ธนาธร เชื่อถูกแจ้งความม.116 ทำไม่ถูกใจผู้มีอำนาจ

 

 

           6 ต.ค.2562-พรรคอนาคตใหม่จัดกิจกรรม  "มาสิครับผมจะเล่าให้ฟัง"  เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีที่พรรคเปิดรับสมัครสมาชิก โดยมีหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้บรรยาย ขณะที่บรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนพรรคเดินทางมาร่วมกิจกรรม จนเต็มห้องประชุม ชั้น 5 อาคารที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่

         

 

 

               โดยนายธนาธรให้สัมภาษณ์ระบุว่า กิจกรรมในวันนี้จัดขึ้นเพื่อครบรอบหนึ่งปีของการรับสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จึงอยากเชิญชวนสมาชิก แบบรายปีที่หมดอายุลงในวันนี้มาต่ออายุสมาชิก นอกจากนี้วันนี้ยังตรงกับวันสำคัญของประวัติศาสตร์ การเมืองในประเทศไทย ก็คือเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หวังว่าสังคมไทยจะไม่ลืม เพื่อเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก  ขณะเดียวกันใน 1 ปีที่ผ่านมานั้นพรรคอนาคตใหม่ ได้กระทำผิดพลาดในเรื่องต่างๆในหลายๆเรื่อง คงจะต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆที่ผ่านมา เพื่อสร้างพรรคที่แข็งแกร่ง มุ่งหวังเดินหน้าทำงานในสภาและการเลือกตั้ง การเมืองท้องถิ่นต่อไป

              นายธนาธรย้ำว่าการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ จะช้าจะเร็วก็จะเดินทางไปถึงวันนั้นอยู่แล้ว รัฐบาลไม่อาจจะ ทัดทานเสียงของประชาชนได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาตั้งแต่ที่มาและเนื้อหา ถ้าหากแก้ไข รัฐธรรมนูญไม่ได้ประเทศก็จะไม่เดินต่อไปข้างหน้าได้

 

              เมื่อถามถึงกรณีที่แกนนำ 7พรรคร่วมฝ่ายค้าน เดินทางแจ้งดำเนินการเอาผิด กอ.รมน. เมื่อเช้านี้ จากกรณีที่ถูก กอ.รมน. แจ้งความตามมาตรา 116 นาย ธนาธร บอกว่า คดีตามมาตรา 116 หรือว่าการยุยงปลุกปั่น ให้เกิดความแตกแยกเป็นคดีความที่ร้ายแรง ที่ในต่างประเทศโดยปกติเขาจะไม่ใช้กัน กับเวทีสัมมนา  ซึ่งครั้งที่ผ่านมา 7 พรรคฝ่ายค้าน ได้จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความไม่เป็นประชาธิปไตย ที่อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ย้ำว่าเป็นการรณรงค์อย่างสันติ ส่วนตัวเชื่อว่ายังไงคดีนี้ก็ไม่มีความผิด 

 

             นายธนาธรบอกอีกว่า แม้ว่าคสชจะหายไปจากการเลือกตั้งแต่ก็มีบางส่วนยังแฝงอยู่ในรูปแบบของกอ.รมน. ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่มีอำนาจเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปกอ.รมน.ด้วย  ซึ่งการมองความคิดของประชาชนเป็นศัตรู ไม่สามารถทำให้ประเทศชาติปรองดองได้  ทั้งนี้ในส่วนของคดีความ ครั้งนี้ก็ไม่แตกต่างจากทุกๆครั้งที่ผ่านมา เมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้ว ขณะนี้จะไม่มีมูลแต่อย่างใด ส่วนตัวมองว่ามูลเหตุจูงใจนั้นเกิดจาก การกระทำผิด ต่อความถูกใจของผู้มีอำนาจ จึงทำให้ มีการฟ้องร้อง 7 พรรคฝ่ายค้าน อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นสถานที่มาของอำนาจของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หากไม่แก้รัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถล้มเผด็จการได้

 

            เมื่อถามถึงการชู การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ที่เกิดขึ้นในเวทีที่เป็นประเด็นนั้น นายธนาธรย้ำว่า เรื่องมาตรา 1 เป็นความเห็นของนักวิชาการ ที่อยู่ร่วมเวทีส่วนตัวมองว่าทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพ ที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญและเสนอการแก้ไขในแบบฉบับ ของตัวเอง ตามช่องทางของรัฐธรรมนูญ และเรื่องนี้ฝ่ายค้านก็ได้บอกไปชัดเจนแล้ว ว่า 7 พรรคฝ่ายค้านไม่มีการเสนอให้แก้ไข หมวด 1 กับหมวด 2 ในรัฐธรรมนูญ

 

          ส่วนการปรับรูปแบบในการเดินหน้ารณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นเวทีปราศรัย จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ทำให้ถูกมองว่าเป็นการปลุกระดมอีกหรือไม่ นายธนาธรมองว่า รูปแบบเวทีจะมีหลายอย่าง ต้องให้มีการพูดคุยกันอีกครั้งในฝ่ายค้าน ถึงรูปแบบที่เหมาะสม ทั้งนี้ยืนยันไม่เห็นรูปแบบเวทีและเสวนาเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด เป็นเพียงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น