สนนท. บุก ทบ. จัดรำลึก 14 ตุลา

 

 

          เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 62 - ที่ หน้ากองบัญชาการกองทัพบก สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมมายังบริเวณเกาะกลางถนนหน้ากองทัพบก มี พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เข้าชี้แจงระเบียบการชุมนุมและพื้นที่การชุมนุมให้ทราบ โดยระบุว่าขอให้ย้ายมาแขวนป้ายผ้าที่บริเวณเกาะกลางถนน แทนการแขวนป้ายผ้าที่รั้วของกองทัพบก เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการจะเข้าไปดำเนินการอะไรมิได้

 

 

          นายพริษฐ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา แม้จะผ่านไป 46 ปี แต่มองว่าเผด็จการยังไม่ตาย และพยายามที่จะกินรวบประเทศไทย วันนี้จึงได้เตรียมกิจกรรมและข้อความมารำลึกถึงเหตุการณ์ ซึ่งจะต้องเป็นกองบัญชาการกองทัพบก การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการรำลึกถึงการทำรัฐประหาร ที่เกิดจากกองทัพ เพราะนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นอดีต ผบ.ทบ. รวมถึงกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาให้ความเห็นทางการเมืองค่อนข้างรุนแรง ซึ่งมองว่า ในนานาประเทศหากผู้นำเหล่าทัพออกมาให้ความเห็นทางการเมืองจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากกองทัพควรจะวางตัวเป็นกลางทางการเมือง และอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงมองว่า ไม่ว่าเหตุการณ์แบบ 14 ตุลาจะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง ถ้าไม่นำกองทัพออกจากการเมือง ก็ไม่สามารถโค่นล้มเผด็จการออกจากสังคมไทยได้ 

 

 

          ทั้งนี้ ทางกลุ่มได้นำป้ายมาติดไว้บริเวณแผงเหล็กบริเวณเกาะกลางถนน หน้ากองบัญชาการกองทัพบก โดยมีข้อความป้ายว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” และนำนกพิราบกระดาษ 14 ตัวมาแสดงความรำลึก พร้อมร้องเพลงพิราบขาว และอ่านคำรำลึกด้วย ว่า ประเทศชาติ ประชาชน จะยืนยง ความมั่นคง ของชาติอยู่ตรงไหน บัญญัติไว้ว่าอำนาจอธิปไตย ล้วนเป็นของคนไทยทุกๆ คน เมื่อผู้นำกองทัพป่าวประกาศ ความมั่นคงของชาติเริ่มสับสน ประชาชนอยากมีสวนปกครองตน ใช้เหตุผลใช้ช่องทางอย่างควรเป็น 

 

          แค่เห็นต่างทางความคิดผิดยันโคตร ถูกกล่าวโทษต้องคดีทุกข์แสนเข็ญ หรือต้องอยู่เพียงในกรอบคิดไม่เป็น ห้ามแสดงความคิดเห็นอื่นใดๆ ประชาชนมิได้เป็นภัยต่อชาติแต่เป็นภัยต่ออำนาจผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อกองทัพไม่อยู่เคียงข้างคนไทย ก็เป็นภัยต่อความมั่นคงของปวงชน

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากทำกิจกรรมเสร็จสิ้นก็แยกย้ายกันเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาดูแลความสงบเรียบร้อย.