ข่าว

 "แก้วสรร"ออกบทความ "อุตตม"เคลียร์ "ปมคดีกรุงไทยปล่อยกู้"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 อดีต คตส."แก้วสรร"ออกบทความ "อุตตม" เคลียร์ชัด "ปมคดีกรุงไทยปล่อยกู้"  แนะฝ่ายค้านหยุดเรื่องนี้ได้แล้ว

        วันที่ 29 ก.ค. 62 นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตส.)  ได้เขียนบทความอธิบายคดีกรุงไทยปล่อยกู้กลุ่มกฤษดามหานครและ สาเหตุที่คตส.ในขณะนั้นที่ไม่ชี้ว่านายอุตตมมีความผิด โดยบทความดังกล่าวให้ชื่อว่าเรื่อง “มลทินทุจริตเงินกู้กรุงไทยของรัฐมนตรีคลัง” เป็นลักษณะ ถาม-ตอบ 

   

     โดยเริ่มจากคำถามที่ว่า คดีเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยให้เอกชนกู้เงินโดยทุจริตไปกว่า 9 พันล้านบาท ที่มีนายอุตตม สาวนายน  รมว.คลัง ร่วมเป็นกรรมการบริหารพิจารณาอนุมัติเงินกู้อยู่ด้วย แต่กลับรอดคดีไม่ติดคุกเหมือนคนอื่นเขานั้น  และนายอุตตม  ได้อ้างในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ตอบข้อสงสัยของฝ่ายค้านในเรื่องนี้ว่า คตส.ตรวจสอบนายอุตตมแล้ว และยกข้อกล่าวหานั้น เป็นความจริงหรือไม่  ซึ่งนายแก้วสรร ตอบว่า  จริง  เนื่องจาก คตส.ไม่พบหลักฐานว่านายอุตตมร่วมกระทำผิดด้วย

      จากนั้นได้มีการถามต่อว่า นายอุตตม ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารพิจารณาเงินกู้อยู่ด้วย แล้วทำไมรอดไป 2 คน ผิดแค่ 3 คนเท่านั้น

      นายแก้วสรร ตอบว่า การปล่อยเงินกู้ครั้งนี้  ผิดสามจุดด้วยกัน คือ บอกวงเงินรีไฟแนนซ์เป็นเท็จ เงินที่ต้องใช้ซื้อหนี้จากธนาคารกรุงเทพ เพื่อเอาที่ดินแปลงใหญ่รอบสุวรรณภูมิที่ติดจำนองมาลงทุนพัฒนาเป็นมหานครนั้น ยอดจริงแค่ 4 พันล้านบาทเท่านั้น แต่กลับยื่นคำขอกู้และได้เงินเกินไปกว่า 3 พันล้าน ตรงนี้หมกเม็ดไม่มีการตรวจสอบให้ถูกต้องมาตั้งแต่แรก ในข้อมูลการประชุมของคณะกรรมการบริหารก็ไม่ปรากฏความจริงนี้เลย แล้วนายอุตตม จะผิดได้อย่างไรเมื่อไม่ได้รู้เห็นด้วย

   ต่อคำถามที่ว่า   แล้วเรื่องผู้ขอกู้เป็นลูกหนี้เอ็นพีแอล ระเบียบห้ามไว้แล้วว่าให้กู้ไม่ได้ แล้วยังขืนให้กู้กันไป

    นายแก้วสรร ตอบว่า  ก็เหมือนข้อแรก คือปกปิดกันมาตั้งแต่ตรวจสอบคำขอแล้ว ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจึงไม่ปรากฏข้อมูลนี้

    ถามอีกว่า   แล้วจุดที่สามที่ว่าผิดนั้น คืออะไร

    นายแก้วสรร ตอบว่า   ผิดตรงการปล่อยเงิน เมื่อธนาคารกรุงไทยจะซื้อหนี้จากธนาคารกรุงเทพ แต่ธนาคารกรุงไทยไม่ส่งเงินรีไฟแนนซ์ให้ธนาคารกรุงเทพโดยตรง กลับออกเช็คให้ลูกหนี้เอาเงินไปให้ธนาคารกรุงเทพเอง จนลูกหนี้ได้เงินในมือเกินจริงไปกว่า 3 พันล้าน จุดนี้เกิดภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่เป็นจุดที่แสดงชัดเจนมากว่า ต้องมีการสมคบกันของคนในธนาคารมาตั้งแต่ต้นจนจบ

   ถามต่อว่า  ในสามจุดนี้ คตส.จึงเชื่อว่าคนนอก 2 คน ที่เป็นเพียงกรรมการบริหารประเภทอิสระมาประชุมตามนัดหมายเท่านั้น ไม่รู้เห็นด้วย

    นายแก้วสรร ตอบว่า ครับ คตส.มองอย่างนั้น หลักฐานทำให้เชื่อว่า กรรมการบริหาร  3 คน ที่เป็นประธานบริหาร,เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองฝ่ายตรวจสอบ 3 คนนั้น เป็นผู้มีอำนาจแท้จริงในธนาคาร แล้วสั่งการลงมายังข้างล่าง ทั้งขาเข้าขาออก จนทำงานผิดระเบียบกันหมด  และศาลอาญาแผนกคดีนักการเมือง ก็เชื่ออย่างนี้เหมือนกัน ถึงได้ลงโทษทั้งคนกรุงไทย บนยอดสุด 3 คน และคนข้างล่างอีก 22 คน ส่วนนายอุตตมและกรรมการอิสระอีกคนหนึ่ง เป็นแค่คนนอก ทั้งสองคนมิได้รู้เห็นด้วย ทั้ง คตส.,ปปช.และอัยการจึงเห็นตรงกันว่า มิได้กระทำผิด

     ถามอีกว่า   นายอุตตม ไม่ได้ถูกกันเป็นพยานหรือ

      ตอบ ไม่ครับ เขาไม่ผิดมาตั้งแต่แรก และกลับเป็นพยานปากสำคัญที่กล้าระบุว่างานนี้มีผู้ใหญ่ในที่ประชุมคนหนึ่งบอกว่า “ซุปเปอร์บอสส์"สั่ง

     ถาม ตอนนี้ทั้งซุปเปอร์บอสส์และลูก เลยโดนคดีอยู่ในศาลคนละคดี

    ตอบ ก็ต้องรอดูกันว่า ศาลจะเห็นว่าซูปเปอร์บอสส์คือนายทักษิณใช่หรือไม่ ส่วนนายอุตตมนั้น ผมเห็นว่าเขาเคลียร์ได้หมดแล้ว

    ถาม เห็นทุกวันนี้ฝ่ายซักฟอกยังยืนยันติดใจอยู่ว่า คุณอุตตมได้มีมติอนุมัติเงินกู้ด้วย และภายหน้า ถ้าความแตกจนพ้นตำแหน่งเมื่อใด มติ ครม.ที่คุณอุตตม ร่วมพิจารณาด้วยก็จะเป็นโมฆะหมด

    ตอบ ข้อติดใจข้างต้นนี้ มาจากความไม่รู้กฎหมายทั้ง  2 ข้อ คือ 1. เมื่อมีการสมคบกันทำผิดแบ่งงานกันทำ กฎหมายอาญาจะลงโทษเฉพาะคนที่ร่วมรู้เห็นด้วยเท่านั้น คดีนี้นายอุตตมไม่รู้เห็นด้วยในการปกปิด บิดเบือนระเบียบเขาจึงไม่ผิด ข้อที่เขายืนยันว่าได้ทักท้วงแล้วว่าโครงการเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังมีคนไม่เชื่อว่าเป็นความจริงนั้น ข้อโต้แย้งตรงจุดนี้จะจริงหรือไม่ ก็ไม่เป็นสาระเพราะการปล่อยกู้ครั้งนี้มิได้ทุจริต ผิดตรงที่ว่า ไปปล่อยกู้ให้โครงการอีเดียตขายฝัน 2. ในภายหน้า ถ้าเกิดมีคดีฟื้นมาขึ้นศาลรัฐธรรมนูญจนศาลตัดสินว่าคุณอุตตมขาดคุณสมบัติรัฐมนตรีเมื่อใดคำพิพากษาก็จะมีผลไปในอนาคต ไม่อาจมีผลย้อนหลังมาทำลายมติ ครม.ได้เลย ข้อวิตกว่าคุณอุตตมไม่ควรเข้าประชุม ครม.จึงไร้เหตุผล

     มาถึงตรงนี้ ผู้ถาม จึงพูดขึ้นว่า  ผมพึ่งเข้าใจวันนี้เองว่า ตามกฎหมายข้อ 1 นั้น รัฐมนตรีอุตตมจะอนุมัติด้วยหรือไม่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ

    นายแก้วสรร ตอบว่า   ครับ...ต่อให้เป็นโครงการดีมีความเป็นไปได้จนรัฐมนตรีอุตตม อนุมัติไป เขาก็ไม่ผิดอยู่ดี เพราะความผิดมันอยู่ตรงที่ทุจริตปกปิดปล่อยกู้เกินจริง ผิดระเบียบเป็นสำคัญ ซึ่งรัฐมนตรีอุตตมเขาเป็นกรรมการคนนอก ก็ไม่รู้เห็นด้วยอยู่ดี

     ถาม ทำไมหลังจากเขาอภิปรายกันแล้ว อาจารย์ถึงเพิ่งจะออกมาพูดในข้อนี้

     ตอบ ผมเป็นแค่ คตส.ทำคดีนี้ ไม่ควรแทรกแซงการซักฟอกของสภาเขา จนเมื่อยุติไปแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจสาระสำคัญของคดีกันอยู่อีก ผมก็น่าจะออกมาชี้แจงได้ทิ้งท้ายของบทความกับคำว่า  “หยุดได้แล้ว”

    ถาม ฟังดูแล้ว ก็หยุดได้แล้วใช่ไหมครับ

    ตอบ เป็นเช่นนั้น ฝ่ายค้านทำหน้าที่ซักฟอกหมดแล้วก็หยุดได้แล้ว แต่ถ้าเป็นฝ่ายแค้นก็ควรไปหาเรื่องอื่นมาแค้นต่อไปจะดีกว่า

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ