ข่าว

บิ๊กแดง ชี้ ไทยตกสภาวะสงครามลูกผสม Hybrid Warfare

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บิ๊กแดง ชี้ ไทยตกสภาวะสงครามลูกผสม ซัด พวกคอมมิวนิสต์เก่าสมคบกลุ่มซ้ายจัด ไร้จรรยาบรรณ ล้มสถาบัน สร้างโฆษณาชวนเชื่อ แสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว 

น.ส.จิตตราภรณ์ เสนวงค์

        เมื่อวันที่ 11 ต.ค. เวลา 10.00. น.ที่หอประชุมกิติขจร กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษในหัวข้อแผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง" ว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่กับ Hybrid Warfare หรือ สงครามลูกผสม หมายถึง      สงครามที่ใช้การผสมผสานกันของเครื่องมือ ทั้งจากสงครามตามแบบและสงครามไม่ตามแบบ ซึ่งไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นทฤษฎีและไม่ใช่สิ่งที่อุปโลกน์ขึ้นมาแต่ถูกศึกษาทำเป็นทฤษฎีจากประสบการณ์จากประเทศต่างๆ ที่ล่มสลายไป

       Hybrid Warfare หรือ สงครามลูกผสม ประกอบด้วย แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ Regular Military Forces คือ กองกำลังของรัฐบาล  คือ กำลังทหารปกติที่รักษาเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ และ Special Forces คือ กำลังทหารรบพิเศษ ใช้ต่อต้านการก่อการร้ายและปฏิบัติการรบในสงครามนอกรูปแบบ  ส่วนที่ 2 คือกองกำลังของฝ่ายตรงข้ามคือ Lrregular Forces คือ กลุ่มกองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร เช่น กลุ่มก่อการร้าย การก่ออาชญากรรม มวลชน การต่อต้านอำนาจรัฐหรือกลุ่มที่เข้ามาว่างระเบิดใน กทม. 8 จุด และไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ ตนไม่ได้พูดเพื่อท้าทาย และที่ตนพูดครั้งนี้จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบจากสังคมโซเชียล แต่อย่าทำร้ายประเทศ ซึ่งตนอยากให้ทุกคนได้รู้เท่าทันว่า Hybrid Warfareเกิดขึ้นแล้วในประเทศ

          พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า Support Of  Local unrest คือ การสนับสนุนจากประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งหมายรวมประชาชนทั่วไป รวมถึงต่างประเทศในโลก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ไม่ได้  ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนในท้องถิ่น เช่น นักการเมืองระดับชาตินักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น เศรษฐีบริจาคเงินให้ไปทำกิจกรรมทำเว็บไซต์ หรือ แหล่งข่าวให้กับฝ่ายตรงข้าม InFormation WarFare

         Propaganda คือ กลุ่มสงครามข่าวสารข้อมูลและการโฆษณาชวนเชื่อ ถือเป็นเรื่องใหญ่ของทั่วโลก แต่สำกรับประเทศไทยหนักมาก น่าห่วง การโฆษณาชวนเชื่อที่สำคัญ ที่เป็นกลุ่มคอมมิวนิสต์ ที่ไม่ได้กลับตัวกลับใจ ยังมีแนวความคิดล้มล้างระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ประเทศไทยเป็นรูปแบบคอมมิวนิสต์ คนพวกนี้อายุมากแล้ว ไม่ออกตัว

      แต่เป็นมาสเตอร์มายด์ คือ นักวิชาการ ถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่นและผนึกกำลังร่วมพวกอาจารย์ นักวิชาการ ที่ไร้จรรยาบรรณ

ปลูกฝังนักเรียนสิ่งที่ผิด เด็กก็ต้องเชื่อ

        "ซึ่งเป็นความคิดของกลุ่มคอมมิวนิสต์เดิม ที่อยู่ในฐานะมาสเตอร์มายด์กับครูอาจารย์อาจารย์ที่ไปเรียนต่างประเทศ เป็นพวกซ้ายจัดและเรียนในประเทศที่เคยล่าอาณานิคมที่ยึดประเทศไทย เอาความคิดผสมผสานรวมกัน สร้างโฆษณาชวนเชื่อ แล้วนำแนวความคิดของตัวเอง ผ่านโซเชียล ทั้ง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ออกข่าวลวงเฟคนิวส์หรือแม้แต่การสร้างสัญลักษณ์เพื่อให้เป็นที่จดจำ เช่น เสื้อเหลือง เสื้อแดง ชู 3 นิ้ว" ผบ.ทบ.กล่าวและว่า Diplomacy คือ ทูต คือการใช้บุคคลระหว่างประเทศ องค์กรอิสระเพื่อยกระดับเหตุการณ์และความสำคัญของกลุ่มตัวเองขึ้นมา เช่น การนำฝรั่งมาถ่ายรูปที่หน้าโรงพัก หรือนำมายืนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้เห็นว่าเป็นสากล และมีความรุนแรง  Cyber Attacks คือการโจมตีด้านไซเบอร์ และ Economic Warfare คือสงครามเศรษฐกิจ เช่นสงครามการค้าของจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจ หรือประเทศเล็กๆ ก็ย่อมมีคนจน ซึ่งการทำให้คนในประเทศรวยเท่ากันนั้นยากแต่การทำให้คนในประเทศจนเท่ากันนั้นง่ายซึ่งเป็นแนวความคิดของคอมมิวนิสต์

        พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่ประเทศบ้านเมืองเกิดภัยพิบัติหรือเกิดความวุ่นวาย คนที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง แกนนำคนสำคัญหนีกันไปหมด ปล่อยให้ลูกน้องติดคุกติดคดีขึ้นศาลคนที่มาร่วมชุมนุมก็กลับไปจนเหมือนเดิม อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง  แกนนำพรรคเพื่อไทย รู้จักและสนิทกับตน มาตั้งแต่รุ่นพล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่หนีไปต่างประเทศว่าลำบากแค่ไหน ลูกก็ต้องมาลำบาก กว่าจะกลับมาประเทศไทยได้ อยู่ต่างประเทศไม่ได้สบายและไม่มีเงิน

           "ที่พูดมาทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเชื่อผมแต่ขอถามว่าปัญหาเรื่องความมั่นคงจะให้ใครแก้นักวิชาการหรืออาจารย์ที่คบคิดกับพวกคอมมิวนิสต์ร่วมกับนักเรียนนอกซ้ายจัดดัดจริต ที่ไปเรียนมาจากประเทศที่ล่าอาณานิคมอบรมสั่งสอนไร้จรรยาบรรณ ชอบอ้างเลข 2475 ชี้นำอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยแต่ว่ามีวาทกรรมจาบจ้วงหรือเลือกกลุ่มนักการเมืองที่มุ่งหาประโยชน์ส่วนตัว เพื่อพวกผองและยังมีนักการเมืองบางคนใน 3 จชต.ที่เคยเกาะแข้งเกาะขานายทหารใหญ่ที่เป็นพ่อของผมตั้งพรรคการเมืองมาจนบัดนี้เป็นใหญ่เป็นโต นำเรื่องศาสนาและแบ่งแยกดินแดนมาเป็นเครื่องมือ เพื่อหาเสียงหรือเชื่อกลุ่มนักการเมืองที่เป็นผึ้งแตกรังลูกพี่ใหญ่หนีคดีไปต่างประเทศหรือจะเชื่อนักธุรกิจที่เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง ชีวิตไม่เคยลำบากเหมือนพวก "ฮ่องเต้ซินโดรม"  เคยชุมนุมร่วมกับคนเผาบ้านเผาเมืองสมคบคิดกับชาวต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน เจาะพฤติกรรมล้างสมองคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นฐานให้กับตนเข้าสู่การเมือง ล้มล้างชาติ สถาบัน"

     พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า 3 กลุ่มที่พูดมา ไม่ผิดที่จะเป็นผู้นำประเทศและเป็นได้ และไม่ใช่ประเทศไทยไม่เคยมี 3

กลุ่มประเภทนี้มาเป็นผู้นำประเทศ แต่ขอถ้าเขาเหล่านั้น ไม่ส่อพฤติกรรมล้มล้างสถาบัน เปลี่ยนแปลงการปกครอง หาประโยชน์ส่วนตนเชิญมานำประเทศชาติเกิดความเจริญ แม้ความคิดเห็นต่างแต่ถ้าไม่แบ่งแยกดินแดน ทหาร ตำรวจ จะยืนเคียงข้าง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ