ข่าว

(คลิป) ฝ่ายค้านฟอร์มทีมซักฟอกงบฯความมั่นคง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝ่ายค้านไม่โหวตหนุนงบฯ 63 แค่อยู่เงียบๆ ก็คือไม่คัดค้านแล้ว จัดทีมซักฟอกปมเทงบให้งานความมั่นคงมากกว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ค้านซื้อยุทโธปกรณ์ แต่ต้องไม่เว่อร์

 

7 ตุลาคม 2562 สถาบันพระปกเกล้า ห้องรำไพพรรณี  นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563  

 

โดยยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่ยกมือสนับสนุนให้รัฐบาล  ที่ผ่านมาจากประสบการณ์การเป็นส.ส.มา 30 ปี ไม่เคยเห็นส.ส.ฝ่ายค้านไปยกมือสนับสนุน แต่จะใช้วิธีการอยู่เงียบ ๆ  ไม่คัดค้านอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องที่ ส.ส. จะต้องยกมือเห็นด้วยทั้งหมด 500 คน แตกต่างจากกรณีเสนอตั้งกรรมาธิการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ส.ส.ทั้งหมดเห็นด้วย

 

ส่วนตัวคิดว่าการที่ฝ่ายค้านไม่ยกมือให้คงไม่ถึงขั้นทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯไม่ผ่าน แต่ต้องดูที่ข้อเท็จจริงจากร่าง พ.ร.บ.งบฯที่ผ่าน คณะรัฐมนตรีในวันนี้ ซึ่งถ้าไม่ผ่านมาจริงๆก็เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาว่าจะแสดงความรับผิดชอบ แต่ไม่ทราบว่าท่านจะรับผิดชอบหรือไม่ เพราะหลาย ๆ ครั้งที่นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบก็ไม่ได้รับผิดชอบ แต่ส่วนตัวเห็นด้วยว่า ถ้าหากร่าง พ.ร.บ.งบฯไม่ผ่านประชาชนก็จะเดือดร้อน เพราะเมื่อมีงบประมาณก็จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน มีการใช้จ่ายจากการลงทุนสร้างถนนและเส้นทางต่างๆ แต่ที่ผ่านมาไม่ทราบว่าหมุนเวียนอย่างไรเศรษฐกิจจึงไม่ดีขึ้น จนต้องมีการแจกเพื่อให้เงินหมุนเวียน

 

"เท่าที่ทราบเบื้องต้นงบประมาณที่ออกมากลับไปให้ความสำคัญในด้านความมั่นคงมากกว่าด้านเศรษฐกิจที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน ทำมาหากินลำบาก แต่กลับเอาเงินไปซื้อยุทโธปกรณ์ต่างๆมากมาย  ผมพูดเช่นนี้ไม่ขัดข้องกับการซื้อยุทโธปกรณ์แต่ควรเป็นไปอย่างพอเหมาะพอดี ไม่เว่อร์จนเกินไป อย่างเรือดำน้ำซึ่งผมก็ไม่เห็นด้าย เราซื้อยุทโธปกรณ์เพื่อป้องกัน ไม่ได้ไปสู้รบกับใคร" ผู้นำฝ่ายค้านกล่าว

 

นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านได้เตรียม ส.ส.สำหรับอภิปรายงบประมาณแล้ว โดยจะแบ่งออกเป็นด้านๆ อาทิ ด้านสังคม เกษตร การเมือง  ส่วนตัวเห็นว่าการพิจารณาเพียงแค่ 2 วันอาจไม่เพียงพอ อาจจำเป็นต้องขยายออกไปเป็นวันที่ 3 เพราะปัจจุบันรายละเอียดของงบประมาณมีมากกว่าในอดีต  และยังต้องตรวจสอบไปถึงที่มาของงบประมาณ จึงต้องใช้ระยะเวลาในการสอบถามมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจาก 5 ปีที่ผ่านมา ที่ประชาชนไม่ค่อยได้รับทราบ พ.ร.บ.งบฯเข้าสภาฯก็พิจารณากันแค่ 3 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าได้พิจารณารายละเอียดหรืออ่านแค่เพียงหน้าปก

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ