"จุรินทร์" ยกทัพเศรษฐกิจ เชื่อมสัมพันธ์ภาคธุรกิจไทย-จีน

      นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยกทัพทีมเศรษฐกิจของพรรค เช่น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค กทม. นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค รับฟังความเห็นเรื่องเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ไทย - จีน จาก นายกิตติพงษ์ เตรัตนชัย นายกสมาคมวิเทศพาณิชย์ ไทย - จีน และ ทีมงาน พร้อมทั้ง ตัวแทนจากภาคธุรกิจไทย-จีน เช่น นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการทำงานในฐานะฝ่ายบริหาร ผ่านกระทรวงต่าง ๆ ที่รับผิดชอบให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดกับประชาชนต่อไป การแสดงออกถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่มีต่อทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีความสามารถที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

       โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวว่า การร่วมรัฐบาลครั้งนี้เป็นมติแบบประชาธิปไตย จากการลงมติพรรคโดยเสียงข้างมากของที่ประชุมร่วมส.ส.กับกรรมการบริหารพรรคโหวตให้ร่วมรัฐบาล และครั้งนี้ต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหาระบบเศรษฐกิจฐานรากเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน จึงเลือกกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้เพื่อเดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจปากท้องของของเกษตรกร-รากหญ้า ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ นอกจากนั้นก็ยังมีเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะนำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นอุดมการณ์สำคัญของพรรค

      ขณะที่ นายกิตติพงษ์ เตรัตนชัย นายกสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีน กล่าวว่าในนามส่วนตัวนั้น สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีคนคุณภาพด้านการบริหารชาติ และมีบุคลากรไปทำงานในระดับโลกก็มาจากสถาบันพรรคประชาธิปัตย์ จึงชื่นชมเป็นส่วนตัวและภายใต้การนำของนายจุรินทร์ เชื่อมั่นและศรัทธามากว่าจะทำให้พรรคแข็งแกร่ง พร้อมเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์มีทีมเศรษฐกิจสมัยใหม่มาร่วมงานก็เชื่อว่าจะเสริมช่วยรัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นได้มาก ขอแสดงความยินดีกับท่านจุรินทร์ที่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และว่าที่รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์

      สำหรับสมาคมวิเทศพาณิชย์ ไทย - จีน ถือเป็นสมาคมที่มีประวัติการก่อตั้งที่ยาวนาน มีบุคลากรและสมาชิกเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ สมาชิกส่วนใหญ่มีการติดต่อค้าขายกับนานาประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะความสำคัญทางการค้าที่แน่นแฟ้นกับประเทศ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศในเอเชียอาคเนย์