ข่าว

เพื่อไทยขอเวลาอภิปรายนโยบาย รบ. เพิ่ม เป็น 3 วัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เพื่อไทย" ขอเวลาอภิปรายนโยบายรัฐบาล เพิ่ม เป็น 3 วัน อ้าง "สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์" ให้เวลาอภิปรายถึง 3 วัน 3 คืน

 

          วันที่ 18 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมร่วมซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และวิปของพรรค ได้พิจารณาเรื่องการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งล่าสุดทราบว่ารัฐบาลจะให้เวลาเพียง 2 วันนั้น ถือว่าให้เวลาน้อยมากเมื่อเทียบกับในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ให้เวลาอภิปรายถึง 3 วัน 3 คืน  

 

          “ดังนั้น ขอเรียกร้องว่า การอภิปรายนโยบายรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ และครั้งนี้ประชาชนให้ความสนใจมากกว่าทุกครั้ง ขอให้สนองความต้องการของชาวบ้านอย่างเต็มที่ ไม่ควรที่จะขี้เหนียวเวลา ทั้งนี้ 5 ปีกว่าที่ผ่านมาสังคมไม่ได้ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลและไม่ได้เสนอแนะอะไรเลย ครั้งนี้ชาวบ้านจึงฝากมาเสนอแนะด้วย อีกทั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จำเป็นต้องมีความรอบคอบ จึงจำเป็นต้องมีการท้วงติงและชี้แนะ จึงต้องใช้เวลามากกว่าเดิมอย่างแน่นอน ขอให้รัฐบาลทบทวนว่า เวลา 3 วันนั้นไม่ได้มากไปกว่าเดิม แต่เราขอเพียงแค่เท่าเดิม” นายสุทิน กล่าว 

 

          นายสุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้พรรคเปิดให้ ส.ส.แสดงความจำนงที่จะอภิปรายเป็นวันสุดท้าย โดยขณะนี้มีผู้แสดงความจำนงแล้วเกือบ 50 คน สำหรับเนื้อหาการอภิปรายนั้นจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม มีหัวหน้าชุดและวิทยากรเป็นพี่เลี้ยงในแต่ละชุด อาทิ อดีตผู้บริหารพรรค อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมถึงนักวิชาการทั้งภายในพรรคและนอกพรรค ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ก.ค. วิทยากรจะได้พบกับผู้แสดงความจำนงขออภิปราย จากนั้นในวันที่ 22 ก.ค.จะเริ่มติวเข้ม ส่วนเรื่องของเทคนิคและคำพูดต่างๆ นั้น จะมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายอดิศร เพียงเกษ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นวิทยากรให้ ยืนยันว่า การอภิปรายนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้จะเกิดประโยชน์กับการทำงานของรัฐบาลเอง แต่ถ้าหากรัฐบาลทำไม่ได้จริงๆ คำตอบสุดท้ายจึงจะเป็นการล้มรัฐบาล      

 

          ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับเนื้อหาการอภิปรายนั้นจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มคือ 1.ด้านเศรษฐกิจ อาทิ สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ระบบคมนาคม รายได้ท่องเที่ยวที่ลดลง ซึ่งจะชี้ให้เห็นว่ามีปัญหาอย่างไร 2.ด้านการเมือง อาทิ กฎหมาย หลักธรรมาภิบาล กรอบคุณธรรม จริยธรรม การทุจริตคอรัปชั่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคุณสมบัติของรัฐมนตรี 3.ด้านความมั่นคง อาทิ สิทธิเสรีภาพของประชาชน และการควบคุมสิทธิเสรีภาพด้านโซเชียล 4.ด้านสังคม อาทิ การสาธารณสุขของประเทศ ปัญหายาเสพติด ปัญหาเด็ก สตรี และคนชรา รวมถึงความไม่พร้อมที่จะนำนโยบายกัญชามาใช้กับประเทศไทย 5.ด้านการศึกษา ซึ่งจะมีอดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นพี่เลี้ยงให้ และ 6.ด้านการกระจายอำนาจ อาทิ การลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ว่าควรจะใช้อำนาจอย่างไร โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ จะเป็นผู้อภิปรายเปิดประเด็น ก่อนที่จะกลับมาสรุปในช่วงท้ายอีกครั้ง

 

          นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่รัฐบาลบอกว่าพรรคเพื่อไทยอย่าฉวยโอกาสล้มรัฐบาล และไม่ควรใจแคบนั้น ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ใจแคบ แต่น่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลมากกว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้วิตกจริตใดๆ แต่ทำตามกรอบของรัฐธรรมนูญ วันนี้ถือว่าเรามาเฉลยข้อสอบด้วยซ้ำ อยู่ที่รัฐบาลเองว่าจะทำการบ้านหรือไม่ ทั้งนี้ สำหรับรัฐมนตรีที่มีปัญหานั้นเราได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ 1.กลุ่ม 3 ป.คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กลุ่มที่ 2.กลุ่มรัฐมนตรีที่มีคดีค้างอยู่คือ นายอุตตม สาวนายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่มีคดีกบฏและเคยร่วมเดินขบวนล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และกลุ่มที่ 4.กลุ่มรัฐมนตรีที่ถือหุ้นสื่อคือ หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล นายสาธิต ปิตุเตชะ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสิ่งที่พรรคจะนำไปอภิปรายนั้น ไม่ได้มาจากการคิดเอง วิเคราะห์เอง แต่มาจากการรับฟังจากประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ