"เพื่อไทย"ซัดเปรี้ยง ประยุทธ์ ออกคำสั่งคสช. พักงาน ขรก.แต่ไม่พบความผิดต้องคืนสิทธิ กว่า 100 คน ถาม"ประยุทธ์-ประวิตร" จะรับผิดชอบอย่างไร
25 มิ.ย.62-นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ออกมา ยอมรับว่า การออกคำสั่ง คสช.พักงานข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในข้อหาความผิดต่างๆ พบว่ามีหลายคนที่สามารถปลดล็อคออกจากคำสั่งคสช.ได้ และสำหรับผู้ที่สำนวนคดีไปสู่ ปปช.แล้วหากตรวจสอบแล้วไม่ผิดก็กลับสู่ตำแหน่งเดิมได้นั้นว่า คำกล่าวของนายวิษณุฯ เท่ากับยอมรับว่า การออกคำสั่งของหัวหน้าคสช.ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นหัวหน้า และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณเป็นรองหัวหน้าคสช.นั้น อาจจะถือได้ว่า เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะเป็นการใช้อำนาจเด็ดขาดโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมที่เป็นสากล ถือเป็นการกระทำแบบเหวี่ยงแหไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง ซึ่งอาจจะเกิดการกลั่นแกล้ง หรือใช้เป็นการต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองกันได้ สำหรับ กลุ่มที่ยังปลดล็อคไม่ได้ เพราะต้องไปที่ปปช. ก็มีความน่ากังวลเช่นกัน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ปปช.ในยุคนี้มีผู้บริหารระดับสูงเป็นคนใกล้ชิดผู้ใหญ่ใน คสช. จึงน่าสงสัยว่า อาจจะมีการก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของ ปปช.เพื่อหวังประโยชน์และให้คุณให้โทษกันในทางการเมืองได้
นายชุมสายฯ กล่าวต่อว่า คำสั่ง คสช.ดังกล่าวที่ไม่จำเป็นและยังไม่ถูกยกเลิก ยังคงเป็นภาระของสภาชุดใหม่ ที่จะต้องมาเสียเวลาพิจารณาทบทวน แก้ไขหรือยกเลิก ซึ่ง คสช.น่าจะยกเลิกได้และเชื่อว่าคำสั่ง คสช.บางฉบับที่จะต้องถูกยกเลิกไปก่อนที่ คสช.จะพ้นหน้าที่นั้น คงเป็นไปเพื่อประโยชน์ของ คสช. และเพื่อให้ไม่เป็นอุปสรรคต่อกลุ่มผู้มีอำนาจชุดเก่าที่ได้ตำแหน่งใหม่ในสภา ซึ่งหากเป็นจริงดังนี้ ต้องถือว่า คสช. ไม่ได้ใช้กฎหมายเลย แต่ได้ใช้อำนาจที่เขียนขึ้นมาเพื่อรับรองคุ้มครองทุกการกระทำไว้ก่อนแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นการทำลายระบบยุติธรรมของประเทศและกดทับสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างน่าตกใจที่สุด
นายชุมสายกล่าวว่า คำสั่ง คสช.แต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป็นผู้นำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละประเภท ในการให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ในตอนแรก แต่ยกเลิกคำสั่งในตอนหลัง อาจจะทำไปเพื่อมุ่งหวังต่อรองเพื่อประโยชน์ทางการเมืองในระดับท้องถิ่นก็ได้ จึงอยากถามไปยังคสช.ว่า ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากคำสั่งคสช. จากที่ถูกโยกย้าย ถูกสั่งพักราชการโดยไม่มีความผิดทั้งสองประเภทดังกล่าวนั้น จะได้รับการ เยียวยา หรือชดใช้ความเสียหายอย่างไร เช่น การเสียโอกาสความก้าวหน้า ความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติยศ ความอับอาย เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง