ข่าว

ไร้ทุจริต "นิพนธ์" แจงทุกปมข้อสงสัย ร้องค้านนั่ง รมช.มท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไร้ทุจริต... 'นิพนธ์' แจงทุกปมข้อสงสัย 'ศรีสุวรรณ'ร้องค้านนั่ง รมช.มท.

      นายนิพนธ์ บุญญามณี    ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อเป็น รมช.มหาดไทย  ได้กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักฺษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ไปยื่นคำร้องถึงนายกรัฐมนตรีคัดค้านการดำรงตำแหน่ง  โดยอ้างว่านายนิพนธ์ ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายถึง 5 เรื่อง ขณะปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.สงขลา และเรื่องอยู่ที่ ป.ป.ช. 

       โดยนายนิพนธ์ ได้ชี้แจงทีละประเด็น ว่า  เรื่องแรกโครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ 2 คันวงเงิน 52 ล้านบาท ซึ่งตนถูกร้องว่าไม่ยอมเบิกจ่ายเงินให้กับผู้ชนะการประมูลตามสัญญา จนเอกชนนำความไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลา และศาลได้พิพากษาให้ อบจ.สงขลา ต้องจ่ายเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามสัญญา ซึ่งเป็นเหตุให้ราชการเสียหายเพราะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มและกรณีดังกล่าวได้มีการร้องเรียนต่อที่ ป.ป.ช.ด้วย นั้น   ตนขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่การร้องเรียนว่าตนทุจริต แต่เป็นกรณีที่ตนไม่จ่ายเงิน เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวมีปัญหา และเป็นการดำเนินการจัดซื้อรถก่อนที่ตนรับตำแหน่งเป็นนายก อบจ.  เพียงแต่ว่ามาส่งมอบในช่วงที่ตนรับตำแหน่ง 

      นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปว่า อีกทั้งเมื่อตนเข้ารับตำแหน่งก็มีการร้องเรียนว่ามีปัญหาเรื่องการสมยอมราคา  ซึ่งทำให้ตนนึกถึงกรณีจัดซื้อรถดับเพลิง กทม.  ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันที่มีการจัดซื้อจัดจ้างกันก่อน และผู้ว่า กทม.มาตรวจรับและต้องชำระค่ารถดับเพลิง ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้ว่า การจ่ายเงินภายหลังก็ผิดอีกแม้ไม่ใช่คนจัดซื้อเพราะทำให้ กทม.เสียหาย  ตนจึงเห็นว่ากรณีรถดับเพลิง กทม. เป็นอุทาหรณ์ตัวอย่างมาแล้ว ตนจึงเห็นว่าถ้า อบจ.สงขลา ไม่จ่ายเงิน อบจ.สงขลา ก็ไม่เสียหาย เพราะเงิน 50 กว่าล้านบาทก็มากโขอยู่ ทำให้ตนไม่จ่ายเงินออกไป 

   "ขณะเดียวกันนั้นก็มีการร้องเรียนจากผู้ที่อ้างว่าถูกกีดกันไม่ให้เสนอราคาโดยร้องมาที่ อบจ.สงขลา และจังหวัด   ตนจึงให้มีการตรวจสอบเสียก่อนให้รอบคอบ และมีหนังสือจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดมายัง อบจ.สงขลา ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเรียนมาและให้ อบจ.สงขลา ระงับการจ่ายเงินไว้ก่อนและสั่งให้มีการตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียนและหากพบใครทำผิดให้ดำเนินการทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา  ดังนั้นถ้าผมจ่ายเงินไปเลยแต่ต่อมาปรากฏผลจากคณะกรรมสอบสวนว่ามีการกระทำผิดจริง  แต่มีการจ่ายเงินไปแล้ว ใครจะรับผิดชอบ ผมจึงเห็นว่าตรวจสอบให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ถ้าได้ความว่าไม่มีอะไรผิดกฎหมาย ก็จ่ายเงินไป เพราะงบประมาณมีอยู่ ซึ่งในระหว่างผมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางผู้ขาย ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ให้ อบจ.สงขลา ชำระค่ารถ และไปร้องต่อ ป.ป.ช. ด้วย ซึ่งการฟ้องที่ศาลปกครอง เป็นการฟ้องทางแพ่ง  ซึ่งหากไม่มีอะไรผิด ก็ต้องจ่ายเงิน เพราะเมื่อมูลหนี้ถูกต้องก็ต้องจ่ายเงิน  แต่ส่วนที่ไปร้อง ป.ป.ช. เป็นคดีอาญา ซึ่งต่างจากคดีแพ่ง"

    "กรณีทีไปยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่งที่ศาลปกครอง  มีหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ว่า ในกรณีที่เรื่องดำเนินคดีอยู่ในศาล ห้ามไม่ให้มีการจ่ายเงินหรือชำระเงินจนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าเมื่อมีเรื่องในศาลแล้ว  จะไปยอมความกันตามลำพังไม่ได้เพราะในอดีตเคยมีการใช้ศาล เป็นทางผ่านไปประนีประนอมยอมความกัน แล้วจ่ายแพงกว่าที่กำหนด ดังนั้นจึงต้องใช้คำพิพากษาถึงที่สุดจึงจะชำระหนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้คดียังไม่ถึงที่สุด ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด แต่งบประมาณที่จะใช้ชำระค่ารถยังอยู่เพราะ อบจ.สงขลาได้กันไว้แล้ว ไม่ได้นำเอาไปใช้จ่ายในเรื่องอื่น เพียงแต่รอจ่ายตามคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งจะทำให้เราจ่ายโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะว่าถ้าเราไปจ่ายเองเกิดความผิดพลาดขึ้นมา ต้องรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำหน้าที่ เรามีคณะกรรมกาตรวจสอบ และคณะกรรมการตรวจสอบที่ผมตั้งขึ้นมานั้น ไปตรวจสอบแล้วสรุปว่า การจัดซื้อจัดจ้างที่มีการร้องเรียนมานั้นส่อว่ามีมูลความจริงว่ามีการฮั้วกัน ผมก็ต้องฟังคณะกรรมการที่ผมตั้งไปสอบสวน ไม่มีเจตนาทำให้ใครเสียหาย ผมไม่ได้ทุจริตในโครงการนี้ เพียงแต่ว่า เมื่อมีการร้องเรียน ผมในฐานะผู้บริหารจึงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเสียก่อน จึงจะจ่ายเงินออกไป ผมทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ขององค์กร และทำตามหนังสือของจังหวัดที่ส่งมาให้ปฏิบัติ"

     นายนิพนธ์ ได้ชี้แจง ในเรื่องที่สองที่ถูกร้อง เกี่ยวกับโครงการสร้างสวนสาธารณะเมืองสงขลาเพื่อการท่องเที่ยว  ว่าไม่ขอพระราชทานอนุญาตจากกรมราชเลขานุการในพระองค์ ในการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ว่า  เรื่องนี้เดิมทางจังหวัดเตรียมหาที่จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ และเห็นว่าสนามกอล์ฟเก่าซึ่งอยู่ที่หาดสมิหลา คนใช้บริการไม่มาก ทางจังหวัดจึงมีหนังสือแจ้งมายัง อบจ.สงขลา ซึ่งยังมีหลักฐานหนังสือนี้อยู่  และทางจังหวัดเป็นคนตั้งชื่อมา ไม่ใช่ อบจ.สงขลา เป็นผู้ตั้งชื่อ  เป็นการแจ้งจากจังหวัดให้ดำเนินการในที่ดินแปลงนี้ ให้เป็นอย่างนี้ จึงเป็นที่มาที่ อบจ.สงขลา ไปขอที่ดินแปลงนี้จากกรมธนารักษ์ ซึ่งขณะนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้อยู่ ก็มีการโอนผู้ขอใช้มาเป็น อบจ.สงขลา แล้วให้ อบจ.สงขลา มาดำเนินการเป็นสวนสาธารณะ  และหนึ่งในนั้นก็มีการเตรียมสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์อยู่ด้วย ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการ เพราะว่าเวลาไปขอพระราชทานอนุญาตก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ต้องบอกด้วยว่าจะใช้สถานที่ใดในการก่อสร้าง มีเอกสารจากทางจังหวัดมายัง อบจ.สงขลา เกี่ยวกับเรื่องนี้เก็บอยู่ที่ อบจ.สงขลา ซึ่งตนพร้อมให้ดูเอกสารชิ้นนี้  

ไร้ทุจริต "นิพนธ์" แจงทุกปมข้อสงสัย ร้องค้านนั่ง รมช.มท.

ไร้ทุจริต "นิพนธ์" แจงทุกปมข้อสงสัย ร้องค้านนั่ง รมช.มท.

     ส่วนเรื่องที่สาม คือโครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ซึ่งถูกร้องว่าใช้เงินงบประมาณไม่ถูกต้องเกินกว่าอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปกว่า 34 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าว สตง. มีมติให้เรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืนทั้งหมด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้คืนให้ อบจ. สงขลา และมีผู้นำไปร้องเรียนเอาผิดต่อ ป.ป.ช.  ซึ่งเรื่องนี้นาย นิพนธ์ ชี้แจงว่า  ตนได้แจ้งไปยังสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาแล้วว่า ให้เอาเงินมาคืน อบจ.สงขลา เพราะว่าเราให้เงินอุดหนุนไป แต่เมื่อสมาคมเบิกจ่ายโดยไม่มีอำนาจหรือไม่มีระเบียบ ก็ต้องเอาเงินมาคืน ซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงที่เรียกเงินคืน ซึ่งทางสมาคมกีฬาฯ ก็ต่อรองว่าผ่อนจ่ายได้หรือไม่ ตนก็ปรึกษาไปยังจังหวัด ว่าจะให้สมาคมผ่อนชำระได้หรือไม่ ในที่สุดก็สรุปว่าให้ชำระทีเดียว ตอนนี้ ก็อยู่ในช่วงที่สมาคมฯต้องเอาเงินมาคืน อบจ. สงขลา แต่ไม่ใช่ 34 ล้านบาท หักแล้วเหลือ 4 ล้านบาทที่ต้องคืน เพราะว่า  อบจ.ฯ ไม่ใช่ผู้เบิกจ่ายแต่เป็นเงินอุดหนุน

   นายนิพนธ์  ชี้แจงเรื่องที่สี่ คือโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถอุบัติเหตุฉุกเฉิน ในราคาที่แพงเกินเหตุ โดยตั้งราคาไว้ที่ 5.7-6 ล้านบาท/คัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีผู้ร้องเรียนเอาผิดแล้วและอยู่ในการสอบสวนของ ป.ป.ช.อยู่  ว่า  อบจ.สงขลา ไม่ได้กำหนดราคารถพยาบาลขึ้นมาเอง แต่เป็นการซื้อตามราคาที่กรมบัญชีกลางกำหนดขึ้นมา เป็นไปตามบัญชีนวัตกรรมของกระทรวงการคลัง ราคาคันละ 5 ล้านเศษ ซึ่งเป็นรถพยาบาลที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ในรถครบถ้วน เป็นรถที่มีโครงสร้างของตัวรถแข็งแรง สำหรับเป็นรถพยาบาลโดยเฉพาะ แต่มีการเอาไปเปรียบเทียบกับรถเก่าที่เป็นรถตู้โดยสารแล้วเอามาดัดแปลงเป็นรถพยาบาล ซึ่งตกคันละประมาณ 2 ล้านบาท ทั้งที่มันคนละสเป็กกัน ถ้าได้เห็นเอกสารแล้วจะเข้าใจ

    นายนิพนธ์ ยังได้ชี้แจง ในประเด็นสุดท้ายที่ร้องว่า การอนุมัติงบประมาณโครงการให้ 4 อำเภอในสงขลามากกว่าอำเภออื่นๆ ทำให้ขาดความเสมอภาคและบริษัทที่ได้งานรับเหมาก็เป็นบริษัทเดิมๆที่เคยทำงานให้ อบจ.ยุคที่นายนิพนธ์เป็นนายกฯ จึงเข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กัน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ป.ป.ช.ได้รับเรื่องไว้สอบสวนแล้ว  ว่า 7 ปี งบประมาณที่ตนทำได้กระจายงบประมาณครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา จึงเป็นไปไม่ได้ที่อนุมัติงบประมาณโครงการให้แค่ 4 อำเภอ มากกว่าอำเภออื่นๆ โดยการจัดสรรงบประมาณต้องคำนึงถึงจำนวนประชากร พื้นที่ และความจำเป็น ซึ่งตนก็ยึดถือหลักเกณฑ์นี้ ทุกอำเภอได้จัดสรรอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนบริษัทรับเหมาก็เป็นบริษัทที่อยู่ในบัญชี ไปดูในบัญชีได้เลย ตนทำตามระเบียบทุกอย่าง

       นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่มีการกล่าวหาว่าต้องลาออกจากนายกอบจ.สงขลาเพื่อเป็นรัฐมนตรี ทำให้ต้องเสียงบประมาณนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะอยู่ในตำแหน่งเกินวาระแล้ว หากลาออกปลัดจังหวัดจะมารักษาการแทน ไม่ต้องเลือกตั้งซ่อมแต่อย่างใด

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ