จาก กูเกิล ถึง สวยและมีสมอง

 

              เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 62 เวลา 09.00 น. ที่ ทำเนียบรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม. ก่อนการประชุม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำคณะผู้บริหารเข้าพบ นายกฯ เพื่อเสนอผลงานและผลงานที่ประสบความสำเร็จจากการบ่มเพาะธุรกิจวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Technology Business Incubation: TBI) อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ ที่ได้คัดเลือกมา 7 ผลงานโดดเด่นจากอุทยานวิทยาศาสตร์ 7 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ที่เป็นผลงานที่มีศักยภาพในการแข่งขัน และตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน

 

 

 

              อาทิ ผู้ประกอบการที่จัดทำระบบการจัดการขยะรีไซเคิล นวัตกรรมพลาสติกชีวภาพเพื่อสิ่งแวดล้อมจากกากกาแฟที่สามารถย่อยสลายได้ 100% (NU Bio Bags) การที่พัฒนาเทคโนโลยีการปลูกผักพร้อมทานในบรรจุภัณฑ์ นวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงสังคม เช่น บริษัท ไทรส์ อีทีซี จำกัด ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของเกษตรกรกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อลงทุน ผลิต แปรรูป ยกระดับและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ กาแฟ ชา เป็นต้น​

              ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องดูแลคนระดับฐานรากให้มากขึ้น การที่จะทำให้ฐานรากมีรายได้มากขึ้น ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ต้องทำให้ครบระบบ ถ้าทำแบบเดิมราคาก็ไม่ได้ อย่างผลิตภัณฑ์ที่นำมาวันนี้ตนเห็นก็ดีใจ ถ้าเอาวัสดุหลือใช้มาทำให้เกิดเมืองสีเขียว ส่วนปัญหาเรื่องที่ดินที่อาจจะออกโฉนดไม่ได้ แต่จะไปดูจะทำประโยชน์อะไรได้ไหม อย่างการปลูกกาแฟใต้ต้นไม้ใหญ่ นี้คือสิ่งที่รัฐบาลดูแลให้ลงรายละเอียดข้างล่าง ถ้าทำลอยๆ เอาเงินไปให้ก็ไม่ได้อะไร ต้องดูการใช้เงินให้เหมาะสม ให้ถูกต้อง บางทีก็เข้าใจยาก บางครั้งมันก็ยากในการทำ แต่ผลออกมามันคุ้มค่ากว่า ไม่อย่างนั้น บ้านเราก็เจอปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมอยู่อย่างนี้ เราต้องหาวิธีการปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้สอดคล้องกับธรรมชาติ

 

 

              นายกฯ กล่าวว่า สถาบันต่างๆ หรือมหาวิทยาลัยต่างๆ จะต้องทำเพื่อประเทศชาติ ยังไม่ใช่เวลาของเรา เวลานี้เราต้องทำหน้าที่ของเรา คือการเรียนหนังสือ ต้องพัฒนาตัวเองและต้องดูว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่างเรื่องอีอีซี ที่ต้องการบุคลากร สถาบันการศึกษาก็ต้องไปดูอะไรที่เขาต้องการ เราก็ไปเรียนสาขานั้น อาจจะเรียนยากบ้าง เพราะหากเรียนในเรื่องง่ายๆกันหมด เราก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เว้นแต่ว่าเราเรียนไม่ไหวจริงๆ ก็ว่ากันไป ถ้าเรียนไหวและมีพรสวรรค์ ก็ต้องหาตัวเองให้เจอ เพราะส่วนใหญ่เราจะเรียนตามเพื่อนก็ทำให้คิดไม่เป็น ใครที่พูดเก่งๆ พูดโน้มน้าวคนได้ก็ต้องดูว่า สิ่งที่พูดนั้นมีประโยชน์อะไรกับตัวเรา สังคม ประเทศชาติหรือไม่ วันนี้อยากให้ทุกคนกลับมาทั้งในเรื่องนี้ และเรื่องศาสนา เพราะสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก เราไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลง สังคมก็ไปเลย ตนว่าประเทศชาติต้องมีหลักชัย

              พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อในโซเชียลมีเดียก็แรง เราก็ต้องช่วยกันลดความขัดแย้งต่างๆ ที่ตนบอกว่าการใช้โซเชียลมีเดีย กูเกิล ยูทูบให้เกิดประโยชน์เท่านั้น ที่บอกไม่ใช่พวกเราไม่ใช้ แต่ส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้กดดูในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อย่างเว็บไซต์หน่วยงานราชการก็ไม่ได้เข้าไปดู พอไม่ได้กดเข้าไปดูก็ไปร้องขอ ที่จริงเขาบอกไว้แล้ว แต่ตัวเองไม่ได้ไปดูเอง ตรงนี้ต้องสร้างหลักคิดของประเทศ เพื่อให้ปัญหามันออกไป ไม่ใช่ปัญหาเกิดขึ้นทุกวัน เพราะคนคิดกันคนละอย่าง บอกให้เปิดกูเกิลก็เปิดกันอยู่แล้ว เพราะคนไทยใช้เว็บไซต์มากกว่า 90 ล้านเครื่อง เปิดกว่าร้อยเว็บไซต์ สร้างสตอรีของเราว่าดีอย่างไร คนจะได้เรียนรู้ ตนต้องการแค่นี้แหละ แต่จะไปใช้เรื่องบันเทิงก็ไม่ได้ห้าม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายกฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับคณะที่นำผลงานมาแสดง และได้หันไปพูดกับเด็กนักศึกษาหญิงจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มาขอถ่าย "อย่างนี้เขาเรียกว่าสวยและมีสมอง"

 

 

 

              นายกฯ ได้กล่าวถึงค่าฝุ่นละออง​ขนาดเล็ก​ PM 2.5​ ว่า​ วันนี้สถานการณ์​ดีขึ้น ลดจำนวนลงเยอะมาก​ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอากาศ​ ถ้าอากาศนิ่ง​ ฝุ่นละอองก็สะสม​เพราะเรายังมีการใช้รถยนต์​อยู่ทุกวัน​ ซึ่งเมื่อวานนี้​ นายศักดิ์​สยาม​ ชิด​ชอบ​ รมว.คมนาคม​ ก็ได้ไปดูเกี่ยวกับ​เรื่องรถสาธารณะ​และรถยนต์ทั้งหมดที่ก่อมลพิษ​ควันดำ​ ซึ่งอีกไม่กี่ปีข้างหน้า​ ประเทศเราต้องใช้มาตรฐานไอเสียระดับยูโร​ 6 อนาคตประเทศเราต้องเดินแบบนี้​ วางขั้นตอนไว้​ ไม่ใช่แค่ทำวันนี้แล้วทุกคนพอใจ​ จบ​ มันไม่ใช่​การพัฒนาประเทศในทางที่ยั่งยืน​

              นายกฯ กล่าวว่า ทุกวันนี้ต่างประเทศ​ใช้วิธีนี้ทั้งหมด​ คือทำไปทีละขั้นตอน​ ประเทศไทยอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยน​ และต้องทำทุกอย่างให้ยั่งยืน​ ไม่ใช่ทำอะไรแบบลอยๆ​ เอาเงินให้แล้วจบ​ก็ไม่ได้อะไรออกมา​ จำเป็น​ต้องใช้เงินให้เหมาะสมและถูกต้อง​ แต่ยอมรับว่าบางครั้งก็เข้าใจยาก​ และอาจจะยากในการทำ​ แต่ผลที่ได้กลับมาคุ้มค่า​ ไม่เช่นนั้นประเทศจะเจอปัญหาซ้ำเดิม​ ภัยแล้งน้ำท่วม​ เราต้องหาวิธีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับธรรมชาติ​และสถานการณ์​ที่เปลี่ยน​แปลงไป​ ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์​ เพราะวันนี้รัฐบาลเป็นรัฐบาลเทเลอร์เมด (tailor made)

              พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวถึง​การบริหารจัดการน้ำ​และการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ว่า​ ดีใจที่ได้รู้ว่าขณะนี้น้ำในกว๊านพะเยาขึ้นมาเต็มแล้ว​ ก่อนหน้านี้เป็นห่วง​​ เพราะทราบจากการรายงานว่าน้ำน้อยลง​ ในส่วนของการเยียวยาและการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภั​ย​ ขณะนี้​ กระทรวงคมนาคมได้​เร่งดำเนินการซ่อมแซม​ถนนหนทางต่างๆ​ มีการจัดสรรงบประมาณ​ลงไปแล้ว​ ซึ่งใช้เยอะมากพอสมควร

 

 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- บิ๊กตู่ เปิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย พรุ่งนี้

- บิ๊กตู่ โดนแล้วชูป้ายประท้วงระหว่างปาฐกถา

- บิ๊กตู่ เตือนอย่าขึ้นราคาอาหารเจ ให้เป็นไปตามกลไกปกติ

- บิ๊กตู่ ระบุตีความกันเองคนไทยใช้กูเกิ้ลไม่เป็น

- ธนาธร จวก บิ๊กตู่ เหยียดหยาม ปชช.