ข่าว

สุริยะ ลั่น รับผิดชอบเอง ขยายเวลาแบนสารพิษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สุริยะ" ลั่นพร้อมรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น หลังขยายเวลาแบน 2 สารพิษเกษตร ระบุที่ประชุม คกก.วัตถุอันตรายไม่ได้ลงมติแต่เป็นความเห็นร่วมกันที่ไม่มีใครเห็นแย้ง

 

 

          เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 - นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติขยายการแบนสารอันตราย 2 ชนิด ออกไป 6 เดือน และยกเลิกการแบนสารไกรโฟเซต โดยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. จังหวัดอุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่าหลังจากนี้หากเกิดผลเสียขึ้นในเรื่องการแบนสารพิษก็จะให้นายสุริยะรับผิดชอบ ว่า ตนยินดีรับผิดชอบ เพราะเราทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ ซึ่งวันนี้คณะกรรมการทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ เพราะหากให้มีการแบนสารพิษทันทีตามมติ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วจะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งระยะเวลาเพียง 30 กว่าวัน สารที่ตกค้างที่ยังอยู่กับพี่น้องประชาชนที่ประชาชนพี่น้องเกษตร และร้านค้ายังครอบครองอยู่ ตัวเลขรวมแล้วมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ถ้าเราจะห้ามทันทีตัวเลขดังกล่าวเราจะทำอย่างไร จะมีวิธีชดเชยเกษตรกรและร้านค้าอย่างไร

 

          อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทุกคนห่วงใยความปลอดภัยของสุขภาพอนามัย ซึ่งการจะมีมาตรการอะไรต่างๆ นั้น จะต้องมีระยะเวลาให้กับพี่น้องประชาชนและส่วนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เตรียมพร้อม แม้กระทั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ยืนยันจะให้มีการแบนทันทีในที่ประชุมครั้งแรก แต่มาครั้งนี้เมื่อฟังเหตุผลของทุกฝ่ายแล้วก็เลยมีความเห็นว่าจะแบบทันทีไม่ได้ และมีมติให้เลื่อนออกไป

 

          เมื่อถามว่าแต่นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ยืนยันว่าตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมประชุมระบุว่าไม่ได้มีการลงมติ นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะว่าตนได้ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นมติชัดเจนบนจอว่ามติคืออะไร ซึ่งหากไม่ทำอย่างนั้นต่างคนอาจเข้าใจไม่ตรงกัน ซึ่งหากจำไม่ผิดจะให้มีการเลื่อนไปถึงวันที่ 1 มิ.ย. ทุกคนก็เห็นชัดเจน อีกทั้งในที่ประชุมตนได้สอบถามว่ามีใครที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งทุกคนก็ต่างเห็นด้วย อีกทั้งบางคนยังอยากจะให้มีการเลื่อนออกไปให้นานกว่านั้นอีก ทั้งนี้เรื่องการลงมติตนไม่ทราบว่าทางฝั่งโน้นได้ข้อมูลมาจากไหน และให้ไปสอบถามจากกรรมการในที่ประชุมได้เลย

 

         เมื่อถามว่ามติดังกล่าวหลายคนมองว่าเหมือนเป็นการหักหลังมติของพรรคภูมิใจไทย นายสุริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ใช่เป็นมติที่หักหลัง แต่เป็นเรื่องของการทำงานร่วมกัน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งเป็นการห่วงใยสุขภาพพี่น้องประชาชน และตนก็ห่วงใยครอบครัวตัวเองเหมือนกัน หากมันเกิดอันตรายจริงๆ ตนก็คงมีการให้แบน

 

         เมื่อถามว่า มติดังกล่าวถือเป็นการสวนทางตามมติของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสุริยะ ส่ายหัว พร้อมกล่าวว่า นายกฯบอกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูกันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งนายกฯก็ระบุชัดเจนว่ามติเดิมให้จำกัดการใช้ ไม่ใช่การยกเลิกทันที

 

 

          เมื่อถามว่าการลงมติดังกล่าวได้มีการยกเลิกมติเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ก่อนหรือไม่ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ไม่มี เพราะมติวันนี้ระบุให้มีการเลื่อน แต่มติเมื่อวันที่ 22 ต.ค. มีมติให้แบนทันที ซึ่งเรามองว่ามันอาจจะมีปัญหากับประชาชน ทั้งนี้ในส่วนของสารไกลโฟเซตทั่วโลก 161 ประเทศให้ใช้ มีเพียงแค่ 5 ประเทศที่ไม่ให้ใช้ ดังนั้นหากจะไปแบนทันทีจะสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งประเทศสหรัฐฯ และหลายประเทศก็ใช้ ทั้งนี้ผลกระทบจากการแบนทั้ง 3 สารก็จะเกิดขึ้น เช่น ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ที่เรานำเข้าจากสหรัฐฯก็จะต้องยกเลิก เพราะอาจจะมีสารดังกล่าวตกค้างอยู่ ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการทุกคนฟังเหตุผลทั้งหมดแล้ว ที่ประชุมจึงมีมติเอกฉันท์โดยที่ไม่มีการโหวต เพราะทุกคนถามที่ประชุมแล้วว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากใครไม่เห็นด้วยก็ต้องแสดงตนและบอกขึ้นมาได้ จึงไม่มีการนับเสียง ในเมื่อที่ประชุมเห็นด้วยแบบนี้จึงไม่จำเป็นต้องมีการนับเสียง ซึ่งหลังจากนี้จะมีมาตรการโดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดูแล

 

          เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะทำให้มีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา ถ้ารับฟังด้วยเหตุและผล ถ้าเราเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนจะมีการพูดคุยกับแกนนำหรือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยโดยตรงหรือไม่นั้น ส่วนตัวคงไม่มีอะไร  

 

          เมื่อถามว่ามติที่เกิดขึ้นมีการวิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อให้นายทุน นายสุริยะ กล่าวว่า เป็นการเอื้อกับนายทุนคนไหน เพราะในที่ประชุมประเด็นนี้คงไม่มีการเอื้อให้ใคร เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายชาดา และน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนก็ทำหน้าที่ในรูปแบบคณะกรรมการ ตนเป็นประธานก็มีแค่เพียง 1 เสียง ส่วนทางกระทรวงเกษตรฯ ก็มีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เข้ามาร่วมประชุมด้วย ซึ่งทางปลัดกระทรวงเกษตรฯ ก็มีการเสนอให้กลับไปใช้ตามมติเดิมคือการจำกัดการใช้

 

         เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีการพูดคุยกันมานานแล้ว แต่สุดท้ายมาแหกโค้ง นายสุริยะ ย้อนถามว่า “ใครคุยกันตั้งนานครับ”

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ