ข่าว

ศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ช.สอบ เหล็กไหล-พระเครื่อง ส.ส.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ช.สอบ คฑาเทพ -มงคลกิตติ์ แสดงบัญชีฯ เหล็กไหล-พระเครื่อง สร้างมูลค่าลวงหรือไม่ เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่

         วันนี้เวลา 13.09 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องให้ไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัยกรณีการแสดงรายการทรัพย์สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ราย คือ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หน.พรรคพลังไทยรักไทย และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หน.พรรคไทยศิวิไลย์ ซึ่งได้แจ้งรายการทรัพย์สินต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโคตรมหาเหล็กไหลที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้าน มหาเหล็กไหล มูลค่า 300 ล้านบาท อุกกาบาต 10 ล้านบาท และพระเครื่องต่าง ๆ อาทิ พระกริ่งปวเรศทองคำ 50 ล้านบาท พระสมเด็จวัดระฆัง 40 ล้านบาท พระสมเด็จไกเซอร์ 30 ล้านบาท ฯลฯ ซึ่งอาจเป็นการจงใจยื่นบัญชีด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ
       

          กรณีดังกล่าว เป็นที่สงสัยและวิพากษ์วิจารณ์กันของสังคมไทยเป็นอย่างมากว่า มูลค่าทรัพย์สินต่าง ๆ ดังกล่าว เป็นการสร้างมูลค่าลวงขึ้นมาหรือไม่ ซึ่งอาจเข้าข่าย “ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย” ตามนัยยะของ ม.3(5) ของ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 ซึ่งนักการเมืองอาจใช้เป็นข้ออ้างในการฟอกเงินเพื่อผ่องถ่ายทรัพย์สินแบบหลอกๆไปเป็นเงินสดในอนาคต หากมีเงินสดหรือทรัพย์สินอื่นงอกเงยขึ้นมาเกินกว่ารายรับที่พึงมีในขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็จะใช้เป็นข้ออ้างได้ว่าได้จำหน่ายพระเครื่องหรือวัตถุมงคลดังกล่าวออกไปในราคาแพงตามที่ตั้งมูลค่าไว้ เป็นต้น
          สมาคมฯจึงนำความมาร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ออกระเบียบหรือกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบมูลค่าทรัพย์สินประเภทต่างๆดังกล่าวของนักการเมือง เพื่อปิดช่องโหว่ของการเลี่ยงบาลีในการแสดงบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งหากนักการเมืองไม่สามารถแสดงหลักฐานใบรับรองมูลค่าของทรัพย์สินต่างๆได้ ก็สามารถชี้ได้เลยว่าเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ  หรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และ 2)ขอให้ป.ป.ช.ไต่สวน สอบสวน และวินืจฉัยการกระทำของ 2 ส.ส. ข้างต้นว่าเป็นการฝ่าฝืน ม.109 วรรคสาม ประกอบ ม.114 ของ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 หรือไม่ และหากพบว่าเป็นการฝ่าฝืน ให้ดำเนินการเอาโทษตาม ม.167 คือ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท .หรือทั้งจําทั้งปรับต่อไป นายศรีสุวรรณ  กล่าวในที่สุด

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ