อนค.แตก อดีตผู้สมัคร ส.ส.-สมาชิกพรรค กว่าร้อยคนแห่ลาออก

            รายการเจาะลึกทั่วไทย  inside thailand   หัวข้อ ทีมเมืองชลแตก ...บทพิสูจน์อนาคตใหม่  ได้สัมภาษณ์ นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส  อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 พรรคอนาคตใหม่ ถึงกระแสข่าว  อดีต ผู้สมัคร ส.ส. แยกตัวจากพรรคอนาคตใหม่  โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า  ตามกำหนดการเดิม วันที่ 22 ต.ค.นี้  อดีตผู้สมัคร ส.ส. ทุกเขตทั่วทุกภาคของพรรคอนาคตใหม่ ประมาณ 50 คน และสมาชิกพรรคอีกจำนวนหนึ่ง จะไปยื่นลาออกจากพรรคอนาคตใหม่  ที่สำนักงาน กกต. แต่ต้องเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีกลุ่มสมาชิกพรรคที่ต้องการลาออกมาสมทบ ดังนั้นเมื่อรวมอดีตผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรคที่ต้องการลาออกจากพรรคอนาคตใหม่ เกินกว่าร้อยคนแน่นอน 

        “สำหรับในจังหวัดชลบุรี จะมีอดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่จำนวน 3 คน คือ เขต 2 ตน , เขต 3  ภูวนาถ กาศสกุล และเขต 4  สมชาย เนื่องจำนงค์  ลาออกจากพรรคอนาคตใหม่ ”

       นายนิพนธ์  ยังบอกถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกจากพรรคอนาคตใหม่ว่า  พวกเราเป็นกลุ่มบุกเบิก แต่หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม  พรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่พรรคการเมืองที่พวกเราเคยร่วมงานกันมา โครงสร้าง วิธีการทำงาน  แนวคิดมีความแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เราเข้ามาในพรรคอนาคตใหม่เพราะพวกเราศรัทธาในเรื่องความเท่าเทียม  

        “ แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาอยู่พรรคอนาคตใหม่ กลายเป็น“รัฐซ้อนรัฐ ”  การบริหารจัดการของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้เท่าเทียม แต่เป็นเรื่อง “พวกใครพวกมัน” พรรคและหัวหน้าพรรค เคยให้สัญญาว่า ส.ส.สอบตก ทุกคน จะได้เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วย หรือผู้เชี่ยวชาญ ส.ส. ตามความสามารถของแต่ละคน  แต่กลายเป็นว่า ตอนนี้คนที่ได้ทำงานพวกนี้ กลายเป็นว่า พวกของใคร ทำให้ ส.ส.สอบตก  ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ช่วย ส.ส. ทุกคน  ได้เป็นเพียงบางส่วน นอกจากนี้ในการไปลงพื้นที่ต้องขออนุญาตศูนย์จังหวัดของพรรคอนาคตใหม่ ถ้าไม่อนุญาตก็ลงพื้นที่ไม่ได้  ทั้งที่เป็นพื้นที่ที่เราคลุกคลีหาเสียงในพื้นที่ของเรามาตลอด   แต่กลับต้องบอกศูนย์จังหวัดของพรรคตลอดว่าเราต้องไปทำอะไรที่ไหน  อย่างไร  ทั้งที่เราสามารถออกแบบการทำงานในพื้นที่ของเราเองได้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สอบตก ที่ทำงานในพื้นที่หวังที่จะต่อสู้ในการเลือกตั้งรอบหน้า ทุกคนมีความศรัทธาที่จะร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ แต่การกำหนดกฎเกณฑ์การลงพื้นที่ว่าต้องแจ้งให้ศูนย์จังหวัดทราบ  ปัญหาอยู่ที่ว่า ศูนย์จังหวัดกับอดีตผู้สมัคร ส.ส. สอบตก ทำงานด้วยกันไม่ได้ และเป็นอย่างนี้เกือบทั่วประเทศ เพราะว่าคนที่มานั่งเป็นหัวหน้าศูนย์ ก็คือ คนจากไทยซัมมิท ” 

          นายนิพนธ์  ยังกล่าวอีกว่า  ส่วนระดับเลือกตั้งท้องถิ่น อย่าง นายก.อบจ. ยกตัวอย่างที่จังหวัดนนทบุรี มีการตั้งคณะกรรมการสรรหา แต่หัวหน้าพรรคบอกว่า ได้อำนาจพิเศษจากกรรมการและมติพรรค ทำให้คณะกรรมการสรรหาไม่ได้ทำหน้าที่ แล้วจะมีการประกาศตั้งคณะกรรมการสรรหาทำไม 

         “  โดยสรุปก็คือ ที่พวกเราลาออกมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในพรรคทั้งสิ้น”