เลื่อนถกกระทู้"ถวายสัตย์""ประยุทธ์"ยันไม่มีเจตนา

 

 

          นายกฯย้ำปมถวายสัตย์เรียบร้อย ยันไม่มีเจตนากระทำผิด สภาฯเลื่อนถกกระทู้ "ปิยบุตร" ด้าน “สมพงษ์”ยันเดินหน้าจี้ถาม ขณะที่ “นาที” ขอขยายเวลาอุทธรณ์ปมปกปิดบัญชีทรัพย์สิน 43 วัน อ้างเพิ่งได้รับคำวินิจฉัย-ขอเวลาศึกษา

 

          ความเคลื่อนไหวหลังที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินวันนี้ มีมติรับคำร้องที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอให้พิจารณาและส่งเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครองวินิจฉัยว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161

 

          วานนี้(7ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “เดี๋ยวคงเรียบร้อยนะ เพราะผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ผิด เขาดูกันที่เจตนา”

          ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินรับคำร้องกรณีดังกล่าว มองว่าเป็นสิ่งที่ดี ส่วนที่มีการตั้งกระทู้ถามในสภาฯ เขาจะถามใครและบุคคลนั้นก็เป็นผู้ตอบ ซึ่งถ้าถามนายกรัฐมนตรี นายกฯ ก็ต้องตอบโดยตนเอง หรือคนอื่นๆ อยู่ในฐานะที่ไม่รู้มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไปพูดและกระพือกันไปเอง แต่นายกฯ ก็ยืนยันในส่วนของนายกฯ ส่วนที่มีการมองว่าเรื่องนี้อาจลุกลามและกระทบต่อรัฐบาล อาจจะเป็นความเข้าใจของใครบางคน ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา

          วันเดียวกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานที่ประชุม ในช่วงหารือก่อนเข้สู่วาระ นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับผิดชอบต่อการกระทำ กรณีที่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญกำหนด เนื่องจากสังคมทั่วไปมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม 

          รวมถึงมองว่ากรณีดังกล่าวอาจถือเป็นการกระทำที่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินและให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลับมามีอำนาจอีกครั้ง

          ฝ่ายค้านยันเดินหน้ายื่นกระทู้จี้ถาม
          ความเคลื่อนไหวพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ภาคใต้ ช่วงที่มีการประชุมสภาฯ ซึ่งฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสด เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อนายกฯ​ไม่มาตอบกระทู้สดด้วยตนเอง อาจต้องเลื่อนออกไป ทั้งนี้กรณีดังกล่าวคงจะไม่ถึงขั้นที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกรณีสถานะของคณะรัฐมนตรี

          ส่วนเดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค พรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะดำเนินการเคลื่อนไหว หรือรณรงค์ในประเด็นที่แตกต่างกันได้ แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านยังมีจุดร่วมเดียวกันคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

          ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เดินทางเข้าสภาฯ แต่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ จะเป็นแกนหลักในการตั้งกระทู้ถามเรื่อยๆ ไปจนกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมาตอบเอง เพราะมีความชัดเจนแล้วว่ามีความผิดจริง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถที่จะหลบหนีจากการเข้าประชุมสภาฯ ได้ 

          อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกมายอมรับแล้วว่า กำลังหาทางแก้ไขอยู่ ส่วนจะฟ้องต่อศาลหรือไม่ขอหารือกับทางพรรคก่อน เพราะถึงแม้ไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน แต่ถือเป็นเรื่องใหญ่ของสังคม

          “เรืองไกร”ยื่นอสส.ชงศาลรธน.ตีความ
          ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตทีมกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นหนังสือถึงนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถ้อยคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 และไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย ในวันที่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

          ทั้งนี้ การไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อาจจะถูกดำเนินคดีอาญาได้ด้วย ซึ่งตนก็ได้ยื่นคำร้องที่ ป.ป.ช.มาแล้ว จึงมายื่นคำร้องขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในเรื่องมาตราดังกล่าวจะเห็นได้จากที่พรรคของตนได้ถูกยุบไปแล้วก่อนหน้านี้

          วันเดียวกันนายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ ประธานคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ภาคประชาชน พร้อมคณะ ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อ 50,000 รายชื่อ ถึงประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

          “นาที”ขอขยายอุทธรณ์คดี43วัน
          นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมสภาฯ กรณีการยื่นอุทธรณ์คดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมศาลฎีกา หลังถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท แต่โทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ว่า ได้ให้ทนายความยื่นขอขยายเวลาการอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเป็นเวลา 43 วัน

          ทั้งนี้ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ในหมวดที่ 6 มาตรา 60 กำหนดให้ผู้ต้องคำพิพากษาใช้สิทธิอุทธรณ์ ต่อที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา เนื่องจากเพิ่งได้คำตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงต้องขอเวลาศึกษาว่าจะยื่นอุทธรณ์อย่างไร สำหรับเหตุผลการยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้ ต้องการขอความเมตตาจากศาล ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน

          ขณะที่ น.ส.จุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) หลัง ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และขอลาออกจากการเป็นส.ส.