นายกฯ โว รัฐบาลผลงานเพียบ

"บิ๊กตู่" โว "รบ." ผลงานเพียบ ชี้ ถ้าไม่ทำตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว วันนี้ไม่รู้ประเทศอยู่จุดไหน สั่ง ปรับปรุง ถ่ายภาพติดบัตรปชช. ให้เหมือนตัวจริง ชี้ จะไปซ้าย-ขวา อย่างเดียวไม่ได้

 

           30 ต.ค.2562-ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานและมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลและสัมมนา “หน่วยงานภาครัฐกับความพร้อมไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล”  Digital Government Award 2019 ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล องค์การมหาชน มีหน่วยงานระดับกรมที่ได้รับโล่รางวัลรัฐบาลดิจิทัล จำนวน 10 รางวัล

 

 

           ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย กองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การประปาส่วนภูมิภาค และ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับ ระดับจังหวัด 5 รางวัล ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ลำพูน ระนอง เพชรบูรณ์ และ อุตรดิตถ์ นอกจากนี้ ยังมีรางวัลสนับสนุนนโยบายรัฐบาลตามโครงการยกเลิกสําเนาเอกสารราชการ ให้กับ 60 หน่วยงานด้วย

 

 

 

              จากนั้น นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษ "รัฐบาลดิจิทัล : กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ" ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการปรับเปลี่ยนทุกหน่วยงานให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล เพราะโลกปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไปสู่การเป็นโลกแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งอาจจะเกิดผลกระทบบ้าง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีมาตรการในการรองรับ 
 

 

              "หลายคนบอกว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน ผมต้องเรียนว่าเรามีผลงานเยอะแยะหลายอย่างดีกว่าชัดเจน แต่หลายอย่างอยู่ระหว่างการดำเนินการและเราพยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ทำมาเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา วันนี้ยังไม่รู้ว่าประเทศยืนอยู่จุดไหน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 

 

 

 

              นายกฯ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกๆหน่วยงานที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการยกเลิกใช้สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการบริการประชาชน จะสามารถลดความขัดแย้ง ลดปัญหาการกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชน ความเชื่อมั่นความไว้วางใจในงานภาครัฐจะดีขึ้น ทุกคนทราบดีว่าการเป็นรัฐบาลดิจิทัลนั้นมีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับบุคลากรภาครัฐจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องร่วมมือกัน โดยต้องเริ่มจากการปรับทัศนคติในการทำงานของบุคลากรเกิดความเข้าใจและทุ่มเท นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ลดความซ้ำซ้อน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

 

              โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนองค์กร บุคลากร ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่รัฐบาลดิจิทัลจะประสบความสำเร็จ วันนี้โลกมีการปรับตัวเราก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่เปลี่ยนไม่มีการเตรียมตัว ก็จะอยู่ต่อไปไม่ได้ในโลกใบนี้ วันนี้เราจะไปใช้วิธีการเก่าๆ ไม่ได้อีกแล้ว ต้องมีการพัฒนาตัวเองรวมทั้งมาตรฐานต่างๆรวมทั้งเรื่องการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ การพัฒนาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ทุกคนทราบดีว่าย่อมมีผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมทั้งความท้าทาย รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากดิจิทัล 

 

 

 

 

              นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ทุกประเทศกำลังพัฒนาไปสู่ความเป็นรัฐบาลดิจิทัลในการพัฒนาการบริหารงานภาครัฐ การยกระดับการให้บริการประชาชน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งเรื่องการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว เราไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมได้ต่อไปดังนั้นหลายหน่วยงานจะต้องบูรณาการในการทำงานร่วมกัน 

 

 

 

              พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภาครัฐได้ขับเคลื่อนแนวคิดในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้และบริหารงานในการบริการประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง เช่นโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย หรือยังภาคธุรกิจรัฐบาลก็ได้จัดทำศูนย์กลางข้อมูลติดต่อราชการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ณ จุดเดียว สามารถลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดต่อหน่วยงานราชการ โครงการการยกเลิกการใช้สำเนาเอกสารราชการเพื่อลดภาระประชาชนในการจัดเตรียมสำเนาเอกสารเมื่อต้องการติดต่อขอรับบริการจากภาครัฐ ซึ่งถ้าหลายในงานยังไม่พร้อมก็ต้องขอให้เร่งดำเนินการทุกจุดเพราะประชาชนมีความคาดหวัง

 

 

 

 

 

            ดังนั้น ถ้าจุดใดยังไม่มีความพร้อมก็ต้องมีการรายงานขึ้นมา ผลสุดท้ายก็จะมีการตำหนิรัฐบาลอีกทั้งสังคมโซเชียลก็แรง จึงต้องขอให้เอาใจใส่เพราะถือเป็นการรับฟังข้อมูลจากประชาชนอีกทางหนึ่งว่าเขามีความพึงพอใจแค่ไหน หลายอย่างที่รัฐบาลคิดและทำก็ถูกบอกว่าไม่ได้มีการถามประชาชนเลย แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้มีการสอบถามมาทั้งหมดว่ามีคำแนะนำหรือความต้องการอย่างไร วันนี้ดิจิทัลมีความก้าวหน้าก็ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้เก็บข้อมูลจากฝ่ายราชการเพียงอย่างเดียวต้องดูทั้งหมดรวมทั้งในโซเชียลตามด้วย ต้องดูกฎมายว่ามีบทบัญญัติอย่างไร ต้องเร่งสร้างการเรียนรู้ให้กับประชาชนควบคู่ไปด้วยเพราะความต้องการของมนุษย์ไม่มีวันสิ้นสุด เราจึงจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจควบคู่กันไป

 

 

       

      “ขอฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบทำบัตรประชาชน ให้ปรับปรุงการทำงาน เรื่องการถ่ายภาพประชาชนให้เหมือนกับตัวจริง หลังพบว่า มีการนำบัตรไปใช้กับเครื่องอ่านบัตร แล้วแสดงผลรูปถ่ายที่ปรากฏ ไม่เหมือนกับตัวจริง ส่งผลต่อการตรวจสอบ และใช้บริการที่เกี่ยวข้อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

 

 

 

              นายกฯ กล่าวว่า สำหรับหน่วยงานภาครัฐต้องเตรียมความพร้อมเรื่องบิ๊กดาต้า รับฟังความเห็นจากประชาชน หน่วยงานและโซเซียลนำมาประกอบกัน เอาที่เป็นประโยชน์ บางทีที่ต่อว่าเยอะๆก็เอามาแก้ไขเอา ตนไม่โกรธใครอยู่แล้ว นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะได้ จะเป็นการแสดงความโปร่งใส ลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน 
 

 

              "การทำงานภาครัฐวันนี้เราเดินถอยหลังไม่ได้แล้ว ต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ขณะเดียวกันต้องมีคนเก็บรายละเอียด มีหัวหอกไปข้างหน้า พวกซ้ายขวาก็ต้องดู พวกหางหอกก็ต้องดู เดี๋ยวใครชักหอกไปข้างหลังอีก ทำอย่างไรจะไม่ให้ถอยหลัง บางอย่างแก้ปัญหาแล้วก็ต้องตรึงไว้ ซึ่งทางทหารเรียกว่าตรึงไว้ ส่วนใหญ่เพื่อให้กองกำลังขนาดใหญ่ไปข้างหน้าได้ ถึงได้ต้องมีลานตะเวน มีส่วนล่วงหน้าไปข้างหน้าก่อนเพื่อเคลียร์เส้นทาง นี่คือปัญหาที่เราต้องแก้ แต่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ ก็ต้องแก้ให้เขา เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมเพื่อแก้ปัญหาใหญ่ได้ นั้นคือส่ิงที่เราต้องช่วยกันคิด
 

 

 

              นายกฯ กล่าวว่า รางวัลในวันนี้ถือเป็นกำลังใจทุกคน บางอย่างไม่ต้องให้เงินตอนแทน แต่ให้กำลังใจซึ่งกันและกันสำคัญที่สุด ตนก็ต้องการกำลังใจ ไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว ย่ิงมีปัญหาย่ิงต้องทำ ปัญหาประชาชนต้องเอามาแก้เอามาทำ และต้องสร้างความเข้าใจไปด้วย ซึ่งก็ยากให้คน 70 ล้านคนเข้าใจไปพร้อมกัน ทุกประเทศก็แย่เหมือนกัน วันนี้ทุกคน ประชาชน หน่วยงานภาครัฐต้องร่วมกัน รับผิดชอบด้วยกัน ไม่ใช่กระทรวงโน้นกระทรวงนี้ทำดีเฉพาะตัวเอง แต่เชื่อมกระทรวงอื่นไม่ได้เลย ตนไม่ต้องการให้แข่งขันกันอย่างนี้ ถ้าทุกคนเดินตามมาตรฐานทีละขั้นก็จะโตไปพร้อมกัน ทุกคนต้องรักกัน ถ้าไม่รักกันก็ไปด้วยกันไม่ได้ทุกเรื่อง ขัดแย้งกันก็ไม่ได้อีก ถ้าทุกคนบอกจะไปซ้ายอย่างเดียว หรือขวาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาวิธีการร่วมมือกันอย่างไรเดินไปข้างหน้า เรื่องใดที่เป็นความขัดแย้งต้องหยุดไว้ก่อน คุยกัน ค่อยๆคลีคลายไป แต่ส่ิงที่จะร่วมมือกันไม่ว่าใครที่เป็นคนไทย ต้องไปให้ได้ ถ้าเอาซ้ายเอาขวาเอาตัวเองมายึด ประเทศเดินไม่ได้ และปัญหาก็ตามเยอะแยะ และทยอยตามมาอีก