฝ่ายองค์กร , ตุลาการ , ฝ่ายบริหาร , องค์กรในสังคม , เอ็นจีโอ เพื่อให้ทุกฝ่ายพอใจ แต่เมื่อปล่อยให้พวกเขาจัดสรรอำนาจ พบเป็นการดึงอำนาจเข้าสู่ตัวเอง
การมีรัฐธรรมนูญใหม่ คือ การสร้างกติกาที่ทุกฝ่ายของสังคมยอมรับร่วมกันไม่ว่าพรรคไหน หรือเป็นกลุ่มพลังทางสังคมกลุ่มไหน ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะเลือกตั้งต้องปฏิบัติตามกติกา ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับ คือ ทางรอดเดียวของประเทศไทย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมมองว่ามี 2 ทาง คือ แก้ด้วยเลือด หรือ แก้ด้วยการยินยอมพร้อมใจจากทุกฝ่าย หากฝ่ายผู้มีอำนาจไม่พร้อมเปิดพื้นที่ หรือผ่อนปรนให้คนเห็นต่าง ดังนั้น คงไม่มีทางเลือกใดให้เหลืออยู่ เพราะเขาเป็นฝ่ายผลักให้เราเลือกทางเลือก” นายธนาธร กล่าว
ทั้งนี้ ตอนท้ายของการกล่าวของนายธนาธรได้ระบุถึงการจัดกิจกรรมชุมนุมที่สกายวอร์กที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำลายความสุขประชาชนช่วงส่งท้ายปีเก่า ว่า “ของขวัญที่ดีที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากการเป็น นายกฯ”
อ่านข่าว - เป๊ปซี่ โพสต์ อนาคตดับ - อนาคตสึก ศิษย์เอกงานเข้าแน่นวล
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญที่ทำได้โดยเร็ว คือ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทิ้ง เพื่อไม่ให้ทุกฝ่ายต้องปวดหัว จากนั้นให้นำรัฐธรรมนูญฉบับที่ทุกฝ่ายยอมรับมาปฏิบัติ จากนั้นใช้เวลา 3 เดือน เพื่อตั้ง นายกฯ อย่างไรก็ตาม ที่ตนระบุว่าฉีกรัฐธรมนูญทิ้งนั้นไม่กลัวจะโดนคดี และที่ผ่านมาไม่เคยถูกเชิญไปปรับทัศนคติ เพราะหากมาเมื่อใดตนยิงทิ้งเมื่อนั้น
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวให้กำลังใจกับนายธนาธร เพราะมองว่าเป็นการต่อสู้เพื่อคนไทยและประชาธิปไตย ส่วนสู้จะติดคุก แพ้หรือชนะ เกิดขึ้นได้ แต่เผด็จการไม่มีวันได้ชัยชนะจากประชาชน
ดังนั้น ประเด็นที่ประชาชนเรียกร้องหาผู้นำ ขณะนี้มีแล้ว ขอให้อย่าให้ใครละทิ้งผู้นำ และขอให้เป็นเวลาของประชาชน ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของ พล.อ.ประยุทธ์ โดย มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อ คสช. ไม่ใช่ประชาธิปไตย และเป็นรัฐธรรมนูญเลว ตนรับไม่ได้ ส่วนระบบเลือกตั้ง มี ส.ว. จากการแต่งตั้ง ถือเป็นระบบสืบทอดอำนาจ และพบว่ามีการซื้อตัว ส.ส. ซึ่งพรรคของตนมีไป 1 คน ส่วนของพรรคนายธนาธรไป 3 คน ดังนั้น ขอเรียกร้องประชาชนให้ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคปวงชนไทย กล่าวยืนยันถึงความร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย นายสงคราม ระบุว่า เมื่อมีรัฐธรรมนูญเลว ย่อมได้ผู้นำที่เลว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง