สันติสุข จัดหนัก ศุภชัย ใครแทรกแซงใคร

        วันที่ 14 พ.ย. 62-  ในรายการ " ขยี้ข่าวเช้า " นายสันติสุข มะโรงศรี  ผู้ดำเนินรายการ ได้พูดถึงเรื่องที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พูดถึงเรื่องการเมืองแทรกแซงสื่อหรือสื่อแทรกแซงการเมืองในสภา ที่ได้พาดพิงถึงบริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป ถึง 3 ประเด็น โดยนายศุภชัย ได้อาศัยสถานการณ์เป็น ส.ส. อภิปรายโจมตี พร้อมกับพาดพิง มาถึง บริษัทเนชั่น ซึ่งที่ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยที่ทางเนชั่น ไม่มีโอกาสชี้แจงในสภา

      นายสันติสุข กล่าวต่อไปว่า   ประเด็นแรก คือเรื่องที่ไปอ้างว่า มีปัญหาเรื่องการเพิ่มทุนเพราะผลประกอบการของตัวเอง แล้วมาอ้างการเมืองแทรกแซง เมื่อวาน( 13 พ.ย.) ผู้บริหารเนชั่น นายสมชาย มีเสน ได้ออกมาแถลงระบุชัด เนชั่น ฐานะ ทางการเงินแกร่ง ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อมูล ที่อภิปรายชี้นำให้สังคมเข้าใจว่า เนชั่น มีปัญหาทางการเงิน โดยเอาตัวเลขมายันนายสมชาย ระบุว่า ตัวเลขขาดทุนลดลง จากเดิมสิ้นสุด 31 มีนา 61 ขาดทุนอยู่ที่ 365 ล้าน มาปัจจุบัน ตัวเลข 31 มีนา 61 ขาดทุน แค่ 71 ล้าน ซึ่งกำลังจะกลับเข้าสู่จุดสมดุลแล้ว ส่วนภาระหนี้เดิมในปี 60 3233 ล้าน ปัจจุบัน เหลือแค่ 297 ล้าน สถานะดีขึ้น พร้อมที่จะลงทุนเพิ่ม แต่การอภิปราย ของคุณศุภชัย กับเป็นการพยายามที่จะโจมตี ด้วยข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง
        ประเด็นที่ 2 คือเรื่องที่พาดพิง ส.ส.ในสภาว่า จริงๆแล้วเป็นเจ้าของหรือไม่ ซึ่งสามารถที่จะตรวจสอบได้ถ้าสงสัย ไม่ต้องมาใช้การอภิปรายแบบนี้

       ประเด็นที่ 3 นอกสภา ถือว่าการเมืองแทรกแซงสื่อหรือไม่ โดยมีการไปเดินสายแจ้งความ ล่าสุดฐานเศรษฐกิจ รายงาน ตำรวจแจ้งนายก - ผบ.ตร. ว่ามีการเดินสายแจ้งความ ดำเนินคดีกับ เนชั่น โดยใช้แบบฟอร์ม รายงานเหตุ อุกฉกรรจ์ - สะเทือนขวัญ ในหลายพื้นที่

      นายสันติสุข  ถามในตอนท้ายว่า  แบบนี้การเมืองแทรกแซงสื่อหรือไม่ ส่วนสื่อแทรกแซงการเมืองหรือไม่? ถามว่านักการเมืองควรจะถูกตรวจสอบหรือไม่ สื่อตรวจสอบการเมืองแล้วจะอ้างว่าเป็นการแทรกแซงได้ไหม หรือว่านักการเมืองผ่านการเลือกตั้งกลายเป็นเทวดาหมด อยู่เหนือการตรวจสอบเลย แล้วก็อาศัยสภาในการโจมตีสื่อด้วย อาศัยเดินสายไปตาม สภ. ต่างๆเพื่อแจ้งความทั้งๆที่สามารถฟ้องให้เป็นคดีเดียวแล้วพิสูจน์กัน แต่ไม่ทำแล้วพฤติกรรมแบบนี้ เป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมแล้วหรือไม่!? สังคมคงจะเห็นมากขึ้นในไม่ช้านี้

              ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 62 ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภา โดยมีนาย ชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และในระหว่างที่ให้สมาชิกได้หารือนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้หารือต่อประธานสภา ถึงเรื่องการเมืองแทรกแซงสื่อหรือสื่อแทรกแซงการเมือง

            โดยกล่าวว่า นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 62 จนถึงเที่ยงวันที่ 13 พฤศจิกายน 62 มีข่าวบอกว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป หรือสื่อเนชั่น ได้มีการแถลงข่าวว่า กลุ่มการเมืองมีการแทรกแซงการประชุม ข่มขู่ กลุ่มผู้ถือหุ้น บางกลุ่มเพื่อคัดค้านการเพิ่มทุน จนไม่สามารถที่จะประชุมได้ ภาพที่ออกเหมือนว่าการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่ในขณะเดียวกัน หนังสือที่บริษัท แจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ได้ระบุเรื่องการเมืองแทรกแซง มีแต่เรื่องเทคโนโลยีคุกคามธุรกิจ จนไม่สามารถทำธุรกิจได้ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จนถึงวันนี้มีข่าวออกมาตลอด ซึ่งพฤติกรรมของซีอีโอ หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารทำให้การเมืองเสื่อมเสีย และตัวท่านเองมีรายชื่อที่เป็น ส.ว.สำรองอยู่ด้วย ตรงนี้จึงถูกตั้งคำถามว่า สื่อแทรกแซงการเมืองหรือการเมืองแทรกแซงสี่อ

         "ความจริงแล้ว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทนั้น เขาไม่ได้มีความประสงค์เพิ่มทุน เพราะเป็นปัญหาเรื่องธุรกิจของตนเอง ตรงนี้เป็นปัญหา ซึ่งเราต้องคิดกัน วันนี้นักการเมืองกลุ่มหนึ่ง ในสภานี้ เป็นอดีดประธานของเนชั่น ขณะที่สามีท่านไปเป็นประธานแทนท่าน จึงไม่รู้ใครครอบงำใคร ใครแทรกแซงใคร ท่านจะเกี่ยวข้องกับเนชั่นหรือไม่ รับทราบการแทรกแซงเรื่องนี้หรือไม่ เรื่อง ส.ส.ถือหุ้นสื่อ กำลังจะมีมาตรฐาน ศาลกำลังจะตัดสินภายในไม่กี่วันข้างหน้า แต่ถ้าคู่สมรส ส.ส. เป็นผู้บริหารสื่อ เป็นผู้มีอำนาจ มีอิทธิพลในสื่อ จะสร้างมาตรฐานกันอย่างไร เพราะฉะนั้นผมจึงขอกราบเรียนต่อประธานสภา ทำหนังสื่อสอบถามไปยัง ซีอีโอเนชั่นว่านักการเมืองที่อ้างถึงคือใคร อ้างลอยๆ แบบนี้เราเสียหาย" นายศุภชัยกล่าว