ข่าว

นายกฯ"เปิดประชุมรมว.ต่างประเทศอาเซียน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯ"เปิดประชุมรมว.ต่างประเทศอาเซียน ชี้ไม่สามารถบรรลุผลได้เพียงลำพัง ต้องเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจานอกภูมิภาค  

 

31 กรกฎาคม 2562  ที่โรงแรมเซนทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 

 

โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และประเทศที่ได้รับเชิญ อาทิ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี สาธารณรัฐเปรู ราชอาณาจักรนอร์เวย์ สาธารณรัฐตุรกี และสมาพันธรัฐสวิส เลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมงาน
 
         
โดยนายกฯ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 โดยจุดเริ่มต้นของอาเซียน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2510 ด้วยการลงนามปฏิญญากรุงเทพ ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนปีนี้ มุ่งมั่นที่จะสร้างประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และก้าวไปสู่อนาคต ภายใต้กรอบแนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” เพื่อจะสร้างประชาคมให้เติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ โดยจะร่วมมือร่วมใจกับหุ้นส่วนนอกภูมิภาคขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
 

 

นายกฯ"เปิดประชุมรมว.ต่างประเทศอาเซียน


         
นายกฯ กล่าวว่า อาเซียนได้สร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่สำคัญหลายประการ ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ การสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ โดยในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ผู้นำในอาเซียนได้ร่วมรับรองวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันเปิดตัวคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน ภายใต้โครงการจัดตั้งระบบโลจิสติกส์ฉุกเฉินสำหรับใช้ในกรณีเกิดภัยพิบัติของอาเซียน ที่เรียกว่าศูนย์เดลซ่า (DELSA) และดำเนินการยกระดับศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนเป็นองค์กรของอาเซียนอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงร่วมรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน
 
         
นายกฯ กล่าวว่า อาเซียนไม่สามารถบรรลุผลได้เพียงลำพัง แต่ต้องเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาอาเซียน และประเทศนอกภูมิภาค รวมทั้งเปิดรับความร่วมมือกับภาคีใหม่ๆ สะท้อนได้จากการเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ในฐานะประธานอาเซียน

 

โดยได้นำเสนอผลลัพธ์การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1. การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อเปิดโอกาสให้เข้าถึงเงินทุน 2. การลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างเมืองและชนบท ควรจะต้องนวัตกรรมเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อน 3. การอนุรักษ์และฟื้นฟู สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาขยะทางทะเล การปรับตัว และ 4. การพัฒนาทุนมนุษย์ คือสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งเรื่องการศึกษา การพัฒนาทักษะ และการพัฒนาระบบสาธารณสุข 
 
         
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างโอกาสที่ดี ที่เราจะสร้างความต่อเนื่องจากการประชุมต่างๆ เพื่อสร้างผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม จากประเด็นข้างต้นใน 3 แนวทาง ดังนี้ 1. การใช้ประโยชน์จากกลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ และความร่วมมืออาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติให้อาเซียน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนอาเซียนทุกคน 2. การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกัน ด้วยการใช้ประโยชน์จากแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนฉบับปัจจุบันกับยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่าง ๆ นอกภูมิภาค ในมิติต่าง ๆ 


นายกฯ กล่าวว่า 3. การเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาค ด้วยการเชิญชวนให้มิตรประเทศ ทั้งประเทศใหญ่ และประเทศเล็ก มาร่วมมือบนหลักการของ 3M ด้วยการสร้างบรรยากาศที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เคารพและเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายระหว่างกัน และมุ่งสู่ผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้ง การร่วมกันแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติวิธี เพื่อจะสร้างและธำรงค์สันติภาพเพื่อความมั่นคงในภูมิภาค สมตามเจตนารมย์ของเราในการก่อตั้งอาเซียน
 
         
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนหวังว่าหวังว่าการประชุมในครั้งนี้ จะถือเป็นโอกาสที่ได้ทบทวนความมุ่งมั่นร่วมกันนี้ และเส้นทางตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางในการแสดงเจตนารมย์ร่วมกัน สู่แนวทางปฏิบัติและสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่ดีกับมิตรประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศและภูมิภาค และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดขึ้นได้ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ 

         
“ไม่มีประเทศใดเดินได้เพียงลำพัง เราอยู่บนโลกใบเดียวกัน เราต้องเดินไปด้วยกัน รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน เพราะไม่ว่าจะผืนดิน ผืนน้ำ และอากาศ เป็นของคนทั้งโลก ของคนทุกประเทศ ซึ่งในอาเซียนเราต้องร่วมมือกันนำพาประเทศของเราไปสู่อนาคตที่มั่นคง ยั่งยืนตลอดไป ด้วยความมีสันติภาพ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ