"กุลธิดา" ส.ส.อนาคตใหม่ติงงบศธ.ไม่สมดุล ไม่เหมาะสมกับครู-นักรียน แนะเจียดงบกลาง3หมื่นล้านอุดช่องโหว่ เพิ่มรายหัวอาหารกลางวัน30บาทโดยเทงบจากมท.1.8 หมื่นล้าน
วันที่ 18 ตุลาคม 2562 - วันที่สองของการประชุมสภาผู้แทนราษฏร เพื่ออภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงินงบประมาณจำนวน 3.2ล้านล้านบาท และเมื่อเวลา 10.24 น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายฯเจาะลึกการจัดสรรเงินงบประมาณใส่ส่วนของกระทรวงศึกษาธิการพร้อมมีการแสดงเอกสารและกราฟฟิกประกอบ ในทุกช่วงของการอภิปรายฯได้เป็นอย่างดี
น.ส.กุลธิดา กล่าวว่า งบการศึกษาสะท้อนปัญหา 5 แผลใหญ่ และ 1 แผลเรื้อรัง ซึ่งภาพรวมงบการศึกษาคิดเป็น 11.5 เปอร์เซ็น ถือว่ารองจากงบกลาง โดยสัดส่วนที่ลดคิดเป็น 0.1 เปอร์เซ็น นอกจากนั้น งบ 2563 รวมแผนบูรณาการ 1 แสนกว่าล้าน และ 1 พันกว่าล้านบาท เกี่ยวกับแผนการเรียนรู้ หรือคิดเป็นหนึ่งสลึงที่ใช้เท่านั้น ถ้าเทียบสัดส่วนการลงทุนประเทศ 20 เปอร์เซ็น แต่ลงทุนกับเด็กเพียง 6 เปอร์เซ็น
น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สพฐ. ที่กำกับดูแล งบก้อนใหญ่สุดถูกใช้กับบุคลากร เกือบ 4 หมื่นล้านบาท ตัวอย่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ในการดูแลเด็กอาชีวะ แต่ได้ 7 เปอร์เซ็น ของงบทั้งหมด ซึ่งนายกฯ เคยบอกว่า อาชีวะสร้างชาติ แต่งบต้องสะท้อนความจริงใจ ดังนั้น งบเท่านี้ไม่ทันต่างประเทศ ทีดีอาร์ ประเมิน ให้เทียบเท่าสิงคโปร์ ต้องใช้เงิน 4.4 หมื่นล้านบาท
แผลที่สอง พบโครงการสร้างภาระงานครู 3.5 พันล้านบาท อย่าง โครงการพัฒนาเผยแพร่ติดตามการใช้กฎหมาย และใช้เงินไม่มีประสิทธิภาพ 3,500 ล้านบาท ไปกับโครงการพัฒนาดิจิทัล เพราะมีแต่เบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะเท่านั้น รวมทั้งโครงสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ควรอยู่ในกระบวนการจัดการโรงเรียน มากกว่าการแยกออกมาเป็นโครงการ
แผลที่สาม เงินถึงตัวเด็กจริงหรือไม่ เพราะงบ สพฐ. 2.9 แสนล้าน ถึงเด็กเพียง 1 ใน 7 เท่านั้น โดยงบเด็กไทยคงที่มาตลอด 10 ปี ตั้งแต่ปี 2533 แม้ว่าดัชนีสินค้าสูงขึ้น 12 เปอร์เซ็น ในปัจจุบัน โดยคำนวนเงินจากเด็กป.6 ที่ได้รับ
และแผลที่สี่ จัดสรรเหลื่อมล้ำ โรงเรียนเน้นวิทย์ จะได้รับเงินอุดหนุน 4.3 แสนบาทต่อคน แต่โรงเรียนทั้วไป ได้รับเงินอุดหนุนต่อหัวเพียง 3 แสนบาท เทียบเท่ากับรถอีโคคาร์ จำเป็นต้องได้รับสัดส่วนรวมถึงคุณภาพใกล้เคียงกัน ทำให้เกิด 5 แผลเรื้อรัง คือ คุณภาพการศึกษาลดลง สะท้อนจาก โอเน็ต สอบตกครึ่งประเทศเกือบทุกวิชา ยกเว้นภาษาไทย
อย่างไรก็ตาม พบว่าจากการที่ คสช. เข้ามา งบที่ใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาลดลงต่อเนื่อง ซึ่งไม่เห็นด้วย ยกตัวอย่าง สิงคโปร์ แม้จำนวนประชากรลด แต่กลับให้งบลงทุนการศึกษามากขึ้น เพราะมองเห็นโอกาสพัฒนาบุคลกรให้ตอบโจทย์อนาคต โดยอัดฉีดเข้าสู่ระบบการศึกษา
ดังนั้น เสนอวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเกี่ยวการศึกษาไทย เพื่อวิ่งทันคุณภาพปัจจุบัน โดยเจียดงบกลาง(กว่า 5แสนล้านบาท) จำนวน 3 หมื่นล้านบาท ไปยังโรงเรียนขนาดเล็ก 1.5 หมื่นโรง และใกล้เคียงขนาดเล็กหมื่นโรง และอาชีวะเพื่อใช้จ่ายลงทุนกับวัสดุอุปกรณ์ในการพัฒนาฝีมือ
ส่วน 3.5 พันล้านบาท ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ นำเข้าสู่กองทุนเสมอภาคการศึกษา เพราะมีเด็ก 2.3 แสนคนเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา สามารถนำเงินไปช่วยได้ถึง 1.5 แสนคน งบประมาณหน้าอุดหนุนเพิ่มให้นักเรียน 4.5 หมื่นล้าน เพื่อให้เด็ก อนุบาล ประถม มัธยม
"โดยควรนำมาจากกระทรวงมหาดไทย 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาจัดสรรเพิ่มเงินรายหัวอาหารกลางวันให้เด็กรายละ 30 บาท ดังนั้น ส่วนตัวจึงไม่สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ดังกล่าว เพราะไม่จัดสรรให้เกิดคุณภาพต่อการศึกษาได้" น.ส.กุลธิดา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง