ร้องศาลรธน.สั่งยุติเคลื่อนไหวแก้รธน.60

“สนธิญา” ร้องศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการเคลื่อนไหวแก้ไข รธน. 60 วอนฟังเสียงปชช.ต้องการให้นักการเมืองแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก พร้อมยื่นหนังสือต่อกกต.ลาออกจาก “รปช.” ไปสังกัด พปชร.

          เมื่อวันที่ 4 ต.ค.62 นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัครส.ส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย เปิดเผยว่า ตนได้ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลมีคำวินิจฉัยสั่งการให้ยุติการดำเนินการเคลื่อนไหวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในทุกประเด็น เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้มีการทำประชามติ และผ่านความเห็นชอบจากประชาชนกว่า 16 ล้านคน การเคลื่อนไหวต่างๆของ 7 พรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งบุคคลอื่นๆ ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนเกือบ 16 ล้านคน ที่ให้ความเห็นชอบกับรัฐธรรมนูญ 2560 โดยก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 62 แต่เมื่อครบ 15 วัน ตนกลับไม่ได้รับคำตอบจากอัยการ จึงขอใช้สิทธิร้องตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

          นายสนธิญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ระบุถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรียกร้องให้ประชาชนลงมาบนถนน และยังพูดที่ จ.มหาสารคาม ระบุอีกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เฮงซวยทุกมาตรา รวมถึงกรณีที่นักวิชาการคนหนึ่งพูดที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีรัฐเดียว นั่นหมายความว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดที่ 1 มาตรา 1 ที่ระบุว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ซึ่งตนเห็นว่ากรณีเหล่านี้น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 และมาตรา 49

          "รัฐธรรมนูญทุกฉบับมีข้อดีข้อเสีย ผมอยู่ในรัฐธรรมนูญ 2540 ที่หลายคนระบุว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่ก็ถูกแก้ไข ผมจึงอยากบอกกับพรรคการเมืองเห็นใจประชาชน เพราะโพลล์สำรวจความคิดเห็นที่ออกมาทุกสำนักชี้ว่า ประชาชนต้องการให้นักการเมืองแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติเป็นหลัก เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญค่อยๆ ว่ากันไป จะแก้ไขตรงไหนค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง ขอให้เป็นไปตามกระบวนการคือการทำประชามติ" นายสนธิญา กล่าว

          นายสนธิญา เปิดเผยด้วยว่า ในวันนี้ตนได้มายื่นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอลาออกจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมีความประสงค์ที่จะไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเห็นว่ามีอุดมการณ์และการทำงานที่ตรงกับตน แม้ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ก็ตาม นอกจากนี้ยังเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนซื่อสัตย์ การบริหารงานที่ผ่านมา 4-5 ปี แม้เศรษฐกิจจะมีปัญหาแต่เรื่องการทุจริตน้อยมาก.