อัยการรับเรื่อง "เรืองไกร" ร้องส่งศาลรธน.ถอนสรรหา 194 ส.ว.

 

          19 มิ.ย.62 - ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 10.00 น. "นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อดีตทีมกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เดินทาง มายื่นหนังสือถึง "นายเข็มชัย ชุติวงศ์" อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้การกระทำของคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ใช้บังคับไม่ได้ และให้มีคำสั่งเพิกถอน 194 ส.ว.ที่น่าจะดำเนินการโดยไม่ชอบออกไปเสีย

 

         

            โดยมี "นายประยุทธ เพชรคุณ" รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนอัยการสูงสุด รับเรื่องไว้เพื่อเสนออัยการสูงสุดทราบ และพิจารณาต่อไป

            ขณะที่ "นายเรืองไกร" กล่าวว่า กรณีคำสั่ง คสช. ที่ 1/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. นั้นไม่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าไม่ใช่เรื่องของประชาชน นายวิษณุเป็นมือกฎหมายที่มีอภินิหารเยอะขอชื่นชม แต่ที่อ้างว่าไม่ใช่เรื่องของประชาชนขอคัดค้านเต็มที่ เพราะอำนาจอธิปไตยฝ่ายนิติบัญญัติ การได้มาซึ่ง ส.ว. ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อำนาจอธิปไตยเขียนชัดเป็นของปวงชนชาวไทย จะบอกไม่เกี่ยวกับประชาชนไม่ใช่ นายวิษณุเป็นนักกฎหมายมาตลอดชีวิตควรทบทวนคำพูด โดย เรื่องนี้ ส.ส.จะเสนอเป็นญัตติเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย

            "นายเรืองไกร" กล่าวอีกว่า ตามรัฐธรรมนูญฯ ปี 2560 มาตรา 269 แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ส่วนที่ให้ กกต.สรรหา 200 คนแล้วให้ คสช. เลือก 50 คน สำรอง 50 คน 2.ส่วนที่ให้คณะกรรมการสรรหา ส.ว. เลือก 400 คนแล้วให้ คสช. เลือก 194 คน กระบวนการตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัด คณะกรรมการสรรหา ส.ว. นั้น คสช.ต้องตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นกลางทางการเมือง โดย 9-12 คน มีปัญหาเพราะเปิดรายชื่อมาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปดำรงตำแหน่งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ได้อย่างไร ย่อมไม่เป็นกลาง

            การคัดเลือก คณะกรรมการสรรหา ส.ว. ต้องกำหนดวิธีการแล้วจึงจะดำเนินการหาบุคคลได้ แต่เท่าที่ทราบเรื่องนี้ประชุมกันมา 6 ครั้ง โดย 3 ครั้งประชุมอย่างเป็นทางการ อีก 3 ครั้งไม่เป็นทางการเพราะองค์ประชุมไม่ครบ มีครั้งหนึ่งไปประชุมที่มูลนิธิป่ารอยต่อ นั่นใช่สถานที่ราชการหรือ ไม่ควรจะไปอย่างนั้นการที่ไม่ประชุมตามขั้นตอน จึงไม่มีระเบียบคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ออกมาในราชกิจจาฯ ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ส่วนของ กกต.ตนไม่ท้วงเพราะทำถูก ออกระเบียบมาเกือบ 200 หน้า มี พ.ร.ฎ. แต่ในส่วน 194 คนไม่มีเลย

            "จึงเรียกร้องให้อัยการสูงสุด ต้องตรวจดู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ต้องรับผิดชอบ ท่านบอกเองบ้านเมืองต้องการให้เคารพกฎหมาย ท่านก็ต้องเคารพกฎหมาย การกระทำที่ไม่ชอบตามมาตรา 269 ทำให้เป็นอันใช้บังคับมิได้ แต่ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ กฎหมายให้มาร้องอัยการสูงสุดก่อน"

            ทั้งนี้ "นายเรืองไกร" กล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่เรียนต่อสื่อ จะเป็นประโยชน์ต่อ ส.ส.ใช้อภิปรายด้วย พ.ร.ฎ. กับระเบียบ กกต. มี แต่ทำไมไม่มี พ.ร.ฎ.กับระเบียบในการเลือก ส.ว. 194 คนด้วย เทียบให้เห็นชัดเจน ปฏิบัติเป็นสองมาตรฐานทั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนต้องทำให้เหมือนกัน จึงขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งเพิกถอนในส่วนการเลือก 194 ส.ว. ซึ่งเหลือแค่ 56 คนก็เป็นวุฒิสภา ส่วน 194 คนก็ไปดำเนินการให้ถูกต้อง ส่วนที่มาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีศาลรัฐธรรมนูญก็ควรวินิจฉัยให้เพิกถอนการคัดเลือกนายกฯ ตามไปด้วย เพราะเคยวินิจฉัยกรณีประธาน กกต. , ผู้ว่าฯ สตง. มาแล้ว หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้จะยึดเป็นบรรทัดฐานอันเดียวกัน